บทที่ 2 ลองรักคุณอาที่รัก บทที่ 2

คัทลียาส่ายใบหน้าสวยหวานไปมาเมื่อมือสากหนาล้วงเข้าไปลูบไล้อยู่บนเนินเนื้ออวบนิ่มใต้แพรไหม หญิงสาวขยุ้มผ้าปูเตียงไว้จนแน่นเมื่อเขาเริ่มเคล้นคลึงดอกบัวตูมขนาดใหญ่ทั้งสองใต้ผืนแพร

“คุณอาขา...อ๊า...อย่าค่ะ...อ๊า”

ปากของเธอร้องห้ามแต่ร่างกายกลับยินดีต่อสัมผัสของมือหนาที่เคล้นคลึงและบีบบี้เบา ๆ คัทลียาร้องห้ามแต่เธอกลับเห็นรอยยิ้มย่ามใจบนใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาหาและประกบปิดริมฝีปากของเธออีกหน

“อู๊วววว...อ๊า...ซี๊ด...คุณอาขา...อย่าซีคะ”

ยิ่งดอกบัวตูมถูกเคล้นคลึงบีบคลำ หญิงสาวก็ยิ่งแอ่นร่างจนอกชูชันเผยออกมาจากผ้าห่มผืนบาง เสียงคัทลียาร้องครางลอดออกมาจากริมฝีปากที่ถูกประกบปิดเอาไว้เพียงเล็กน้อย

แต่ร่างกายของเธอกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงเมื่อร่างหนาใหญ่ทาบทับลงมาบนตัวเธอ เบียดบดและเสียดสีถูไถไปมาบนทรวงอกนุ่มก่อนที่ผ้าแพรซึ่งกั้นกลางระหว่างร่างที่เปล่าเปลือยของเธอและเขาจะถูกเลื่อนออกไป

“คุณอาขา...อา..อย่าค่ะ...ยะ...อย่า...”

คัทลียาแอ่นร่างรับเรี่ยวแรงมหาศาลของร่างใหญ่ที่กดทับลงมา เธอกอดตอบแต่แล้วทุกอย่างกลับเบาหวิวล่องลอยไปในวินาทีที่เธอปรือตามองใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงใหญ่อีกครั้ง

“คุณอาไกรสูรย์!...คุณอา...”

ร่างอรชรเปล่าเปลือยใต้ผ้าแพรสะดุ้งตื่นขึ้นท่ามกลางแสงไฟสลัวในยามวิกาล คัทลียาหอบหายใจเมื่อรู้สึกถึงสิ่งรอบตัวที่ชัดเจนกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

“ฝันไปหรือนี่...”

เด็กสาววัยสิบเก้าพูดกับตัวเองก่อนเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียงบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน เธอปาดรอยเหงื่อบนขมับและถอนหายใจ พรุ่งนี้แล้วซีนะที่เธอต้องเดินทางไปไร่มัทนารี

บทที่ 2

เมื่ออัสดงโรยตัวลงมาโอบล้อมไร่ไม้ดอกไม้ประดับที่ดอกใบเบ่งบานอวดสีสวยแข่งกันทำให้สวนมัทนารีดูเหมือนสวรรค์เล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยเนินเขาและทุ่งหญ้าในเทพนิยาย

ร่างบอบบางของสาววัย 18 ในชุดกระโปรงผ้าชีฟองสีหวานนั่งสงบนิ่งภายในห้องรับแขกของบ้านทรงไทยซึ่งมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นทัศนียภาพของสวนไม้ดอกไม้ประดับส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในกาญจนบุรี

เจ้าของดวงหน้ารูปไข่ซึ่งดวงตากลมโตคู่นั้นมองไปรอบ ๆ ห้องรับแขกที่ประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ในโทนสีเข้มขรึมถอนหายใจเบา ๆ หลายครั้ง วงหน้าสวยใต้กรอบเรือนผมเคลือบสีน้ำตาลแวววาวเหลือบมองไปที่ประตูทางเข้าและเม้มปากเคลือบกลอสสีชมพูจิ้มลิ้มราวกับเธอกำลังรอคอย

คัทลียามาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อตอนบ่าย ไร่มัทนารีที่เธอได้ยินกิตติศัพท์ว่าเป็นที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับส่งออกต่างประเทศ ซึ่งมันก็เป็นจริงดังว่า สาวสวยวัยสิบแปดหลงใหลสถานที่นี้ทันทีที่ได้เห็น

แต่ลึก ๆ แล้วเธอกลับรู้สึกหดหู่ เธอต้องมาที่นี่ตามคำสั่งของมารดาที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวหลังจากที่บิดาเสียชีวิตด้วยโรคร้ายไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้า

"หนูนิด...ลูกต้องไปอยู่กับคุณอาไกรสูรย์ที่ไร่มันทนารีนะจ๊ะ เขาเป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อเพียงคนเดียวตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่คุณพ่อป่วยหนักท่านได้กำชับเพื่อนของท่านคนนี้ว่าให้ช่วยดูแลลูกด้วย เขารับปากว่าจะช่วยเหลือและดูแลหนูนิดอย่างดี ไม่ใช่ว่าที่แม่ให้หนูนิดไปอยู่กับเขาเพราะแม่ไม่รักลูก แต่ตอนนี้เราประสบปัญหาการเงินและแม่ก็อยากสะสางปัญหาทุกอย่างให้เสร็จลุล่วงไปก่อน แม่อยากให้ลูกไปอยู่กับคุณอาไกรสูรย์สักพัก หลังจากนี้แม่จะไปรับลูกกลับนะจ๊ะ”

คำอธิบายของมารดายังดังอยู่ในความคิดของหญิงสาว คัทลียาเข้าใจว่าเธอต้องพบกับอุปสรรคใหญ่เมื่อบิดาซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวเสียชีวิตลง และเท่าที่รู้คนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคือคุณอาไกรสูรย์ซึ่งเธอเคยรู้จักแต่ไม่เคยพูดคุยกับเขาสักครั้ง มารดาบอกว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับส่งออกแต่ชอบเก็บตัวไม่ค่อยออกสังคม

“ไง...มาถึงนานแล้วหรือ?”

เสียงทุ้มห้าวทำให้หญิงสาวซึ่งนั่งอยู่ในท่าที่เริ่มกระสับกระส่ายหันไปมองเจ้าของเสียงซึ่งยืนอยู่ที่ประตู คัทลียาชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองสีเข้มก้าวเข้ามาหยุดยืนตรงหน้า เจ้าของใบหน้าคมเข้มกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ

“ขอโทษนะที่มาช้า พอดีฉันติดธุระในเมืองเลยกลับมาถึงไร่เกือบค่ำ ยินดีต้อนรับสู่ไร่มัทนารี เอ้อ...”

“คัทลียาค่ะ เรียกหนูนิดก็ได้ค่ะ...เอ้อ...”

“ไกรสูรย์...อาไกรสูรย์เพื่อนสนิทของพ่อเธอ หนูนิด”

หญิงสาวยกมือไหว้พลางยิ้มเจื่อน ๆ เธอไม่รู้ว่าจะทำสีหน้าเช่นไร ไม่ใช่เพราะตกใจ แต่สาวน้อยวัยสะพรั่งรู้สึกประหลาดใจที่ คุณอาไกรสูรย์ ในมโนนึกของเธอนั้นตรงข้ามกับที่เธอเคยฝันถึงแทบทุกอย่าง

สิ่งที่เหมือนในฝันนั้นคือเขาตัวโตจนดูไม่เหมือนชายไทย ทั้งหน้าตาคมคายเข้มขรึม หล่อเหลาจนหญิงสาวไม่อยากเชื่อว่าเขาจะอายุใกล้เลขสี่ เรือนร่างกำยำของเขาเสริมบุคลิกดูสมเป็นชายชาตรี ดูดีจนไม่อยากเชื่อว่าเธอต้องเรียกเขาว่า คุณอา

แต่สิ่งที่ตรงข้ามกับความฝันคือใบหน้าเฉยชาปราศจากรอยยิ้ม เสียงของเขาก็กร้าวกระด้างมากกว่าที่เธอเคยได้ยินในหู ใช่ซี...นั่นมันความฝัน ที่มีเธอคนเดียวเท่านั้นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในขณะที่เด็กสาวกำลังคิดถึงเรื่องของตัวเอง ไกรสูรย์ก็หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้าม สีหน้าของเขายังเคร่งขรึมขณะมองหน้าเด็กสาวผู้มาใหม่ ใช่...เขารับปากกับพ่อของคัทลียาก่อนเสียชีวิตว่าจะรับเธอมาดูแลเป็นเด็กในปกครองและเขาก็ไม่บิดพลิ้วคำมั่นนั้นจริง ๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป