บทที่ 15 เศษเสี้ยวแห่งความทรงจำ
“คุณอย่าคิดมากเลยนะเรื่องมันผ่านมาแล้ว ตอนนี้คุณสบายแล้ว” เขาเว้นระยะคำพูด “อาหารที่คุณทำผมว่าผมคงต้องมาฝากท้องบ่อยๆ แล้ว”
“พิมลยินดีค่ะ หากคุณจะมาหาพิมลบ่อยๆ”พิมลตราบอกแล้วยกยิ้ม
ชัยเชษฐ์ยิ้มกว้างอย่างน้อยภรรยาอีกคนของเขาก็ทำให้สบายใจ ความเครียดอันได้รับมาจากบ้านใหญ่ค่อยๆ จางหายไป
ร่างเล็กนั่งชันเข่าบนเตียงกว้างหลายครั้งอยากเอ่ยปากถามแต่ไม่กล้า เกรงทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจ จึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ภายใน ป่านนี้พี่เวย์เป็นเช่นไรบ้างสบายดีไหม หลากหลายคำถามในหัวจำต้องเก็บงำ
สองร่างตระกรองกอดกันขึ้นห้องนอน ไม่นานชัยเชษฐ์หลับลงด้วยความอ่อนเพลีย พิมลตราเท้าปลายคางตนเองมองใบหน้าสามีแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก ชายคนนี้แม้เอาใจยากสักหน่อยแต่เนื้อแท้กลับเป็นคนอ่อนไหว ไม่นานหรอกเธอเชื่อว่าตนเองต้องมีสิทธิ์เข้าไปเหยียบในคฤหาสน์หลังนั้นแน่นอน
เสียงมือถือของเขาดังขึ้นชัยเชษฐ์สะดุ้งงัวเงียตื่นขึ้นมาเห็นหน้าจอโชว์เบอร์บุตรชาย เขากดรับสายด้วยความงุนงงดึกดื่นป่านนี้ติดต่อมาทำไมกัน
“พ่อครับ แม่ไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล!”เด็กหนุ่มบอกเสียงสั่น
“อะไรนะ!”
“พ่อมาดูแม่หน่อยสิครับ ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว แม่อยู่ในห้องไอซียูตอนนี้”
“ห้องไอซียู แม่เป็นอะไรนนท์!”คนเป็นพ่อถามเสียงเครียด
“ผมไม่รู้ครับพ่อ”
พิมลตราลอบฟัง เห็นสีหน้าสามีไม่ค่อยดีนัก ท่าทางคงเกิดเรื่องใหญ่เสียแล้ว
“ผมไปก่อนนะ”ชัยเชษฐ์บอกแล้วสะบัดผ้าห่มคลุมกายลุกขึ้นแต่งกายเพื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาล
ชายวัยกลางคนขับรถด้วยความเร่งรีบเพราะอดเป็นห่วงไม่ได้ อย่างน้อยเธอคือภรรยาที่ร่วมชีวิตมาด้วยกันเกือบยี่สิบปี มาถึงโรงพยาบาลรีบติดต่อหน้าเคาท์เตอร์ ชัยเชษฐ์มาถึงหน้าห้องเห็นลูกๆ สามคนพร้อมคนขับรถที่บ้านยืนรออยู่ด้านนอก ลูกสาวโผเข้ากอดเขาไว้แล้วสะอื้น
“แม่ไม่เป็นไรหรอกลูก”คนเป็นพ่อพยายามปลอบ
“แต่ผมเห็นหมอปั้มหัวใจแม่ พ่อจะบอกว่าแม่ไม่เป็นอะไรได้ยังไง!”เสียงลูกชายแทรกออกมา แววตาประหนึ่งเจ็บแค้น เพราะบิดาปันใจให้หญิงอื่นทำให้แม่เครียด หากเวย์ไม่พบเข้าแม่คงจบชีวิตไปแล้ว เขาเองไม่อยากยุ่งเรื่องนี้แต่หากมันทำให้แม่ต้องจากตลอดกาล เขาเองไม่ยอมเหมือนกัน
สีหน้าคนเป็นพ่อเครียดขึ้น มองบุตรชายบุญธรรมเห็นยืนพิงกำแพงสีหน้าเรียบนิ่ง ควรทำอย่างไรดี หรือต้นเหตุครั้งนี้เพราะเขามีภรรยาอีกคน มันน่าหงุดหงิดจริงๆ ทั้งที่เขาให้เธอเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว ทำไมต้องคิดมากเรื่องพรรค์นี้ด้วย
เกือบสองชั่วโมงแพทย์เจ้าของไข้ออกมาจากห้องไอซียู ชัยเชษฐ์รุดเข้าหาสีหน้ากังวล แต่แพทย์กลับระบายยิ้มทำให้เขาโล่งอกขึ้นมาทันที
“คุณวิไลวรรณอาการพ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ”
“ขอบคุณมากครับ”ชัยเชษฐ์บอก
“ยังไงอย่าเพิ่งให้เธอมีเรื่องกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจนะครับ เพราะมันอันตรายมาก เธอเป็นโรคหัวใจแถมยังไม่เคยมาตรวจอีก มารู้ตัวอีกทีก็เกือบสาย เอาใจใส่ให้มากๆ นะครับ โรคนี้อันตรายมากทีเดียว”
“เข้าใจแล้วครับคุณหมอ”
“หมอขอตัวก่อนนะครับ”แพทย์กล่าวแล้วเดินเลี่ยง
ชัยเชษฐ์ขบกรามแน่นข่มกลั้นความรู้สึกอัดแน่นในอก ภรรยาเขาเป็นโรคร้ายแรงขนาดนี้ทำไมไม่มีใครสังเกตเห็นเลยสักคน มันน่าหงุดหงิดชะมัด เขาหันมาทางบุตรทั้งสามคนพยายามฝืนยิ้ม
“แม่ปลอดภัยแล้วลูกกลับบ้านไปนอนกันเถอะ ที่นี่พ่อจะเฝ้าเอง”
“ไม่เอาคะพ่อ ดาจะอยู่กับแม่”
“อย่าดื้อลูก ลูกต้องไปโรงเรียนกันอีก”
ชญานนท์รั้งท่อนแขนน้องสาวเอาไว้แล้วมองหน้าบิดาด้วยความไม่พอใจ
“กลับบ้านกันดา!”
น้องสาวถูกลากออกไป เวธัสเดินมาหาบิดาบุญธรรม
“เวย์พ่อฝากดูดากับนนท์ด้วยนะ”
“ครับพ่อ”
เด็กหนุ่มก้าวตามสายเลือดของพ่อบุญธรรมไป สายตาลูกทำเอารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ปกตินนท์ไม่ค่อยพูดเป็นเด็กเก็บตัวแต่มาวันนี้ลูกกลับตำหนิติเตียน หรือการที่มีภรรยาน้อยเป็นเรื่องผิดมหันต์จริงๆ เขาควรเลิกรากับพิมลตราดีหรือเปล่า
ชัยเชษฐ์สาวเท้าเข้าห้องพักฟื้นผู้ป่วย หลังจากผ่านมาสามวัน ลูกสามคนติดตามมาด้วย คนป่วยเปิดเปลือกตามองเห็นลูกเลยยิ้มกว้าง แต่พอเห็นสามีกลับหุบฉับพลัน พลิกกายหันทางอื่นด้วยความน้อยใจ แม้จะเจ็บปวดจากแผลมากแค่ไหนก็ตาม
“แม่คะ แม่เป็นไงบ้าง”ชนิดาเอ่ยถาม น้ำตาคลอหน่วย
“แม่ไม่เป็นอะไรแล้ว ดาไม่ต้องห่วงนะลูก”
“แม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”ลูกชายซักต่อ
“แม่ยังทานอะไรไม่ได้หรอก”คนเป็นแม่รีบบอก
เวธัสไม่กล้าพูดอะไร ยืนจ้องมองมารดาบุญธรรมอยู่เช่นนั้น เขารู้สึกเหมือนตนเองเป็นส่วนเกิน แต่แววตาของมารดาบุญธรรมยามมองมากลับให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนเคย
คนเป็นสามียังคงยืนนิ่งไม่ขยับเข้าใกล้ เห็นเพียงแผ่นหลังภรรยาและลูกๆ เข้าไปพูดคุย ยิ่งนานยิ่งรู้สึกอึดอัดเขาไม่ได้หมดรักในตัววิไลวรรณ แต่เธอเล่นตั้งแง่ต่อกันขนาดนี้ให้ทำยังไงได้
“พ่อคะ มาหาแม่สิคะ”ชนิดาเรียก แต่คนเป็นพ่อกลับยืนนิ่ง
“ไม่ต้องเรียกพ่อมาหรอก แม่ไม่อยากเจอหน้า”
“แม่อย่าทำแบบนี้สิคะ”
เขาตัดสินใจทำตามความต้องการของลูก เดินวนมาหาภรรยาเห็นเธอช้อนสายตามองบ่งบอกความไม่พอใจอยู่ในที เขาอ่อนแล้วแต่อีกฝ่ายกลับยังแข็งไม่เปลี่ยน
“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมวิ ผมจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลคุณแล้วนะ”เขาใช้ความอดทน
“ไม่ปล่อยให้ฉันตายไปเลยล่ะคะ จะได้พาเมียใหม่คุณเข้าบ้านได้สบาย”เธอประชดทันที
คนฟังเริ่มหัวเสียแต่จำต้องข่มอารมณ์ตนเองเอาไว้ ไม่เคยคิดมาก่อนภรรยาจะเป็นคนช่างประชดประชัดขนาดนี้ ต้องทำยังไงถึงจะหาย
