บทที่ 2 ร้อนเสน่หา บทที่ 2

เขาพูดไม่ทันจบประโยคก็มีชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเดียวกันเดินเข้ามาหยุดที่คนทั้งสอง เดือนลดาเห็นว่าพนักงานต้อนรับผู้นั้นก็หันกลับไปมองด้วยความทึ่ง

“เฮ้...โบ คุณมาเร็วมากเลยนะ ผมวางสายยังไมทันถึงสามนาที”

“พอดีผมลงลิฟท์มาที่ชั้นล็อบบี้ แล้วใครกันที่เป็นแขกคนสำคัญจะขอพบคุณสมิธ?”

“นี่ไง...คุณเดือนลดา เทอรรี่ เมย์ เธอต้องการพบท่านประธานเพราะมธุระที่...สำคัญมาก”

บทที่ 2

โบ...ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดชาวอเมริกันรูปร่างสูงใหญ่แต่หน้าตาดีมองร่างบอบบางในชุดกระโปรงป้ายและถือสายสะพายกระเป๋าไว้แน่น เขามองเธอคล้ายเคลือบแคลง ใบหน้าถมึงทึงของเขาทำให้หญิงสาวชักเริ่มประหม่า

“ถ้าอย่างนั้นตามผมมาทางนี้ ผมมีเวลาให้คุณแค่สิบนาที เพราะตอนนี้คุณสมิธกำลังอยู่ในช่วงพักที่ห้องส่วนตัวของเขา”

พอเขาพูดเช่นนั้นเดือนลดาก็มีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมาเล็กน้อย เธอมาที่นี่ด้วยความหวัง และช่างเป็นโอกาสอันดีที่เธอมาได้จังหวะพบกับเจ้าหนี้ของแม่บุญธรรม

บอดี้การ์ดร่างใหญ่พาเธอขึ้นไปยังชั้นบนของโรงแรมซึ่งสำหรับเดือนลดาแล้วมันมีขนาดใหญ่และหรูหรามากจนหญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าเธอต้องทำงานสักกี่เดือนจึงจะพอจ่ายค่าห้องพักแค่เพียงคืนเดียว

“ถึงแล้วครับ  คุณสมิธอยู่ด้านใน อย่าลืมว่าคุณมีเวลาแค่สิบนาทีเท่านั้นนะครับ คุณเมย์”

“ค่ะ...ขอบคุณค่ะ”

หญิงสาวคิดว่าแค่สิบนาทีก็เหลือเฟือแล้วแค่ให้เธอได้พบกับเจ้าของโรงแรมใหญ่ติดอันดับของลาสเวกัสซึ่งมันอาจเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยหากมาผิดจังหวะและเวลา

โบไม่ได้ติดตามเดือนลดาเข้าไปในห้องพักที่มีขนาดใหญ่และเทียบกันไม่ได้เลยกับบ้านหลังเล็กของเธอแถบชานเมืองแอตแลนตา  ทั้งยังหรูหราโอ่อ่าจนเรียกได้ว่าทุกตารางนิ้วนั้นน่าจะมีมูลค่าการตกแต่งด้วยเงินจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว

“มิสเมย์”

เสียงทุ้มห้าวจากด้านหนึ่งของห้องพักในส่วนที่เป็นห้องรับแขกดังขึ้นดึงหญิงสาวให้หลุดจากภวังค์ที่ยังประหม่าระคนตื่นเต้น เดือนลดาหันไปตามเสียงนั้น ดวงตาคู่คมเลื่อนไปหยุดที่ร่างสูงของบุรุษหนุ่ม เขาอยู่ในชุดสูทผ้าไหมสีดำ และใบหน้าคร้ามเข้มของเขาสะกดความรู้สึกของหญิงสาวให้นิ่งไปในชั่วขณะ

“คุณใช่หรือเปล่า...มิสเดือนลดา เทอร์รี่ เมย์?”

เขาถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงก้องกังวานที่ทำให้ร่างบอบบางชะงักกึก บุรุษผู้มีเรือนร่างสูงใหญ่กำยำและชุดสูทภูมิฐานช่วยเสริมความสง่าเป็นเท่าตัว ใบหน้าคร้ามคมใต้กรอบเรือนผมสั้นสีน้ำตาลแกมทองแดง ดวงตาคู่คมบนใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรกรีกจ้องมองมายังเธอ ผู้มาเยือนที่ตกอยู่ในอาการตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า

“ผมไม่ได้เรียกชื่อคุณผิดใช่ไหม คนของผมรายงานผมว่าอย่างนั้น...ผมคือเอเดรียน สมิธ”

เอเดรียน สมิธ

ไม่ใช่คนมีอายุสักห้าสิบหรือหกสิบปีอย่างที่เธอคิด เขาหนุ่มแน่น อายุน่าจะอยู่ราว ๆ สามสิบปีและที่สำคัญความหล่อเหลาเต็มไปด้วยเสน่ห์บาดใจทำให้หญิงสาวผู้เดินทางมาจากแอตแลนตาถึงกับหายใจผิดจังหวะ

“สะ...สวัสดีค่ะ คุณ...สมิธ” เสียงของเธอตะกุกตะกัก หญิงสาวเสยผมสีดำสนิทและเรียบลื่นของเธอขณะที่ชายหนุ่มค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยท่าสายตาคมคู่นั้นไม่ยอมละไปจากร่างเล็กบอบบางแม้แต่น้อย

“ฉันคือเดือนลดา เทอร์รี่ เมย์...ฉัน...มีธุระสำคัญอยากคุยกับคุณค่ะ”

เธอบอกความประสงค์ หญิงสาวประสานมือเข้าด้วยกัน ทำไมเธอถึงรู้สึกตื่นเต้นมากอย่างนี้ ตื่นเต้นมากถึงขนาดที่ว่ากำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาก็แค่ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเท่านั้นเอง

“ธุระของแม่คุณน่ะหรือ” เขากล่าวขึ้น ดูเหมือนเอเดรียนจะล่วงรู้ในสิ่งที่หญิงสาวกำลังจะเปิดปากพูด เดือนลดาซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขารีบพยักหน้า

“ค่ะ...เรื่องของแม่ฉัน ฮอลลี่ เทอร์รี่ เมย์ ท่านเป็นหนี้คุณอยู่ตอนนี้”

“มีอะไรสำคัญมากกว่านี้อีกมั้ย ถ้าไม่มีผมจะได้กลับไปพบแขกของผม”

“คุณสมิธ ได้โปรด!”

เดือนลดารีบโพล่งออกมาเมื่อเห็นว่าร่างสูงทำท่าลุกขึ้นเหมือนกับว่าเขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอกำลังจะบอกเขา ร่างเล็กรวบรวมความกล้าก้าวเข้าไปหยุดตรงหน้าเขา เธอมีเวลาแค่สิบนาที หากไม่รีบทำอะไรตอนนี้เธออาจไม่มีโอกาสอีกเลยก็เป็นได้

และชั่วแว่บในความคิดของชายหนุ่ม เมื่อเดือนลดาก้าวไปหยุดตรงหน้าเขาจึงเห็นว่าเธอตัวเล็กกว่าเขามากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้เอเดรียนไม่อาจละสายตาไปจาผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้าได้ นั่นคือความงามอย่างธรรมชาติในแบบฉบับสาวเอเชียของเดือนลดา

เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวจัด ใบหน้านวลเนียนและขาวราวหยวกตัดกับสีผมดำสนิทเข้มขลับและเรียบลื่น ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเป็นประกายใสสว่างขับความงามบนใบหน้าสวยหวาน จมูกของเธอโด่งเล็ก ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อซึ่งเขาเห็นแว่บเดียวก็รู้ว่าเดือนลดาแทบไม่ได้เมคอัพใบหน้าของเธอแม้แต่น้อย

ชายหนุ่มอนุมานในใจว่าเดือนลดาอาจเป็นลูกครึ่งที่มีพ่อเป็นชาวเอเชียเพราะเขาเคยเห็นฮอลลี่ซึ่งเป็นหญิงชาวอเมริกันร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาถอนหายใจ ดวงตาของเขามีสีเข้มขึ้นโดยที่หญิงสาวไม่ทันสังเกต

“มีอะไรจะพูด..ก็ว่ามา” เขากล่าวห้วนสั้นก่อนจะรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายเปิดปาก

“ฉันมาขอร้องให้คุณช่วยลดหย่อนหนี้ให้แม่ของฉันค่ะ คุณสมิธ...ฉันรู้ว่าแม่เป็นหนี้คุณ...ก้อนใหญ่มาก แต่ตอนนี้ท่านกำลังลำบาก ท่านหาเงินมาชดใช้ให้คุณไม่ทัน ที่ฉันมาหาคุณที่นี่ก็เพื่อขอร้องให้คุณเห็นใจท่าน”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป