บทที่ 8 เทียบไม่ติด

“เอ น้องชาย ไฉนเราถึงคุ้นหน้าเจ้า”

ลู่ซินเหว่ยพยายามตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก คนที่ทักนางคือ อู๋ซีหลุน ท่าทางเหมือนกำลังตรวจตราความเรียบร้อยทั่วไป

“คือ ข้ามากับเรือสินค้า ได้สองสามวันแล้ว พักแถวๆ นี้ รอออกเดินทางในอีกห้าวันข้างหน้า จึงใช้เวลาที่มีอยู่ ขายของที่นำมาด้วย และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้อื่น”

นางชี้ไปยังตรอกเล็กๆ ซึ่งรู้ว่า เป็นพื้นที่ของพ่อค้าเร่ที่มากับเรือสินค้านั่นเอง

“ว่าแต่เจ้าค้าขายสิ่งใด!?”

ลู่ซินเหว่ยคิดอยู่ประเดี๋ยวก็โพล่งขึ้น ในสิ่งที่นางชำนาญ

“ภาพวาด กลอน ทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับตำราอุ่นเตียงใต้หมอน และหนังสือของปรมาจารย์ชื่อดัง ที่เป็นผู้เขียน เรื่องท่วงท่าแห่งรัก ซึ่งรู้กันเฉพาะในวังหลวงเท่านั้น!” หญิงสาวเป็นคนรักสนุก ชอบเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่ได้ฟังมาม่า(แม่บ้านใหญ่)กับขันทีชราเล่าให้ฟัง

ซึ่งนางมักเพ้อฝันถึงบทละครพลอดคำหวานของชายหญิง และบทอัศจรรย์ในหนังสือภาพอยู่สักหน่อย เขียนอ่านและวาดรูปก็ชำนาญ จึงไม่ใช่สิ่งเหนือความคาดหมายเมื่อนางติดปีกแล้วบินออกจากวังหลวง เพื่อนำตราเคลื่อนทัพมามอบแก่โฮ่วหรงเข่อ ผู้เป็นแม่ทัพฝีมือฉกาจ ซึ่งเขาอยู่ระหว่างการพักผ่อน ถึงอย่างนั้นโฮ่วหรงเข่อก็เป็นผู้เดียวที่อี้อ๋องไว้ใจได้ในยามนี้ เพราะเขาสามารถรวมทั้งทัพม้า ทัพเรือ และสำนักกระบี่เพื่อให้ความช่วยเหลือยามมีภัยร้ายแรงต่อราชสำนัก

“ดี เช่นนั้นนำภาพสำคัญมาให้ข้าชมเป็นขวัญตาสักหน่อย”

ลู่ซินเหว่ยพยักหน้ารับรู้ และแบมือขอเงินจากอีกฝ่าย

“สองตำลึงเงิน เป็นข้าชมภาพตัวอย่าง”

อู๋ซีหลุนถึงกับทำตาค้าง “น้องชาย เจ้าบอกราคาผิดหรือไม่”

“ฮ่าๆ ๆ มิได้ นี่คือ การซื้อขายที่ยุติธรรมที่สุด ภาพของข้า บันทึกขึ้นจากอดีตท่วงท่าของพระสนมคนงาม หลายต่อหลายคน ไฉนจะมีราคาเท่าป้ายประกาศจับคนได้เล่า”

ลู่ซินเหว่ยกล่าว และมองอู๋ซีหลุนอย่างประเมิน พอเห็นเขาล้วงไปในถุงผ้าเล็กๆ และหยิบตำลึงเงินออกมา นางก็ยิ้มย่อง พวกโจรสลัดช่างมีเงินทองล้นเหลือ

“พี่ชาย เราสมควรทำการค้ากัน”

จากนั้น อู๋ซีหลุนก็ชมภาพในตำราใต้หมอน สีหน้าเขาจากเคร่งเครียดเป็นผ่อนคลาย และดวงตาหวานเชื่อมขึ้นพิกล

“น้องชาย นอกจากตำราพวกนี้ เจ้ายังวาดภาพได้ใช่หรือไม่!”

“มิผิด นั่นคือความสามารถของข้า ที่มากกว่าการขายตำรา หรือหนังสือของผู้อื่น!”

“ดี... เช่นนั้น ข้าจะเปิดห้องในโรงเตี๊ยม ให้เจ้าวาดภาพข้า กับสาวงามสักสามสี่คน เรื่องนี้เจ้าเป็นธุระได้หรือไม่”

ลู่ซินเหว่ยอึ้ง และอ้าปากค้าง นางกำลังหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว การตามหาโฮ่วหรงเข่อยังไม่คืบหน้า ตอนนี้ยังริจะเป็นคนวาดภาพสัปดนขายอีก

“คือ... ขะ ข้า ไม่มีเวลามากมายเพียงนั้น” เมื่อลู่ซินเหว่ยปฏิเสธ สายตาของอู๋ซีหลุนจึงเปลี่ยนไป และเขาเอ่ยเสียงเหี้ยมว่า

“เจ้าดูมีพิรุธ ไหน หนังสือเข้าเกาะเผิงหนานของเจ้าอยู่ที่ใด!”

