บทที่ 9 อยากเปลี่ยนที่นอน

หลังจากรสิตาเลิกงานไม่นานเธอก็ใช้เส้นทางเดิมในการกลับที่พัก วันนี้เธอก็ยังมีอาหารติดมือกลับมาให้ยายเหมือนทุก ๆ วัน

แกร็ก!!

“กลับมาแล้วเหรอ”

“ทำไมยังไม่นอนคะ หนูบอกยายแล้วว่าไม่ต้องรอหนู ยิ่งช่วงนี้ยายสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่ นอนดึกจะไม่สบายเอานะคะ” รสิตาเอ็ดยายของเธอเบา ๆ

“ยายนั่ง ๆ นอน ๆ ทั้งวันแล้ว”

“หนูขอโทษนะที่ทำให้ยายต้องเป็นแบบนี้” รสิตาเดินเข้าไปกอดยายของเธอ

“ไม่เป็นไรหรอกลูก อย่าคิดมาก แค่เรายังมีลมหายใจก็ดีแค่ไหนแล้ว” หญิงชราไม่อยากให้หลานคิดมาก

“หนูสัญญาว่าถ้ามีเงินเยอะๆ หนูจะพายายไปจากทีนี่ ไปให้ไกลจากพวกมันค่ะ” รสิตาตั้งใจไว้แบบนั้น

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“ใครมา” หญิงชราหันมาถามหลานสาว

“ยายไปหลบหลังตู้ก่อนนะคะ” รสิตาก็ไม่รู้ว่าใคร แต่เธอต้องให้ยายไปหลบก่อนเพื่อความปลอดภัย

ปัง! ปัง! ปัง!

เมื่อยังไม่มีคนมาเปิดคนที่อยู่ด้านนอกเลยเปลี่ยนจากเคาะเป็นทุบประตู

แกร๊ก!!

ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ ๆ คนที่อยู่ด้านนอกก็ไขกุญแจเข้ามาอย่างง่ายดาย เธอตั้งการ์ดเตรียมรับมือ

“จะเอาอีกมั้ยประตูน่ะ” ทันทีที่เดินเข้ามารณกรก็ถามด้วยความหงุดหงิด เพราะรู้ว่ามีคนอยู่ในห้อง แต่ไม่ยอมมาเปิด

“คุณรณกร”

“เออ ฉันเอง” เขายังหงุดหงิดอยู่

“คุณมีธุระอะไรคะ” รสิตาพยายามถามอย่างใจเย็น เพราะเธอก็มองออกว่ารณกรกำลังอารมณ์เสีย

“เปล่า แค่มาตรวจดูความเรียบร้อย” รณกรอ้าง

“มาเฟียนี่เขาไม่หลับไม่นอนกันเหรอคะ” รสิตาก็อดไม่ได้ที่จะไม่เหน็บแนมเขา

“หึ...อยากเปลี่ยนที่นอน” รณกรแสยะยิ้ม

“คุณหยุดพูดนะ” รสิตายกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะไปตรงปากของตัวเอง เธอรู้ความหมายคำพูดของรณกร เธอไม่อยากให้ยายได้ยิน

“ทำไม” รณกรเดินเข้าไปประชิดตัวรสิตา แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อรสิตาไม่ได้ขัดขืนหรือถอยหนีแต่กลับเดินเข้าใกล้เขาจนไม่เหลือช่องว่าง

“คุณ” คราวนี้รสิตากระซิบจนรณกรเองก็สงสัย เขาก้มมองหน้าเธอ “คุณอย่าเสียงดังเดี๋ยวยายของฉันตกใจ”

รณกรมองไปรอบ ๆ ห้องทันที แววตานักล่าก่อนหน้านี้เปลี่ยนไป เมื่อสายตาของเขาไปสะดุดเข้ากลับใครคนหนึ่งที่กำลังแอบอยู่หลังตู้

“ออกมาเถอะ” เขาเอ่ยเสียงเรียบพลางขยับถอยห่างจาก รสิตาหนึ่งก้าว

“ยาย ออกมาเถอะค่ะ ไม่มีอะไรแล้ว” รสิตาหันไปพูดซ้ำ

แล้วหญิงชราก็เดินออกมาจากหลังตู้ รณกรจำหน้าหญิงชราได้ แสดงว่ารสิตาก็คือเด็กสาวที่เขาเห็นในคืนนั้นขณะที่เขากำลังรีบออกไปจากร้าน

“ยายคะ” รสิตรีบเดินเข้าไปหายายของเธอ “นี่คุณรณกรค่ะ เจ้าของที่นี่”

“สวัสดีค่ะคุณรณกร” หญิงชรารีบยกมือไหว้ ส่วนรณกรก็พยักหน้าตอบ

“เธออยู่กับยายสองคนเหรอ” รณกรหันไปถามรสิตา

“ใช่ค่ะ”

รณกรกวาดสายมองไปรอบ ๆ ในห้องมีแค่ตู้เสื้อผ้า เตียงและชั้นวางของเล็กๆ หนึ่งอัน

‘ห้องเล็กแค่นี้อยู่กันสองคน เตียงก็แคบจะนอนยังไง’ เขาคิดในใจ

“คุณมีอะไรจะใช้ฉันหรือเปล่าคะ”

“เปล่า ฉันแค่ผ่านมา เคาะแล้วไม่เปิดคิดว่าเป็นอะไรเลยลองไขกุญแจเข้ามาดู” รณกรโกหกคำโต จริงๆ เขาตามรสิตามาตั้งแต่ตอนที่เธอเลิกงานแล้ว เพราะตอนที่เธอออกทางด้านหลังเขาบังเอิญเห็นเข้าพอดี แต่เพราะเธอวิ่งไวมากเขาเลยเรียกไว้ไม่ทัน

สิ่งที่เขาคิดไว้ทั้งหมดต้องพังลงเมื่อได้รู้ว่าในห้องนี้มีหญิงชราอาศัยอยู่ด้วย อย่างน้อยเขาก็เป็นลูกผู้ชายพอที่จะไม่ข่มขู่รสิตาต่อหน้าหญิงชรา

กลางดึกคืนเดียวกันนั้นหญิงชรามีอาการเหนื่อยมากกว่าปกติ เธอพยายามไม่เสียงดังเพราะกลัวว่าหลานจะตื่น

“แค๊ก ๆ ๆ” เสียงไอยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนคนที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัว

“ยายเป็นอะไรคะ”

“แค่ไอนิดหน่อย”

“ไม่นิดหน่อยแล้วค่ะ หนูว่าไปโรงพยาบาลดีกว่า ยายหน้าซีดมากเลย”

“นอนพักสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย”

“ไม่ได้ค่ะ หนูว่าไปเลยดีกว่า”

ในที่สุดหญิงชราก็ยอมแพ้ให้กับลูกตื๊อของหลานสาว เธอยอมให้รสิตาพาไปโรงพยาบาล

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเดินออกไปเพื่อรอรถเป็นเวลาเดียวกันกับรถซีดานสีดำขลับกำลังเคลื่อนตัวออกจากบ่อนคาสิโนพอดี รถคันดังกล่าวจึงเลี้ยวมาจอดอยู่ตรงหน้าของรสิตาและหญิงชรา

“นายถามว่าจะไปไหนกัน”

หลังกระจกรถเลื่อนลงราเชนทร์ก็โผล่หน้าออกมาถาม

“ไปโรงพยาบาล” รสิตาตอบกลับไป แต่สายตากลับมองไปยังถนนเผื่อว่าจะมีรถแท็กซี่ผ่านมาตอนนี้

“ไปโรงพยาบาลครับนาย” ราเชนทร์หันไปบอกรณกรที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลัง

“ได้ยินแล้ว”

“ออกรถเลยมั้ยครับ”

“รับไปด้วย เราผ่านโรงพยาบาลพอดี”

“มะ...” เพียงแค่อ้าปากจะพูดแย้งแต่ก็โดนสายตาพิฆาตจ้องมองมา จึงทำให้ราเชนทร์รีบหุบปากลง “มาขึ้นรถ”

ราเชนทร์กวักมือเรียกสองยายหลาน

“ไม่เป็นไรค่ะ แท็กซี่มาพอดีเลย ขอบคุณมากนะคะ”

รสิตาพายายของเธอไปที่รถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ รณกรมองตามจนรถแท็กซี่คันนั้นขับห่างออกไป เขาได้แต่กำหมัดแน่นรู้สึกเจ็บใจที่รสิตาปฏิเสธน้ำใจของเขา

คืนนี้หญิงชราเลยต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการ หากไม่เป็นอะไรมากหมอก็จะให้กลับบ้านในวันรุ่งขึ้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป