บทที่ 8 มันสายไปแล้ว
เขาเห็นอาการของเธอนึกสงสารจับใจ เขาก็ไม่เคยต้องการใครมากขนาดนี้มาก่อนนะ แต่กับผู้หญิงคนนี้มันทนไม่ได้จริง ๆ แค่คิดถึงตรงนั้นของเธอ ‘แม่งโคตรตอดดีชิบ’ ยอมรับว่าติดใจมาก ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก หินรีบพันผ้าเช็ดตัวให้เธอ อุ้มเธอออกมาข้างนอก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้หินต้องรีบเดินมาเปิดประตูห้องก็เจอกับคนงาน
“มีอะไรครับลุง” หินถาม
“คุณหินครับ เพื่อน ๆ ของคุณหินกำลังจะกลับกันแล้วครับ” คนงานบอก แล้วหินเดินออกไปข้างนอก เธอมองตามบอกตัวเองไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไร
‘เฮ้อ... ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้ แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปดี’
เขาหายออกไปนานทีเดียว ก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมกับชามข้าวต้มใบใหญ่ หินวางถาดชามเข้าต้มไว้บนโต๊ะ เขาเดินไปเปิดม่านเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอกทำให้เธอเห็นวิวข้างนอกสวยมาก มองทะลุสระว่ายน้ำไปเป็นทะเล ใบมะพร้าวกำลังล้อลู่เล่นไปตามลม ที่หินออกไปข้างนอกนานนั้นเพราะเขาไปทำข้าวต้มให้ขิงนั่นเอง ขิงมองอย่างทึ่ง ๆ ที่หินทำอาหารเป็น
“ขิงทานข้าวก่อนนะครับ” หินก็เข้ามาพยุงเธอไปนั่งที่โต๊ะตักข้าวต้มให้ก่อนก้มลงหอมที่แก้มเบา ๆ ขิงพยักหน้ารับ
“ผมแต่งตัวแป๊บนะ เดี๋ยวมานั่งด้วย” เธอพยักหน้ารับอีกครั้ง ตอนนี้เริ่มยิ้มออกมาได้บ้างแล้ว
‘จะทำยังไงก็มันเกิดขึ้นมาแล้ว ช่างมันให้มันพ้นวันนี้ไปก่อนก็แล้วกัน’ ขิงคิดอย่างคนปลงตก
“ระวังร้อนนะครับ” เขาบอกเธออย่างห่วงใย ขิงรู้สึกหิวมาก มื้อเย็นเมื่อวานก็ไม่ได้กินอะไร มื้อเช้าวันนี้ก็ตื่นสาย ไหนจะกิจกามเมื่อคืนอย่างหนักหลายยก ต่อด้วยภาคเช้าอีกหนึ่งยก ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย และอ่อนล้าไปหมด
“เพื่อนคุณหินกลับไปแล้วหรือคะ” เธอถามเพราะอยากรู้ ถ้าพวกเขายังอยู่เธอคงทำตัวลำบากน่าดู
“ครับ กลับไปหมดแล้ว” เขาตอบ ก่อนจะถามต่อ
“อร่อยไหม กินเยอะ ๆ นะ จะได้มีแรง” เขาพูดพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่ม เธอได้แต่มองค้อนเขาเบา ๆ ไม่พูดอะไรแต่ในใจ ‘ไอ้หินบ้าลามกอย่าคิดนะว่าจะได้แอ้มฉันอีก’
เธอกินข้าวต้มเสร็จก็เริ่มมีเรี่ยวแรงอยากออกไปเดินดูรอบ ๆ บ้านของเขาดูบ้าง เห็นหาดทรายไกลลิบ ๆ แต่คิดว่าคงจะเดินไปได้
“แถวนี้มีบ้านอยู่ไม่กี่หลัง แล้วทะเลที่คุณขิงเห็นตรงโน้น มันเป็นทรายปนเลนนะครับเดินเล่นคงไม่ได้ แต่ทางที่ดีเดินอยู่แต่ในบริเวณบ้านดีกว่านะครับ แล้วพรุ่งนี้ผมจะพาไปเที่ยวในตัวเมืองหัวหิน และหาดทรายที่สวย ๆ” เขาบอกเธอและพูดหลอกล่อเหมือนเธอเป็นเด็ก ๆ
