บทที่ 9 ตอนที่ 2 ของชิ้นแรกจากท่านชีค (4)

“คนที่เราสงสัยไร้ความเคลื่อนไหวมากครับท่านชีค ข้าว่าเราอาจจะต้องมองความขัดแย้งเรื่องอื่นนอกจากเรื่องรัชทายาทด้วยดีไหมครับ เพราะวันที่ท่านโดยยิงวันนั้นข้าไม่อยู่ และเป็นวันที่คณะทำงานต่างก็เดินทางมาประชุมที่วังตามคำเชิญของท่านชีคจารี วันนั้นคนก็คงเยอะและในวังคงวุ่นวายพอสมควร และนั่นก็เป็นการง่ายที่มือปืนจะอาศัยช่วงที่ทุกคนวุ่นวายลงมือ และคนๆ นี้ต้องจ้องและรู้ความเคลื่อนไหวของท่านอยู่ตลอดถึงได้รู้ว่าท่านไปไหนบ้าง เมื่อท่านแยกตัวออกมาในที่ลับตาคนเลยจัดการด้วยปืนเก็บเสียงทันที”

คนสนิมหนุ่มรายงานจากที่ให้คนที่ไว้ใจได้คอยติดตามดูคนที่ทั้งเขาและชีคซาลซาเอลสงสัย แต่ผลที่ได้มาก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดนัก จึงคิดหาความขัดแย้งอื่นๆ ที่แม้อาจจะเล็กน้อย แต่สำหรับคนอื่นมันอาจจะยิ่งใหญ่ ขนาดอยากคร่าชีวิตชีคซาลซาเอลนี้ไปก็เป็นได้

“มันก็ใช่ หากคนที่ยิงข้าไม่ใช่ผู้หญิง และนั่นมันทำให้ข้าคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เพราะในคณะทำงานและคนอื่นๆ ไม่มีผู้หญิงติดตามเข้ามาแม้แต่คนเดียว”

คราวนี้ทั้งสองคนมองหน้ากันนิ่งอย่างอับจนหนทาง แล้วก็เป็นอิสลัมที่ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาอีกข้อ ที่อาจจะเป็นแนวทางในการตามหาเบาะแสหญิงสาวคนนั้น

“ท่านเคยบอกว่าท่านนั่งหันหลังให้ศัตรู และโดนยิงโดยไม่รู้ตัว แต่ก็โดนแค่ต้นแขนเท่านั้น”

ชีคซาลซาเอลพยักหน้า พลางกระหวัดไปถึงวันที่เกิดเรื่อง หลังจากประชุมเสร็จพระองค์ก็ปลีกตัวจากความวุ่นวายมานั่งที่สวนหลังวัง และคอยดูนาฬิกาตลอดว่าเมื่อไหร่อิสลัมจะพาคุณหมอสาวมาถึงคูเวอร์เสียที มารู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่ตัวเองสะดุ้งเพราะรู้สึกเจ็บที่ต้นแขนมาก และด้วยสันชาตญาณทำให้พระองค์มองกลับไปข้างหลังก็พบเพียงหญิงสาวในชุดสีดำปิดหน้าปิดตาวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว แม้พระองค์จะตามไปก็ไม่ทันเสียแล้ว ราวกับอีกฝ่ายรู้ทางหนีที่ไล่ภายในวังนี้เป็นอย่างดี และอีกอย่างพระองค์ไม่อยากให้ทุกคนแตกตื่น จึงเดินเลี่ยงกลับตำหนักทางด้านหลังโดยไม่ให้ใครเห็น

“ถ้าไม่ตั้งใจจะยิงจุดสำคัญ ก็แสดงว่าฝีมือการยิงปืนคงจะยังมือใหม่มากๆ อาจจะถึงขั้นไม่เคยจับปืนมาก่อนเลยก็เป็นได้ เอาเป็นว่าข้าจะให้คนจับตานางรับใช้ในวังทุกคนในวังเป็นพิเศษ”

“รวมถึงผู้หญิงทุกคนในวังด้วย ยกเว้นยัยคุณหมอซุ่มซ่าม”

ชีคซาลซาเอลต่อท้านอย่างไม่มั่นใจว่าใครคือมือปืนหญิงคนนั้น เพราะในวังรูปร่างหญิงสาวแต่ละคนก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่เลย

“เรื่องนั้นข้ารู้ ว่าแต่ท่านต้องการองครักษ์เพิ่มหรือเปล่าครับ”

ชีคซาลซาเอลรีบยกพระหัตถ์ขึ้นโบกเป็นการห้าม เพราะการทำอย่างนั้นเท่ากับบอกให้คนอื่นรู้กลายๆ ว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

“มีเจ้าคนเดียวก็พอแล้ว และข้าเองก็จะระวังตัวให้มากขึ้น อีกอย่างมีคุณหมอสาวอยู่ใกล้ตัวจะกลัวอะไรจริงไหม”

“หมอนะครับไม่ใช่เกราะกันกระสุน”

เอ่ยจบทั้งสองก็หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ ที่ได้เอาคุณหมอสาวที่ตอนนี้คงกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการผ่าตัดมาล้อเล่น

การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีทุกอย่างเป็นที่พอใจ ดังนั้นเมื่อออกจากห้องผ่าตัดคุณหมอสาวจึงขอตัว แต่เดินออกมาก็พบอิสลัมนั่งรออยู่หน้าห้อง คุณหมอสาวเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยว่าชายหนุ่มม่นั่งรอใคร รอเธอหรือ รอทำไม และไม่ให้ความสงสัยค้างคาใจนานเธอจึงเดินเข้าไปทักอิสลัม

“ยังไม่กลับอีกเหรอคะ”

“ยังครับรอคุณหมออยู่ นี่เสร็จแล้วใช่ไหมครับ งั้นไปครับ ท่านชีครออยู่ที่ห้องทำงาน แล้วเราจะได้กลับกันเลย”

ว่าแล้วร่างสูงก็ยืดตัวยืนขึ้นเต็มความสูงและจะเดินนำไปโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดอะไรเลย เดือดร้อนคุณหมอสาวที่ต้องรีบก้าวยาวไปให้ทันแล้วถามอย่างงงงวย

“กลับ แต่มันยังไม่ได้เวลาเลิกงานเลยนะคะ”

“ยังหรอกครับ แต่เย็นนี้ท่านชีคจะพาคุณหมอเข้าพบท่านชีคจารีกับทุกคนในครอบครัว เลยต้องมีการเตรียมตัวนิดหน่อย”

“ก็ไหนท่านชีคบอกว่าไม่จำเป็นต้องพบใครไงคะ พบแค่ท่านชีคคนนี้คนเดียวก็พอ”

“นั่นมันเมื่อวานครับ ไปเถอะครับ ถ้าติดใจสงสัยอะไร คุณหมอค่อยไปถามท่านชีคเองดีกว่า ท่านน่าจะให้คำตอบที่ดีได้”

“อ๋อ ค่ะ”

อุรัสยารับคำอย่างเข้าใจอะไรง่ายๆ คล้ายกับไม่คิดอะไร แต่พอคิดว่าจะได้เข้าพบท่านชีคผู้ปกครองรัฐคูเวอร์แล้วความตื่นเต้นเมื่อยามก่อนได้พบชีคซาลซาเอลก็ก่อตัวกลับเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้รู้สึกจะทวีขึ้นเป็นเท่าตัวกันเลยทีเดียว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป