บทที่ 1 ตอนที่ 1

ณ ดินแดนอันไกลโพ้น มหานครกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ สิ่งก่อสร้างที่อลังการสวยงามของราชวงศ์สูงส่ง อัลลาห์ แห่งมหานคร   ซาเรีย

องค์รัชทายาท จามีล บิน คาลดุน อัล อัลลาห์ บุรุษผู้สูงส่งแห่งแดนทรายที่เป็นที่หมายปองของสาวน้อยใหญ่ทั่วโลก ดวงตาของเขาเป็นสีทองเรืองรอง ใบหน้าสี่เหลี่ยมกระด้างประกอบด้วยเครื่องหน้าอย่างเหมาะเจาะราวกับเทพเจ้าทรงปั้นแต่ง แต่จามีลไม่ได้มีดีแค่ที่ใบหน้าหล่อเหลาเท่านั้น แต่เรือนร่างของเขายังสูงสง่าใหญ่โต และเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสวยงาม ผลพวงมาจากการที่เขาชอบออกกำลังกายเป็นประจำนั่นเอง กีฬากลางแจ้งที่โปรดปรานก็คือการขี่ม้าและว่ายน้ำ หากแต่เป็นกีฬาในร่มคงหนีไม่พ้นเซ็กซ์ร้อนฉ่า จากหญิงสาวผู้โชคดีที่ถูกเรียกขึ้นมารับใช้บนแท่นบรรทม

ชมพูนุชระบายยิ้มเศร้าๆ ให้กับตัวเอง ขณะที่ดวงตากลมโตหวานซึ้งจับจ้องมองไปที่เรือนกายทรงพลังสง่างามที่กำลังพูดคุยอยู่กับลูกสาวคนสวยของอำมาตย์ฮานีฟ

มัสรานี คือผู้หญิงที่องค์รัชทายาทแห่งซาเรียมีใจด้วย หล่อนเป็นผู้หญิงที่งามพร้อมทั้งกิริยา มารยาท และชาติตระกูล ซึ่งควรคู่กับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์อย่างจามีลเป็นที่สุด หล่อนควรจะยินดีกับทั้งสองคนนั้น แต่กลับทำได้แค่เพียงหลั่งน้ำตาให้รินไหลออกมาอาบแก้ม

หล่อนไม่เคยทำใจให้ยินดีกับความรักของจามีลกับมัสรานีได้เลย แม้จะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม

กลีบปากอิ่มเต็มเม้มแน่นสนิท พยายามสูดลมเข้าปอดแรงๆ เพื่อเรียกสติให้กับตัวเอง ดวงตากลมโตกะพริบถี่ๆ เพื่อไล่ให้หยาดน้ำตาแห่งความอาดูรแห้งเหือดจากไป

หล่อนไม่มีสิทธิ์ที่จะเสียใจด้วยซ้ำ เพราะสำหรับองค์รัชทายาทแล้ว หล่อนก็เป็นแค่เพียงนางในต่ำต้อยที่เขาไม่เคยแม้แต่จะชายแลหรือจดจำเลยแม้แต่น้อย

หญิงสาวกระชับถาดใส่อาหารในมือแน่น และกลั้นใจที่จะเดินผ่านไป แล้วสายตาคมกริบประดุจดั่งคมมีดของจามีลก็ตวัดมองมาเสียก่อน และแน่นอนว่าเขาไม่พอใจ

“เจ้าเข้ามาทำอะไรแถวนี้” น้ำเสียงขององค์รัชทายาทกระด้างเสมอยามเห็นว่าคนที่มาก่อกวนคือหล่อน

“หม่อมฉัน... กำลังจะนำพระกระยาหารไปถวายพระชายาจัสมินเพคะ”

“งั้นก็รีบไปสิ อย่ามาโอ้เอ้แถวนี้”

“เพ... เพคะ” หล่อนก้มหน้ามองพื้น และรีบก้าวเท้าเดินออกห่างด้วยความรีบร้อน แต่ฉับพลัน แข้งขาดันทรยศ เมื่อมันสะดุดกันเองจนหล่อนเซถลาล้มคว่ำ เสียงถาดทองเหลืองกระทบลงกับพื้นดังสนั่นหวั่นไหว อาหารที่ถูกบรรจงตักใส่ถ้วยใบสวยมาอย่างประณีตสวยงามกระเด็นว่อนจนมีบางส่วนเปื้อนเปรอะมัสรานี

“ซุ่มซ่าม!”

หล่อนที่ล้มคว่ำกับพื้น หัวเข่ามีรอยแผลเลือดซึม รีบละล่ำละลักขอโทษองค์รัชทายาทจามีลกับมัสรานีด้วยความตื่นตกใจ

“หม่อมฉัน... ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉัน...”

“เจ้ามันน่าถูกเฆี่ยนนัก!” ดวงตาสีทองเรืองรองตวัดจ้องมองมาอย่างเกรี้ยวกราดเดือดดาลและแน่นอนว่าเขาจะต้องสั่งลงโทษหล่อนแน่นอนหากมัสรานีไม่ขัดขึ้นเสียก่อน

“นางคงไม่ได้ตั้งใจหรอกเพคะองค์รัชทายาท”

จามีลหันไปมองมัสรานี และถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งๆ ที่หญิงสาวแค่เปรอะเปื้อนเศษอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตรงกันข้ามกับหล่อนที่ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า แต่เขากลับไม่ไยดีเลยแม้แต่น้อย

“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า”

ชมพูนุชเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง น้ำตาไหลรินออกมาอย่างสุดจะกลั้น ตั้งแต่วันนั้น... วันที่องค์รัชทายาทจามีลพบหล่อนกับฟีรัสผู้เป็นพี่ชายที่สวน สายตาของชายสูงศักดิ์ก็มองหล่อนด้วยความเหยียดหยามดูแคลนเรื่อยมา ซึ่งหล่อนไม่ทราบสาเหตุเลยว่าเพราะอะไร

“หม่อมฉันไม่ได้เป็นอะไรเพคะ”

คำตอบของมัสรานีทำให้สีหน้าขององค์รัชทายาทจามีลคลายความเกรี้ยวกราดลงเล็กน้อย เขาละสายตาจากนางในดวงใจ มาจับจ้องมองหล่อนที่นั่งตัวสั่นอยู่กับพื้นแทน มองด้วยสายตาเลือดเย็นและแสนชิงชัง

“ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วอย่ามาให้เราเห็นหน้าเจ้าอีก”

น้ำเสียงขององค์รัชทายาทจามีลดุดันจนชมพูนุชตัวสั่นเทาเพราะหวาดกลัว

“เพ... เพคะ”

และเขาก็ไม่ให้ความสนใจหล่อนอีกเลย เขาหันไปหามัสรานี ก่อนจะพากันเดินจากไป ทิ้งให้หล่อนนั่งกองกับพื้น จมอยู่กับความเสียใจอยู่เพียงลำพัง

จะมีสักวันไหมนะที่หล่อนจะมีสิทธิ์ได้อยู่ในสายตาของจามีล แม้จะแค่สักเสี้ยววินาทีเดียวก็พอ

บทถัดไป