‘ชิทำเป็นมาพูด ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ’ ขิงสืบไปสืบมาถึงได้รู้ว่าเขาก็แก่กว่าเธอไม่เกินสี่ปี เขาเดินอ้อมมาด้านหลังก่อนที่จะก้มลงพูดที่ข้างแก้ม
“ต่อไปให้ขิงเรียก ‘พี่หิน’ นะครับ ส่วนพี่หินก็จะเรียกคุณขิงว่า ...ที่รัก” ก่อนจะจุ๊บไปที่แก้มของขิง เธอหัวใจเต้นตึกตักเมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาพูดรู้สึกขนลุกเกรียว
‘ยี้... ที่รักใครเขารักตัวเอง แหวะ... พี่หินคันปากพิกล’ เธอเถียงเขาอยู่ในใจ
“เดี๋ยวพี่หินเอาถาดไปเก็บ ที่รักเดินเล่นรอนะ พี่หินไปไม่นานหรอกครับ” เขายกถาดเดินออกไปนอกห้อง เธอขยับร่างลุกขึ้นรู้สึกปวดร้าวไปหมด
“โธ่เอ๊ย บ้าที่สุดเลย” นึกถึงหน้าคนที่ทำให้เธอเจ็บตัว นึกชังนักแต่ใจก็เต้นตึก ๆ ขึ้นมาเฉย ๆ
‘ถ้าฆ่าได้จะทำแล้ว’ เธอพาร่างระบมไปได้ไม่ไกลนัก ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ ไม้ที่ทำมาจากท่อนไม้ใหญ่ทั้งอันที่ตั้งข้างสระว่ายน้ำ ขิงทอดสายตามองผ่านทิวต้น มะพร้าวตรงหน้าที่ด้านล่างถูกถากหญ้าโล่งเตียนจนเห็นดินแดง ๆ ที่ตั้งของบ้านของหินเป็นเนินเล็ก ๆ ดิ่งลาดลงไป สายตาเธอไปหยุดที่กำแพงสูงประมาณสองเมตรครึ่งและหลัง กำแพงนั้นก็เป็นทะเลอย่างที่เขาเล่าจริง ๆ แต่มันไกลมากจึงมองไม่ค่อยเห็น
เขาเดินเข้ามาเงียบ ๆ ทางด้านหลังสวมกอดเธอเบา ๆ ก่อนนั่งลงข้าง ๆ ไม่ยอมคลายอ้อมแขน เขาหอมไปที่แก้มเหมือนเป็นเจ้าของมันอย่างแท้จริง คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง เธอขยับตัวเหมือนอึดอัดเอามือแกะอ้อมแขนของเขาออก
“หมดสิทธิ์ครับที่รักเป็นของผม ผมมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ แล้วผมบอกไว้ก่อนนะห้ามใครมายุ่งกับที่รัก แล้วห้ามที่รักไปยุ่งกับใคร” เขาเอ่ยออกมาน้ำเสียงจริงจัง
“คุณหินคะ ใครเป็นที่รักของคุณไม่ทราบ” เธอพูดสะบัดน้ำเสียงหันไปจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
‘เหลือจะทนแล้วนะ มอมยาข่มขืนฉัน แล้วยังจะมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอีก’ คิดในใจนะ เพราะจริง ๆ เธอก็เกรงเขาอยู่ ตัวเขาก็ตัวโตใหญ่กว่า หนากว่า ยิ่งมือไม้ยิ่งใหญ่เข้าไปใหญ่
“พี่หินพูดอยู่นี่ไงครับจะเป็นใครพูดได้” เขาพูดจบเลื่อนมือขึ้นมาตรึงท้ายทอยเธอเอาไว้แน่น ก่อนจะส่งริมฝีปากปิดปากที่กำลังจะเถียงเขาออกมา หินส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปากอย่างไม่เกรงใจเจ้าของ ทั้งดูดดึงรุนลิ้นถึงจะดูหนักหน่วง แต่มันก็ช่างหวานรัญจวนใจเธอได้แต่ครางเบา ๆ “อือ”
มือสองข้างของเขาโอบเอว ก่อนจะช้อนร่างบางให้ขึ้นมานั่งบนตัก เขาถอนริมฝีปาก ก่อนจะลากลิ้นลงมาตามลำคอ เธอได้สติเมื่อเขาดูดเบา ๆ ที่ซอกคอจึงใช้มือดันร่างเขาออก
“คุณหินจะบ้าหรือไง นี่ข้างสระน้ำนะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” เธอพูดห้ามประท้วงออกมา
