บทที่ 5 สาวขาวีน
“เชิญครับคุณแนนนี่”
“เพราะแกคนเดียวที่ทำให้พอร์ชทิ้งฉัน”
“ถ้าคุณแนนนี่ไม่กลับก็ตามใจนี่ครับกระเป๋า”
“หยุดนะนายเปาแกเป็นแค่ลูกน้องของพอร์ชอย่าสะเออะมาตีเสมอฉัน คอยดูนะฉันจะให้พอร์ชไล่แกออก” นิวารินตวาดใส่คนยนิทของแฟนหนุ่มที่ไม่เคารพเธอทั้งที่เป็นแฟนของเจ้านาย
“งั้นเรียกแท็กซี่กลับเองนะครับ” ปรีชาไม่กลัวจะถูกไล่ออกเพราะเจ้านายของเขามีเหตุผล
“หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้เปา ไปส่งฉันที่คอนโดด้วย” นิวารินกระฟัดกระเฟียดขึ้นรถแล้วโยนกระเป๋าเดินทางใบเล็กใส่ปรีชาด้วยความโมโหและยังจิกเรียกปรีชาว่าไอ้
ปรีชามองนิวารินและมองคนขับรถก่อนจะปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งคู่กับสมิตคนขับรถที่สนิทกันดีเพราะทำงานร่วมกันเรียกว่าเป็นคู่หูของเขาก็ได้ถึงแม้สมิตแกจะไม่ได้จบปริญญาตรีแต่แกก็จบปวส.สายวิชาชีพช่างยนต์แล้วถูกเรียกตัวมาช่วยขับรถตั้งแต่พฤทธิ์กลับมาทำงานเพราะเจ้าสัวติรภพเห็นว่าหน่วยก้านดีจึงส่งไปเรียนการต่อสู้เบื้องต้นและยิงปืนเพื่อให้ช่วยดูแลหลานชายของท่าน
“ไหวมั้ยเปา หึหึๆๆ..” สมิตถามคู่หูรุ่นน้องขำๆ
“ไหวไม่ไหวก็ต้องไหวมั้ยพี่เขียว ผมล่ะหนักใจแทนคุณพอร์ชจริงๆถ้าได้เป็นเจ้านายอีกคนผมคงตกงานแน่ครับ” ปรีชาตอบสมิตหรือพี่เขียวแล้วถอนหายใจ
“ทนมาได้ตั้งนานแล้วจะทนต่อไปอีกไม่ได้ก็ให้มันรู้ไปสิจริงมั้ย” เขาก็ทนเหมือนกับปรีชาหากทำอะไรไม่พอใจนิวารินก็จะเหวี่ยงวีนใส่พวกเขาทันทีแต่ไม่ทำต่อหน้าเจ้านาย
“ครับพี่ ไปส่งเธอที่คอนโดนะครับ”
ฝ่ายพฤทธิ์ก็ตรงไปโรงพยาบาลทันทีพอถึงก็ขึ้นไปห้องพักของปู่ด้วยความเป็นห่วงเพราะท่านอายุแปดสิบกว่าแล้วยังแข็งแรง ส่วนย่าเสียไปเมื่อสิบปีก่อนจึงเหลือปู่คนเดียว
“ก๊อกๆๆ..”
“คุณพอร์ชมาได้ยังไงครับ” นายไสวถามหลานชายของเจ้านายที่ยืนตรงหน้าเพราะเจ้านายห้ามไม่ให้ใครบอกหลานชาย
“ผมบินมาครับ แล้วปู่เป็นยังไงบ้างครับลุงไหว”
“ดีขึ้นแล้วครับ ท่านเจ้าสัวความดันสูงทำให้หน้ามืดจะเป็นลมครับ”
“แล้วคนทำให้ปู่เป็นแบบนี้ไปหนแล้วครับ มาเยี่ยมปู่บ้างมั้ยครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยความไม่พอใจแล้วเดินเข้าไปในห้องพักของปู่ที่นอนพักผ่อนอยู่
“เสียงดังอะไรกันเจ้าพอร์ช” เจ้าสัวรนภพแกล้งว่าหลานชายก่อนที่จะถูกหลานชายบ่นตัวเอง
“ปู่ก็ดูแข็งแรงดีนี่ครับ รู้อย่างนี้ผมอยู่เที่ยวต่อดีกว่า” คนเป็นหลานพูดกวนปู่แต่สายตามองด้วยความรักและเป็นห่วงท่าน
“ก็ดีสิ เผื่อแกจะมีเหลนให้ปู่เลี้ยงสักคนหรือว่าไม่มีน้ำยาล่ะ” คนเป็นปู่ก็ปากดีไม่ยอมแพ้หลานชายที่เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกจึงรักเหมือนลูกมากกว่าหลานเพราะลูกชายกับลูกสะใภ้จากไปเพราะเครื่องบินตกก็ยิ่งทำให้ท่านรักหลานทั้งสองมากแต่ท่านไม่ได้ลำเอียงเพราะรักหลานเหมือนกันทุกคนแค่ไม่ได้ใกล้ชิดเหมือนพัชรวลัยกับพฤทธิ์เท่านั้น
“น้ำยาน่ะมีแต่ยังหาแม่ของลูกไม่ได้เลยปู่ เอาไว้ผมหาได้เมื่อไหร่ปู่ได้อุ้มเหลนแน่ครับ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ปู่อาจจะตายก่อนเห็นเหลนก็ได้”
“พี่พู่ไง อีกไม่กี่เดือนพี่พู่ก็แต่งงานแล้วครับ ดีไม่มีป่านนี้แอนดี้เสกเหลนปู่เข้าท้องพี่พู่แล้วก็ได้ครับ” พฤทธิ์พูดถึงพี่สาวกับพี่เขยที่ตอนนี้จดทะเบียนสมรสกันแล้วแต่อยู่ด้วยกันก่อนแต่งมานานแล้ว
“ไอ้เจ้านี่ พูดถึงพี่ถึงเชื้อให้มันดีไหน่อยสิใครมาได้ยินเข้าจะคิดยังไง” ถึงแม้หลานสาวจะอยู่ก่อนแต่งกับแฟนหนุ่มแต่แอนดี้ก็เข้าตามตรอกออกตามประตูให้พี่แม่มาสู่ขอนานแล้วแต่หลานสาวของท่านยังไม่อยากแต่งงานและเมื่อต้นปีก็พากันมาบอกท่านว่าพร้อมจะแต่งงานแล้วจึงหาฤกษ์งามยามดีให้และอีกสี่เดือนก็จะแต่งงานแล้ว
“ไม่มีใครว่าหรอกปู่ ว่าแต่คู่กรณีของปู่ไม่มาเยี่ยมเหรอครับ”
“ปู่ไม่ให้แม่พู่บอกใครน่ะ”
“ทำไมครับปู่ อาโมต้องการอะไรอีกทุกวันนี้ที่ได้ไปยังไม่พอใจอีกหรือไงกัน” พฤทธิ์พูดถึงอาสาวที่ถูกสามีจูงจมูกเพื่อตำแหน่งประธานบริษัทและก่อหวอดภายในบริษัทแต่เขาควบคุมได้จึงมาพาลกับปู่ว่ารักเขากับพี่สาวมีอะไรก็ยกให้ทั้งที่ตัวเองไม่มีความสามารถเองแต่อยากนั่งตำแหน่งสำคัญและตำแหน่งประธานบริษัทเขาก็ได้มาเพราะความสามารถ ส่วนสามีและลูกทั้งสองของอาสาวทั้งสองคนก็ไม่เอาถ่านนอกจากรอกินเงินกงสี ต่างจากอาคนเล็กที่เป็นรองประธานฝ่ายบริหารและภรรยากับลูกทั้งสองก็ทำงานตามความสามารถไม่มีใครมีปัญหายกเว้นอาคนรองที่เรียกร้องไม่หยุด
“ก็เรื่องเดิมๆนั่นแหละ แต่คราวนี้มาขอให้ตาเก้าเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารฝายการตลาดแต่ไม่มีประสบการณ์ปู่กลัวมันจะมาป่วนงานในบริษัทมากกว่า” เจ้าสัวรนภพพูดถึงหลานชายอีกคนอย่างระอาเพราะทำอะไรก็ไม่สำเร็จและท่านก็ลงทุนให้ทำธุรกิจนับสิบก็ไม่ประสบความสำเร็จและจะมาขอทำงานในบริษัทในตำแหน่งใหญ่และสำคัญอีกท่านจึงไม่รับปากเพราะมันเป็นหน้าที่ของหลานชายทำให้ลูกสาวไม่พอใจโวยวายใส่ท่านจนความดันขึ้นทำให้ต้องมานอนโรงพยาบาล
“ถ้านายเก้าอยากทำงานก็ให้มันมาคุยกับผมดีกว่าครับ ทางบริษัทของเรามีแบบทดสอบให้พนักงานทำเพื่อเลือกตำแหน่งหน้าที่ให้อย่างเหมาะสมครับ” แต่สำหรับกวีเขาแน่ใจว่ามันไม่เหมาะกับงานในบริษัทเลย แต่ถนัดเรื่องดื่มกินเที่ยวเมาหัวราน้ำเท่านั้น
