บทที่ 16 เศษเสี้ยวแห่งความทรงจำ

“ผมไม่อยากพูดอะไรมากวิ เอาไว้คุณหายดีเราค่อยมาคุยกันดีกว่า”ชัยเชษฐ์ตัดบท

“ไม่ต้องมาพูดอะไรหรอกค่ะ อยากหย่าฉันก็ยินดี”

“คุณวิคุณอย่าเพิ่งหาเรื่องผมตอนนี้ได้ไหม”เขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา

“พ่อกับแม่พอได้ไหมคะ!”ชนิดากรีดร้อง แล้วสะอื้น

ผู้ให้กำเนิดสองคนเงียบกริบ ชัยเชษฐ์ไม่อาจทนอยู่เลยสาวเท้าออกจากห้องเดินตรงไปยังรถตนเอง เปิดประตูขับเคลื่อนหาเป้าหมายที่ทำให้ตนเองมีความสุข ไม่ต้องทนฟังคำพูดกระทบกระแทกแดกดันให้ขุ่นมัวอีก

เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มพิมลตรารีบเปิดประตู รถเบนซ์จอดด้านในชัยเชษฐ์ลงมาแล้วปิดประตูลงจนเกิดเสียงดัง ก่อนสาวเท้าเข้ามาในบ้านแล้วยืนเท้าเอวด้วยความหงุดหงิด พลอยภัทราหลบฉากเพราะรู้ว่าพ่อเลี้ยงอารมณ์ไม่ดีมา

“เป็นอะไรเหรอคะคุณเชษฐ์”พิมลตราถามเสียงหวาน

“ผมไม่เข้าใจ อะไรนักหนา ทำไมวิต้องคอยหาเรื่องประชดผมอยู่เรื่อย ทั้งที่ตัวเองป่วยเกือบตาย!”ชายหนุ่มตะโกนลั่นด้วยความหงุดหงิด

“คุณใจเย็นก่อนนะคะ มานั่งลงก่อน”เธอรั้งท่อนแขนพาเขามานั่งตรงโซฟา

“ลูกมองว่าผมเลวไปหมดแล้ว น่าหงุดหงิดชะมัด!”

“อย่าเพิ่งโกรธเลยค่ะ คุณวิอาจจะแค่งอนคุณเท่านั้นเอง อีกไม่นานเธอคงหาย”

“ผมไม่คิดว่าวิจะเป็นคนแบบนี้เลย”

พิมลตราน้ำท่วมปาก หากเป็นเธอเองก็คงขุ่นเคือง ดันมีเมียน้อยเอาตอนแก่นี่นา ใจจริงก็สงสารแต่เธอปล่อยเขาไปไม่ได้ เพราะนี่คือที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวที่ตนเองมี

“เธอคงป่วยอยู่เลยยิ่งหงุดหงิดน่ะค่ะ คุณเชษฐ์ต้องคอยปลอบเธอนะคะ”

ชัยเชษฐ์หันมองภรรยาน้อย ยิ่งนานพิมลตรายิ่งทำให้เขารู้สึกชอบพอในน้ำใจ ไม่เพียงแค่หน้าตาสะสวยยังเต็มไปด้วยสิ่งน่าแปลกใจตลอด ทั้งการทำอาหาร หรือการส่งเสียลูกด้วยตัวคนเดียวมาตลอดหลายปี

“ขอบคุณนะพิมล ที่คุณช่วยทำให้ผมใจเย็นลง”

พิมลตราระบายยิ้มแล้วซบใบหน้ากับแผงอกกว้าง

“ก็พิมลเป็นเมียคุณนี่คะ ถ้าสามีไม่สบายใจจะไม่ปลอบได้ยังไง”

มือข้างหนึ่งเอื้อมโอบเอวก่อนรั้งร่างเธอมาแนบชิด กดจุมพิตอย่างดูดดื่ม พิมลตราทำให้เขาหลงเสน่ห์อย่างมิรู้เบื่อ แม้ว่าเวลานี้มีเรื่องมากมายให้คิดเต็มหัว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอทุกอย่างกลับมลายหายพลัน เธอคือคนเดียวที่ทำให้เลือดในกายเร่าร้อนได้ขนาดนี้

อาทิตย์ถัดมาหมออนุญาตให้คนป่วยออกจากโรงพยาบาล สองพี่น้องรวมถึงเวธัสเดินทางไปรับด้วยกันแต่ไร้เงาชัยเชษฐ์ วิไลวรรณฝืนยิ้มให้ลูกที่กำลังช่วยกันดูแล ต่อจากนี้เธอจะอดทนต่อให้สามีเมินเฉยต่อกันก็ตาม รถเคลื่อนจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ สาวใช้ช่วยกันยกกระเป๋าเก็บเข้าห้องวิไลวรรณถูกพามาพักในห้องนอน หมอยังคงไม่อยากให้เคลื่อนไหวร่างกายเท่าไหร่ ต้องการให้พักผ่อนมากๆ

“คุณผู้หญิงหิวหรือยังคะ เดี๋ยวจอยไปต้มข้าวต้มมาให้ทานค่ะ”สาวใช้อาสาทันที

“ฉันยังไม่หิวหรอกจอย”

“คุณแม่พักผ่อนมากๆ นะคะ ไว้ดาพี่นนท์ พี่เวย์จะมาดูคุณแม่บ่อยๆ”ชนิดายิ้มกว้าง คนเป็นแม่ยกมือลูบศีรษะด้วยความเอ็นดู

“ขอบใจมากนะลูก”

สาวใช้เริ่มมองหน้ากัน รู้สึกสงสารคุณผู้หญิงของบ้านจับใจ จากที่เคยสงบสุขกลับต้องร้อนเป็นไฟ เพียงเพราะผู้หญิงหิวเงินคนหนึ่งทำให้ครอบครัวแตกแยก

สามคนเดินลงมาชั้นล่างปล่อยให้สาวใช้คอยเฝ้ามารดา ชนิดาชำเลืองมองทางพี่ชายเห็นสีหน้าท่าทางอารมณ์ไม่ดีสักเท่าไหร่ ตั้งแต่แม่เข้าโรงพยาบาลพี่ชายเปลี่ยนไปมาก จากเป็นคนไม่ค่อยพูดกับเยอะขึ้น และดูท่าจะมีปัญหากับพ่อมากด้วย

“พี่นนท์”

“มีอะไรดา”

“พี่อย่าทะเลาะกับพ่อได้ไหม ถ้าพ่อกลับมา”เธอมองหน้าพี่ชายแววตาอ้อนวอน

“พี่ไม่ได้อยากทะเลาะแต่พ่อทำผิดจริง”

เวธัสยืนนิ่ง ก่อนหันหลังคิดหนีจากการถกเถียงเขาไม่อยากยุ่งเรื่องของใครเลย อีกทั้งการกระทำของบิดาแม้ไม่ถูกต้องแต่มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่

“จะไปไหนเวย์!”ชญานนท์เรียกไว้เสียก่อน

“เราจะกลับห้องน่ะ”

“นายจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ เรื่องพ่อ”

“มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เราไม่อยากยุ่ง”เวธัสตอบตามตรง

“ไม่อยากยุ่งหรือเพราะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ!”

เวธัสชะงักขบกรามแน่น เขาเกลียดคำนี้ที่สุด

“เราไม่เคยคิดแบบที่นายพูด!”

“ไม่คิดแต่การกระทำมันฟ้อง แกไม่เคยคิดสนใจด้วยซ้ำว่าครอบครัวเราจะเป็นไง ทั้งที่เป็นลูกอีกคนหนึ่ง!”

“ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่ามากล่าวหากัน!”เวธัสย้อน แววตาแข็งกร้าว

ท่าทีของพี่ชายสองคนทำให้ชนิดาเริ่มสะอื้น

“พี่สองคนอย่าทะเลาะกันได้ไหม”เด็กสาวทรุดกองกับพื้นปล่อยโฮออกมา

เด็กหนุ่มสองคนชะงัก ย่อกายลงสนใจน้องสาวคนสุดท้องแทน เพราะเรื่องวุ่นวายทำให้ชญานนท์พาลไปหมด แม้แต่น้องชายต่างสายเลือดเขาก็ไม่เว้น ความจริงเวธัสไมได้ผิดอะไรเลย

“ดาเป็นอะไร”ชญานนท์ถามเสียงอ่อน

“จะทะเลาะกันทำไม แค่แม่กับพ่อไม่พอหรือไง แค่นี้ดาก็เบื่อจะตายแล้ว!”

“พี่ขอโทษครับ”เวธัสบอกแววตาหม่นลง

“พี่ก็ขอโทษเหมือนกันดา”

ชนิดาหยุดสะอื้นจับมือพี่สองคนมากุมไว้ภายใต้มือตนเอง เธอหวังในภายภาคหน้าทั้งสามคนจะได้อยู่ด้วยกันไปตลอด

เสียงรถจอดเทียบหน้าบ้านทุกคนรู้ดีว่าเป็นใคร ชัยเชษฐ์สาวเท้าเข้ามาด้านในเห็นลูกสาวคนยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ เลยก้าวยาวเข้าหา ชญานนท์หันกายเดินหนีไปที่อื่นทันที คนเป็นพ่อมองลูกแล้วส่ายหน้าอย่างระอา

“มีอะไรกันเหรอลูก มายืนทำอะไรกัน”เขาถามบุตรสาวและบุตรชายบุญธรรม

“พอดีเราสามคนขึ้นไปดูแม่มาค่ะพ่อ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป