บทที่ 4 Chapter 4 วางแผน

“โอ ดีเลยครับ ถ้างั้นผมว่าทำห้องอีกห้องติดห้องครัวด้านล่างให้เจ้าพุดมันอยู่ก็ได้ บ้านผมก็อยู่ไม่ไกลดูแลกันง่าย อีกอย่างมันจะได้ไม่ไปรบกวนคุณเข้มบนเรือนด้วย เดี๋ยวให้นังน้อมมันมานอนเป็นเพื่อนพุดตอนกลางคืนด้วยดีไหมครับ”

“ตามใจเถอะลุงบัติเรื่องเด็กนั่น ลุงจัดการไปตามเห็นสมควรนะ ขาดเหลืออะไรก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ ส่วนเรื่องไร่...”

โรมรันดึงความคิดกลับมา ไร่และฟาร์มของเขาถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง มันยังไม่ดีที่สุด หากเขาก็พอใจที่ตอนนี้สามารถพัฒนามันได้ขนาดนี้ คนงานมากกว่าร้อยชีวิต ไร่เกือบพันไร่ที่ขยับขยายมาจากห้าร้อยไร่

จากคนที่ไม่มีความรู้เรื่องเกษตร ไม่สนใจเรื่องปศุสัตว์แบบเขา โรมรันพอใจกับผลงานในวันนี้แล้วก็คิดว่าพ่อกับแม่คงภูมิใจในตัวเขาเช่นกัน

แรกเริ่มที่จับงานด้านนี้ สร้างความคลางแคลงไม่มั่นใจให้คนงานไม่น้อย บางส่วนชิงลาออกก่อน กลัวว่าถ้าไร่เขาล้มจะเสียรายได้ จึงรีบไปสมัครงานที่อื่น มีส่วนน้อยที่ยังช่วยเขา และพาเขามาจนประสบความสำเร็จ

เจ็ดปีของการพัฒนา...

เจ็ดปีของการเจริญเติบโต ทั้งคนและไร่

อะไรก็ไม่ทำให้โรมรันหนักใจเท่ากับ พุดแก้ว... ยิ่งเติบโต ความสวยงามของเธอก็ยิ่งทำให้หนุ่มๆ ในไร่แทบไม่เป็นอันทำงาน ว่างทีไรเขาได้ยินพวกมันพูดถึงเธอ หาเรื่องวนเวียนมาใกล้เธอ หลายครั้งที่เขาต้องหางานยัดให้พวกมัน จะได้ว่างกันน้อยๆ พอถึงวันเสาร์อาทิตย์ พุดแก้วไปทำงานช่วยป้าปลิวทำอาหารเลี้ยงคนงาน ซึ่งทางไร่ของเขามีนโยบายเรื่องข้าวกลางวันทุกมื้อไม่เว้นวันหยุด ก็เปิดโอกาสให้ไอ้พวกกะล่อนนั่นขายขนมจีบเธอได้อีก

แล้วไม่ใช่แค่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในไร่ ตัวเขาเองก็พลอยใจเต้นไม่เป็นท่า เวลาได้เห็นเด็กสาว มันบ้าที่สุด

การส่งเธอไปเรียนกรุงเทพฯ นอกจากป้องกันปัญหาเรื่องไอ้หนุ่มโคบาลในไร่แล้ว เขายังป้องกันตัวเองด้วย ไม่รู้วันไหนจะเผลอรวบหัวหางเด็กสาวไปอีกคน

ก็เขาเป็นผู้ชายนี่นะ มีของสวยงามอยู่ใกล้ๆ ใจสั่นไหวเป็นธรรมดา ใครไม่สั่นมันคงบ้า ไม่ก็ไม่ชอบผู้หญิง

แต่สั่นแล้วขึ้นด้วยนี่ ไม่น่าไว้วางใจ แถมหงุดหงิดเป็นบ้า ตาคมหลุบลงมองไอ้ที่ขึ้นของตัวเองอย่างฉุนเฉียว

โรมรันยังไม่อยากกลายเป็นหัวข้อสนทนายามว่างของคนเมืองนี้นักหรอก

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ อีกครั้ง ปิดน้ำ คว้าผ้ามาพันตัวโดยไม่เช็ด ก่อนจะลิ่วออกจากห้องนอนไปห้องครัวอเนกประสงค์แบบทันสมัย ตรงไปบาร์เครื่องดื่ม เล็กๆ

สงสัย...ดีกรีไม่ถึงขั้น ถึงยังฟุ้งซ่านเรื่องพุดแก้วไม่เลิก

คืนนี้เขาต้องพึ่งมัน...

“ฉันอยากให้แกไปเรียนด้วยกันจริงๆ นะพุด เรียนจบแล้วแกค่อยกลับมาที่ไร่นี้ก็ได้นี่ ถ้าแกอยากทำงานที่นี่ช่วยคุณเข้มจริงๆ” พรพิศตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ

น้ำตกสวยเบื้องหน้าทิ้งตัวลงเสียงดังซ่าๆ ภายใต้ความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่น้อย ที่นี่ไม่ได้น่ากลัวเพราะอยู่ในเขตไร่พฤกษ์พนา และน้ำตกดังกล่าว ก็เป็นการทำที่กั้นทดน้ำ ซึ่งเจ้าของไร่ปล่อยมันออกมาจากฝายที่กักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ปลายทางของน้ำตกคือบ่อพักน้ำสำหรับรดพืชไร่พืชสวน

พุดแก้วถอนใจดังๆ นี่ถ้าหากการถอนใจหนึ่งครั้งลดอายุไปสิบปีเหมือนคนที่เป็นผู้ใหญ่ชอบพูด ตอนนี้อายุเธอในอนาคตจะเหลือกี่ปีไม่รู้ เกือบหนึ่งเดือนมานี่ เธอถอนใจหลายร้อยครั้งเข้าไปแล้ว

นับแต่วันที่ไปคุยกับโรมรัน เธอไม่มีโอกาสได้คุยกับเขาอีก โรมรันกลับดึก ตื่นแต่เช้า วันหยุดเขาก็เข้าเมือง บางทีก็มีผู้หญิงมาหาและออกไปด้วยกัน บางครั้งก็ไปกับเพื่อนวัยเด็กของเขา

“แกก็รู้นี่พิศ ทำไมฉันไม่อยากไป”

เสียงหงอยๆ ของเพื่อนรักทำให้พรพิศชักไม่สนุกไปด้วย

“เออรู้ แต่คุณเข้มเขาไม่รู้เหมือนฉันนี่ ทำไมแกไม่ทำให้เขารู้โต้งๆ ไปเลยล่ะ”

“ทำอะไร” หันไปถามเพื่อนอย่างอยากรู้ หน้าก็ร้อนเพราะความอายไปด้วย

พรพิศยิ้มเจ้าเล่ห์ หันซ้ายแลขวา เมื่อพบว่าไม่มีใครเข้ามาในรัศมีการสนทนา เธอยื่นหน้ามาใกล้ๆ เพื่อนรักพูดเบาๆ

“ทำให้เขารู้ว่าแกชอบเขาไง”

“บ้าสิยัยพิศ!”

“ไม่บ้าหรอก ถ้าแกไม่อยากไปก็ต้องทำสิยัยพุด”

“จะให้ทำอะไรเล่า พุ่งเข้าไปหา บอกเขาตรงๆ น่ะเหรอ ไม่เอาหรอก อายตาย”

โรมรันอายุสามสิบสองนะ ส่วนเธอแค่สิบแปดยังไม่เต็มดีด้วย จู่ๆ วิ่งโร่ไปบอกว่าชอบเขา มีหวัง ได้โดนดีดกระเด็นลงจากเรือนแทบไม่ทัน

“ดุออกปานนั้น บางแก้วยังเรียกว่าพ่อเลยด้วยมั้ง”

บรื๋อ... แค่คิดก็สยอง

พรพิศขำก๊าก มองหน้าเพื่อนรักที่ส่ายหวือๆ

“แกต้องทำ ถ้าแกไม่อยากไป ถ้าแกกลัวจะเสียเขาให้ผู้หญิงคนอื่น ไม่แน่นะโว้ย นอกจากแกจะได้อยู่ที่นี่ต่อ แกอาจจะได้เป็นนายหญิงของคุณเข้มก็ได้”

“บ้าแล้วยัยพิศ พูดอะไรไม่รู้ ฉันแค่สิบแปดนะ จะให้ทำอะไรพวกนั้นได้ไง”

“จะเป็นไรล่ะ เดี๋ยวนี้เด็กสิบห้า มันมีผัวนำหน้าแกไปแล้ว ลูกเป็นพุ่มเป็นพวงไม่เห็นเหรอแก มานี่ฉันจะให้ดูอะไร”

พรพิศหยิบเอามือถือทันสมัยที่เพิ่งได้มาใหม่ๆ มาเปิดวิดีโอให้เพื่อนรักดู

“อยากได้มันต้องยั่วโว้ยเพื่อนรัก”

ยั่วเหรอ...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป