บทที่ 8

พอเราเสร็จธุระในสวน ก็เดินกลับเข้าบ้าน เราไม่อยากให้แขกที่กำลังมาถึงเห็นเจ้าสาว ฉันดึงพี่สาวหลบไปมุมหนึ่ง “แอนทัวเน็ตต์ พี่โอเคไหม” “โอเคสิ เลิกถามได้แล้ว” เธอเดินกระทืบเท้าขึ้นบันไดไป ฉันเลยแวะไปที่ห้องครัวเพื่อเอาแชมเปญมาอีกขวด เผื่อจะช่วยให้พี่สาวใจเย็นลงได้ ฉันขอให้บริกรนำแก้ว 7 ใบขึ้นไปที่ห้องของเจ้าสาว ฉันยังไปไม่ถึงประตูเลย พนักงานเสิร์ฟหญิงก็มายืนอยู่ข้างๆ ฉันแล้ว ฉันเปิดประตูแล้วเราทั้งคู่ก็ก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนมองมาที่เรา “ฉันคิดว่าเราน่าจะดื่มแชมเปญกันอีกสักหน่อย” ทุกคนดูดีใจกันใหญ่ ก็ทำไมจะไม่ดีใจล่ะ ในเมื่อได้ดื่มแชมเปญชั้นเลิศฟรีๆ พี่สาวฉันเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วปิดประตู พอพนักงานเสิร์ฟรินเครื่องดื่มให้ทุกคนครบแล้ว ฉันก็พูดกับสาวๆ ว่า “พวกเธอช่วยให้ฉันกับพี่สาวได้คุยกันสักครู่ก่อนที่เราจะดื่มฉลองได้ไหม” ทุกคนเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ยกเว้นยัยเพื่อนเจ้าสาวเฮงซวยนั่น “เธอจะคุยอะไรกับเขาก็คุยต่อหน้าฉันได้เลย ฉันเป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนเจ้าสาวของเขานะ” หล่อนพูดพลางเท้าสะเอว “เขาเป็นพี่สาวฉัน ออกไป” “ไม่” หล่อนพูดใส่หน้าฉัน ฉันโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูหล่อน “อยากให้ฉันบอกเขาไหม ว่าเพื่อนรักกับเพื่อนเจ้าสาวของตัวเองกำลังแอบไปได้เสียกับคู่หมั้นของเขาอยู่ลับหลัง” หล่อนดูตกใจสุดขีดแล้วทำท่าจะปฏิเสธ แต่ฉันพูดขัดขึ้นมาก่อน “หยุดอยู่ตรงนั้นเลย ออกไปซะ ไม่งั้นฉันจะบอกเขา” หล่อนรีบเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้ฉันอยู่กับแอนทัวเน็ตต์ตามลำพัง

“แอนทัวเน็ตต์” ฉันเคาะประตู “ออกมาเถอะน่า นี่เหลือแค่เราสองคนแล้ว ฉันไล่คนอื่นออกไปหมดแล้ว” เธอเปิดประตูแล้วเดินไปยืนหันหลังให้ฉันที่ริมหน้าต่าง “มีอะไรไม่สบายใจเหรอเน็ตต้า” เธอปล่อยให้ฉันเรียกชื่อเล่นนั้น “ฉันตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม” “คำถามนั้นมีแต่พี่เท่านั้นที่ตอบได้ พี่รักเขาไหม” “ฉัน...คิดว่าอย่างนั้นนะ” นี่ไม่ใช่คำตอบที่ฉันหวังจะได้ยินเลย “เราคบกันมานานมากแล้ว นี่เลยรู้สึกเหมือนเป็นก้าวต่อไปที่ถูกต้อง” “พี่ก็รู้ใช่ไหมว่ามันยังไม่สายเกินไปนะ ฉันขับรถพาหนีให้เอง” “รถสปอร์ตของแม่น่ะเหรอ” เธอหัวเราะหึๆ “ใช่ ทำไมล่ะ” “ก็เพราะแม่จะฆ่าฉันน่ะสิถ้าหาฉันเจอ งานแต่งนี้มันแพงหูฉี่เลยนะ ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว เฮเลน” “โอ้ ที่รัก พี่ยังมีทางเลือกเสมอแหละ” “ไม่มีอีกแล้ว ฉันน่าจะยกเลิกมันตั้งแต่ตอนที่รู้เรื่อง” “ตอนที่รู้เรื่องอะไร” “เรื่องที่เขานอนกับเพื่อนเจ้าสาวของฉัน” “พี่รู้เหรอ” “ใช่ แต่เธอรู้ได้ยังไง” “มันชัดเจนจะตายไปเน็ตต้า” “เอาน่า ฉันเองก็มีข้อเสียเหมือนกัน” “ฟังดูเหมือนพี่กำลังพยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองที่จะแต่งงานกับเขานะ” “บางทีฉันแค่อาจจะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือกแล้วก็ได้ แค่ต้องทำใจให้เข้มแข็งแล้วเดินหน้าต่อไป” “แน่ใจนะ ฉันสัญญาว่าจะขับรถพาหนีให้” “ขอบใจนะเฮเลน แต่ฉันแน่ใจแล้ว” “โอเค งั้นพี่อยากได้เวลาเช็ดน้ำตาไหม” เธอหันกลับมามองฉัน แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด ว้าว เห็นได้ชัดเลยว่าพี่เป็นยอดฝีมือในการซ่อนความรู้สึกจริงๆ “ทีนี้ก็ให้พวกเขาเข้ามาได้แล้ว” พี่สาวฉันปั้นยิ้มเสแสร้งขณะที่ทุกคนเดินเข้ามาในห้อง ตอนนั้นเองที่ฉันตระหนักได้ว่าเธอมีรอยยิ้มแบบเดียวกันนี้ตลอดทั้งงานแต่ง

บ้าเอ๊ย ฉันไม่อยากแต่งงานกับคนแบบนี้เลย ฉันอยากมีความสุข อยากจะรู้สึกว่าขาดเขาไม่ได้ ไม่ใช่ถูกบังคับให้แต่งงาน เราทุกคนหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาแล้วชูขึ้น “แด่เจ้าสาว” เพื่อนเจ้าสาวพูดพร้อมกับมองฉันมาแวบหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าฉันก็มองกลับไป แม่เดินเข้ามาแล้วมองไปที่พี่สาว ท่านจับมือเธอแล้วมองอีกครั้ง “ลูกสวยมากแอนทัวเน็ตต์ สวยจนตะลึงไปเลย” “ขอบคุณค่ะแม่ ใกล้ถึงเวลาแล้วหรือยังคะ” “ใช่แล้ว พ่อของลูกรออยู่ที่โถงทางเดินแล้ว สาวๆ จ๊ะ ถ้าอย่างนั้นทุกคนไปประจำที่ข้างนอกได้เลย” แม่พูด ฉันเดินไปหาพี่สาวแล้วกระซิบ “พี่ยังมีเวลาจนกว่าจะถึงตอนที่ต้องพูดว่า ‘ตกลง’ นะ” “ขอบใจนะเฮเลน แต่ฉันไม่เป็นไร” แม่มองฉันอย่างไม่เห็นด้วย ฉันจึงเดินออกไปข้างนอกเพื่อยืนรวมกับเพื่อนเจ้าสาวอีก 5 คน ตอนที่เดินผ่านพ่อ ฉันก็หอมแก้มท่านเร็วๆ “พ่อหล่อจังเลยค่ะ” “ขอบใจมากลูก ลูกก็เหมือนกัน” “ขอบคุณค่ะ หนูต้องไปก่อนที่ ‘ท่านผอ.’ จะตะโกนอีกแล้วค่ะ” “หมายถึงแม่ของลูกสินะ” “ใช่เลยค่ะ”

เราทุกคนยืนอยู่ที่ประตูตามลำดับที่พี่สาวฉันบอกไว้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันต้องเดินนำหน้า ไม่ใช่เพื่อนเจ้าสาว แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ทำตามที่ถูกสั่งมา พอเสียงดนตรีเริ่มขึ้น ฉันก็เริ่มเดินไปยังที่ที่พวกผู้ชายยืนอยู่ ฉันมองไปที่แขกทุกคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เตรียมพร้อมที่จะเริ่มตัดสินวิพากษ์วิจารณ์ พอฉันเงยหน้าขึ้นมองไปทางฝั่งเพื่อนเจ้าบ่าว หัวใจฉันแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนเจ้าบ่าวคือใคร เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจอห์นนี่ มัวร์ คนที่ฉันแอบปิ๊ง และเขากำลังจ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่วางตา ทันทีที่ฉันเห็นเขา ฉันก็ไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้เลย มันเหมือนกับว่าทุกคนหายไป เหลือเพียงแค่เขากับฉันสองคนในสวนแห่งนี้ อันที่จริงฉันอยากจะเดินตรงเข้าไปหาเขาเลยด้วยซ้ำ เขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก มีกล้ามเนื้อมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ผมสีดำของเขาถูกหวีเสยไปด้านหลัง และดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น...เขาไม่ละสายตาไปจากฉันเลยตลอดเวลา ในที่สุดเมื่อฉันไปยืนอยู่ที่แท่นพิธีพร้อมกับเพื่อนเจ้าสาวคนอื่นๆ เขาก็ยังคงมองฉันอยู่ เพลงมาร์ชสำหรับงานแต่งงานเริ่มขึ้น ฉันมองไปยังจุดที่พี่สาวควรจะเดินออกมา แต่ฉันยังรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่จับจ้องอยู่ ฉันมองไปที่เขาแล้วกลับมามองพี่สาว เธอเดินมาถึงจุดที่เรายืนอยู่และจับมือเจค ‘บ้าจริง พี่กำลังจะแต่งงานกับเขา’ ฉันคิดในใจ เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง จอห์นนี่ยังคงมองฉันอยู่ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือยิ้มให้เขา ฉันอยากจะทำอะไรมากกว่านั้น ตอนนี้ฉันโตขึ้นและฉลาดขึ้นแล้ว ฉันรู้วิธีที่จะคว้าสิ่งที่ฉันต้องการ และฉันต้องการจอห์นนี่ แฟนในจินตนาการที่เป็นเจ้านายของฉันในคืนนี้ ช่างหัวมันปะไร จอห์นนี่จะต้องเป็นของฉัน แม้จะเป็นเพียงแค่คืนนี้ก็ตาม

บทก่อนหน้า
บทถัดไป