อู๋ซีหลุนแสดงท่าทางราวกับนายท่าตรวจคนเข้าเมือง ยามนั้นลู่ซินเหว่ยอยากจะมีปีกจริงๆ นางจะได้บินหนีหายลับไปอย่างรวดเร็ว ในยามนั้น หญิงสาวเตรียมถอยหนี ตกอยู่สถานการณ์เช่นนี้ นางจะให้อีกฝ่ายค้นตัว หรือจับคุมง่ายๆ ไม่ได้ อีกอย่างแม้นางเป็นคนต่างพื้นที่ แต่หลายคืนที่ผ่านมาได้สำรวจเส้นทางอย่างละเอียดพร้อมทำแผนที่เอาไว้ จุดใดซ่อนตัวได้ จุดใดใช้เป็นพื้นที่เก็บของและอาวุธที่นางกำนัล และองครักษ์เงาเตรียมสำหรับนาง ทั้งหมดอยู่ในหัวนางแล้ว

ทว่ายังไม่ทันได้เคลื่อนไหวไปที่ใดตามใจคิด ลู่ซินเหว่ยก็ถูกล้อมหน้าล้อมหลัง จู่ๆ คนของอู๋ซีหลุนก็ปรากฏตัวอย่างไม่ได้นัดหมาย

ฝ่ายอู๋ซีหลุน แรกเริ่มดูเป็นชายที่ไม่เคร่งครัด ทั้งยังชอบพูดจาสนุกสนาน หากในยามนี้ เขาเหมือนจะถอดแบบมาจากหัวหน้าไม่ผิด ประเมินแล้ว ลู่ซินเหว่ยต้องยอมรับว่า พญายมซานเกอ สอนลูกน้องเชื่องจริงๆ

“ไอ้น้องชาย กระวนกระวายเช่นนี้ กลัวสิ่งใด ก็แค่ส่งหนังสือเดินทางมาให้ข้าดู”

อู๋ซีหลุนเตรียมสั่งให้คนค้นตัวหญิงสาว ทว่าลู่ซินเหว่ยรีบยกมือขึ้นห้าม ใจหล่นหายไปแล้ว แต่สติยังมีอยู่ จึงรีบเอ่ยขึ้น

“คะ คือว่า... ข้าลืมไว้ที่ห้องพัก”

ลู่ซินเหว่ยแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ และอู๋ซีหลุนพยักหน้างึกงักตาม เขาเชื่อหรือไม่ เรื่องนี้ยากจะคาดเดา กระทั่งเขาเอ่ยออกมานั่นแหละ

“ลืม แล้วเจ้าไม่รู้หรือว่า หนังสือเข้าเกาะเผิงหนาน มันสำคัญมาก”

“ขะ ข้าย่อมทราบ เช่นนั้น เพื่อไม่ทำให้พี่ชายขัดใจ หรืออารมณ์เสีย ตำราภาพนั้นข้ามอบให้พี่ชาย เป็นสินน้ำใจดีหรือไม่”

อู๋ซีหลุนเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ตั้งใจจับพิรุธหญิงสาว สีหน้าเขาขรึม ไม่มีแววล้อเล่น

“กระทำเช่นนี้ เรียกได้ว่า เป็ยนการติดสินบนข้า”

“โอ้ มิใช่ ข้าเพียงแต่อยากมอบให้พี่ชาย หากยังไม่พอ ยังมีภาพวาดชายหญิงบนหลังม้า และภาพสาวน้อยกับกัวซาหัวเห็ดด้วยนะ พี่ชายรู้หรือไม่ ทั้งสองภาพนี้ ราคาไม่ต่ำกว่า ห้าสิบตำลึงเงิน และเป็นภาพต้นฉบับจริง มิใช่การวาดเลียนแบบขึ้น”

ลู่ซินเหว่ยหาทางรอดเต็มที่ จึงเสนอของสัปดนให้อีกฝ่าย

“ฮึๆ ๆ น้องชาย ข้าชอบใจที่เจ้ามอบของดีให้ แต่เรื่องวาดภาพ ข้ายังไม่ลืม” อู๋ซีหลุนหมายถึง การวาดภาพเริงสวาทของเขากับหญิงงาม

หญิงสาวเหงื่อแตก และมองหาทางหนีทีไล่ ซึ่งเป็นตอนนั้นเอง ขันทีเฮาโผล่เข้ามา โดยข้างกายเขา มีบุรุษร่างสูงใบหน้าขึงขังสักหน่อย แต่ก็หล่อเหลาจนคนที่อยู่บริเวณนั้นเทียบไม่ติด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป