บทที่ 3 ทำแผล
หมับ!!!
จังหวะที่รสิตากำลังจะก้าวขาออกทางประตู เธอก็โดนมือหนาคว้าแขนไว้
พรึ่บ!!!
รสิตาใช้ทักษะป้องกันตัวที่มีสะบัดมือของชายหนุ่มคนนั้นออกไปโดยง่าย ทำให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวล้มหงายหลังลงไป ส่วนเธอก็รีบหมุนตัวเพื่อที่จะเดินออกจากตรงนั้น
แกร็ก!!!
รสิตาคุ้นเคยกับเสียงนี้ดี เธอจึงยกมือสองข้างขึ้นแล้วค่อยๆ หันกลับมามองคนที่กำลังถือปืนจ่อเธออยู่
“ถ้าไปด้วยกันดี ๆ ก็ไม่ต้องเจ็บตัว” สมภพกล่าวขณะที่ยังเล็งปืนไปทางรสิตา
“จะพาฉันไปไหน”
“ทำแผลเป็นมั้ย”
“เป็น”
“ดีเลย งั้นไปช่วยทำแผลให้นายหน่อย” สมภพลดปืนลง รสิตาจึงลดมือลงเช่นกัน
“พวกพี่ก็ทำเป็นไม่ใช่เหรอ” รสิตาถามกลับ
“ผู้หญิงมือเบากว่า” ชายหนุ่มเชื่อแบบนั้น “น้องเป็นพนักงานที่นี่ใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ”
“ไปช่วยทำแผลก่อน เดี๋ยวฉันบอกคุณโจเพิ่มโบนัสให้”
ความลังเลของรสิตาหายไป เมื่อได้ฟังข้อเสนอของสมภพ
“แค่ทำแผลใช่มั้ย”
“อื้อ แค่ทำแผล” สมภพยืนยัน
“ก็ได้” รสิตารับคำ
“ตามมา”
รสิตาเดินตามไปจนถึงห้องทำงานที่อยู่ด้านบน เธอไม่เคยขึ้นมาบนนี้เลยสักครั้งตั้งแต่มาทำงานที่นี่ แต่เธอจำได้ว่ามีสาวนั่งดริ้งที่เธอค่อนข้างสนิทเคยบอกเธอไว้ว่าถ้าไม่จำเป็นห้ามขึ้นมาวุ่นวายบนนี้เด็ดขาด มันเป็นสถานที่ต้องห้าม หากเจ้านายไม่เรียกพบห้ามไปเหยียบเด็ดขาด
“เข้าไปสิ” หลังจากเปิดประตูสมภพก็หลีกทางให้รสิตาเข้าไป
“ในนี้เหรอ” รสิตาชี้ไปในห้องที่ประตูถูกเปิดอ้าไว้ เธอมองเข้าไปด้านก็เห็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่วางอยู่ใจกลางห้อง
“อือ”
“แล้วพี่ไม่เข้าไปเหรอ” รสิตาหันกลับมาถามคนที่อยู่ด้านหลัง
“ฉันรอด้านนอก”
“แล้วด้านในมีใครบ้าง”
“เข้าไปเถอะน่า อย่าถามมาก”
“อ๊ะ...” รสิตาโดนผลักเข้าไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำให้เธอเกือบล้มคะมำ
ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอยกเว้นหนุ่มร่างสูงกำยำที่ตอนนี้นอนราบไปกับโซฟาพร้อมท่อนบนที่เปลือยเปล่า ตรงซี่โครงด้านขวามีรอยกระสุนเฉี่ยวเป็นทางยาว
“ใครอนุญาตให้เธอเข้ามา” เอกสิทธิ์ถามขึ้น
“พี่คนที่อยู่ด้านนอกบอกให้ฉันเข้ามาช่วยทำแผล” เธอชี้ออกไปนอกห้อง
“อ้อ...ดีเลย มา ๆ” ทันทีที่ได้ยินว่ามาช่วยทำแผล ทั้งหมดก็วางอุปกรณ์ทำแผลที่อยู่ในมือลงและเปิดทางให้รสิตาทันที
รสิตาค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างไม่แน่ใจมากนัก เธอก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
“เริ่มเลย เช็ดเลือดสิ”
บดินทร์ผายมือให้รสิตาเริ่มลงมือ รสิตาจึงวางของที่เธอถือมาลงบนโต๊ะ ก่อนจะเข้าไปดูแผลใกล้ๆ
“พวกเราไปรอด้านนอกเถอะ ดูน้องมันเขิน ๆ” ราเชนทร์เสนอ
“เฮ้ย!! จะทิ้งน้องมันไว้กับนายเหรอวะ” บดินทร์รีบแย้ง
“แต่งตัวเชย ๆ แบบนี้นายไม่ทำอะไรหรอก มึงก็รู้สาว ๆ ของนาย ขาว สวย หมวย เอ็กซ์” ราเชนทร์กระซิบตอบ เพราะกลัวมาเฟียหนุ่มที่นอนอยู่ได้ยิน
“กูไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”
“แล้วอะไร” ราเชนทร์ถาม
“ก็ถ้านายอารมณ์เสียก็โดนไง”
“นายไม่ทำผู้หญิงหรอกน่า มึงเชื่อกู แต่ถ้าพวกเรายังอยู่เนี่ย พอนายไม่ทำผู้หญิงใช่มั้ย นายก็จะมาทำพวกเราแทน” บดินทร์ขยายความ
“เออ จริงว่ะ” เอกสิทธิ์ที่นิ่งฟังอยู่ก็เห็นด้วย เพราะเขาอยู่กับมาเฟียคนนี้มาตั้งแต่แรก เขารู้นิสัยของเจ้านายดี
รสิตามองตามทั้งสามคนที่พากันเดินออกไปอย่างน่าสงสัย เธอหันกลับมามองคนที่ยังนอนอยู่บนโซฟาซึ่งเขาเอามือก่ายหน้าผากแล้วหลับตา เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาหลับหรือเปล่า
‘ถ้าคนพวกนั้นเรียกเขาว่าเจ้านาย แสดงว่าผู้ชายคนนี้ก็คือ รณกร มาเฟียหนุ่มเจ้าของคาสิโนแห่งนี้น่ะสิ’
‘เอาเถอะ เขาจะเป็นใครก็ช่าง ตอนนี้รีบทำแผลให้เขาให้เสร็จ จะได้รีบกลับไปหายาย’ ลลิลคิดในใจ
เธอหยิบผ้าผืนเล็กชุบลงไปในน้ำแล้วบิดพอหมาด ๆ จากนั้นก็เช็ดรอยเลือดบริเวณรอบ ๆ ออก ตอด้วยสำลีชุบแอลกอฮอร์แล้วเช็ดไปรอบ ๆ แผลอย่างเบามือ คนที่นอนอยู่สะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้หันมามอง เขายังหลับตาอยู่อย่างนั้น
จริง ๆ ถ้าไปโรงพยาบาลเขาอาจจะโดนเย็บแผล แต่เมื่อไม่ไปก็ต้องทำแผลไปตามปกติ
“ซี๊ด!!!” เสียงร้องซี๊ดทำรสิตาตกใจ เธอเบิกตากว้างเมื่อผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นเหมือนจะฟาดเธอ
รสิตารีบก้มหน้าลงแล้วยกแขนเพื่อป้องกันตัวเอง
“อ๊ะ...” แต่ทว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่ออยู่ๆ รสิตาก็โดนมาเฟียหนุ่มกระชากแขนแล้วดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักพร้อมทั้งใช่มือข้างหนึ่งบีบคางของเธอไว้
“ใครส่งเธอมา” น้ำเสียงดุดันนั้นทำให้รสิตาต้องสะดุ้ง
“มะ...ไม่มี...ไม่มีใครส่งมาทั้งนั้นแหละ” ลมหายใจที่รดอยู่บนต้นคอทำให้รสิตาต้องย่นคอหนี แถมความใกล้ชิดนี้ยังทำให้เธอหายใจติดขัด
