บทที่ 7 ตอนที่ 7
“ใช่จ้ะ น้องอันพาคุณ... แม็กออกไปเถอะ เดี๋ยวจะถูกเศษแก้วบาดเอาได้”
อันนายิ้มหยันให้ ก่อนจะหันไปหาแม็กซิมัสที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เราออกไปรอข้างนอกกันเถอะค่ะพี่แม็ก”
“อันออกไปรอพี่ที่ห้องโถงก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ตามไป”
“คะ?” อันนาแปลกใจมากที่แม็กซิมัสจะอยู่ต่อ
“พี่จะทำแผลให้กับปั้นหยาน่ะ นิ้วเธอถูกเศษแก้วบาด”
“ตะ... แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของพี่แม็กเลยนะคะ แล้วอีกอย่างแผลก็นิดเดียวเอง อันว่า...”
“น้องอันไปรอพี่ข้างนอกนะครับ ไม่เกินห้านาทีพี่จะตามไป”
สีหน้าจริงจังไม่ต่างจากน้ำเสียงของแม็กซิมัส ทำให้อันนาไม่กล้าที่จะขัดใจเพราะเดี๋ยวเสียภาพพจน์ที่เพียรสร้างมาหลายปี
“ก็ได้ค่ะ พี่แม็กรีบออกมานะคะ”
“ครับ”
อันนาเดินออกไปแล้ว แม็กซิมัสก็ก้าวเข้ามาหยุดใกล้ๆ ร่างของปั้นหยา และรั้งให้หล่อนลุกขึ้นยืนด้วยการตะปบบ่าแบบบาง
“อ๊ะ...”
ร่างของปั้นหยาแทบจะปลิวติดมือของแม็กซิมัสขึ้นมาเลยทีเดียว
“ซุ่มซ่ามจริงๆ เลยนะ ปล่อยให้แก้วแตก แล้วยังไม่ระวังอีก”
ปั้นหยาดิ้นรนเพื่อให้บ่าของตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการของคนที่ตัวโตกว่ามาก แต่ก็ไม่เป็นผล
“ปล่อยหยาเถอะค่ะ หยาจะรีบเก็บเศษแก้ว”
“นิ้วเธอถูกบาดมองไม่เห็นหรือไง หรือว่าอยากตาย”
“แผลเล็กแค่นี้ คงไม่ทำให้หยาตายหรอกค่ะ ปล่อยหยาเถอะค่ะ”
เขาส่ายหน้าไปมา มองหล่อนด้วยแววตาสังเวช “เธอนี่มันทั้งดื้อทั้งรั้นเลยนะ ไม่เห็นเหมือนกับน้องอันเลยสักนิด”
คนที่ถูกนำไปเปรียบเทียบเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ และก็แทบซ่อนความรู้สึกนี้เอาไว้ในอกไม่มิด
“หยาขอโทษค่ะที่ทำตัวไม่ดีเหมือนน้องอัน ปล่อยหยาได้แล้วค่ะ”
“ไม่ จนกว่าเธอจะทำแผลเสร็จ”
เขาผลักหล่อนให้ลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากบริเวณที่แก้วตกแตก ก่อนจะเอ่ยถามหากล่องปฐมพยาบาล
“ที่ทำแผลอยู่ไหน”
“เอ่อ... หยาทำเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณแม็กดีกว่า”
“ตอบ... ที่ทำแผลอยู่ไหน”
น้ำเสียงของแม็กซิมัสดุดันมาก ทำให้ปั้นหยาไม่กล้าพอที่จะขัดคำสั่ง
“อยู่... ตรงนั้นค่ะ” หล่อนชี้ไปที่ลิ้นชักมุมห้องที่มีกล่องปฐมพยาบาลซ่อนอยู่ในนั้น
แม็กซิมัสมองหน้าหล่อนเล็กน้อยด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ก่อนจะเดินไปหยิบสิ่งที่เขาต้องการ และเดินกลับมาในเสี้ยวนาทีต่อมา
“ฉันเป็นหมอ ดังนั้นสัญชาตญาณของฉันก็คือช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม หรือจะพูดให้ตรงประเด็น ต่อให้เป็นหมาเป็นแมวฉันก็ต้องช่วย”
นี่หล่อนควรจะยินดีใช่ไหมที่แม็กซิมัสช่วยเหลือทำแผลที่ปลายนิ้วให้อยู่
ทำไมนะ ผู้ชายคนนี้ถึงได้จงเกลียดจงชังหล่อนนัก หล่อนไปทำอะไรให้กัน
“เสร็จแล้ว และก็ไม่ต้องสร้างแผลเพิ่มนะ เพราะฉันไม่ว่างมากพอที่จะย้อนกลับมาทำแผลให้เธออีก”
เขาเลื่อนกล่องปฐมพยาบาลที่ภายในมียาสามัญประจำบ้านอยู่เต็มเอียดออกห่าง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ แต่สายตายังคงจ้องมองมา
“ระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำล่ะ แล้วก็หมั่นล้างแผลด้วย ถ้าไม่อยากให้แผลเน่า”
“ขอบ... คุณค่ะ”
“ไม่เป็นไร ก็อย่างที่บอกไง ต่อให้เป็นหมาเป็นแมวฉันก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะฉันเป็นหมอ”
เขาพูดได้น่าฟังที่สุด
ปั้นหยาเจ็บปวดแต่ก็ยกมือไหว้เขาในที่สุด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใส่ใจเลย เพราะหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้องครัวอย่างไม่ไยดี
หล่อนมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปทั้งน้ำตา กลีบปากอวบอิ่มสั่นไหวด้วยความปวดร้าวทรมาน
มื้ออาหารค่ำของวันต่อมา อันนาก็ร่วมมือกับเพื่อนสนิทอย่างรัชนกทำตามแผนการที่วางเอาไว้ นั่นก็คือการใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในเครื่องดื่มของแม็กซิมัส
“แกแน่ใจนะนังนกว่ายาที่แกไปซื้อมาเนี่ยมันจะได้ผล”
“แน่ใจสิยะ ไอ้คนขายมันบอกว่าเอาทั้งคืนไม่มีเหนื่อย แกเตรียมเมื่อยขาได้เลยนังอัน”
อันนาระบายยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อสิ่งที่หวังกำลังจะเป็นจริง
“คราวนี้แหละฉันต้องท้องแน่ๆ แล้วพี่แม็กก็จะต้องรีบแต่งงานกับฉันโดยเร็ว”
รัชนกมองหน้าเพื่อนซี้แล้วส่ายศีรษะไปมา “นี่ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้ให้ยุ่งยากหรอก ฉันจะรอให้พี่แม็กพร้อมและขอแต่งงานด้วยตัวเอง ภูมิใจกว่าเยอะ”
“ก็ฉันรอไม่ได้ ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านนรกหลังนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว อ้อ และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ มีผู้หญิงจ้องจะงาบพี่แม็กของฉันเยอะเกินไป ฉันระแวง”
“ก็ตามใจแก นั่นเสียงรถพี่แม็กหรือเปล่า”
รัชนกพยักพเยิดหน้า
อันนารีบวิ่งไปเกาะขอบหน้าต่างมอง และก็พบว่ารถสปอร์ตคันหรูของแฟนหนุ่มแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้ว
“ใช่ พี่แม็กมาแล้ว” น้ำเสียงของอันนาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เดี๋ยวแกไปไล่คนใช้ให้กลับที่พักให้หมดเลยนะ จากนั้นแกก็รีบกลับไป ฉันอยากอยู่กับพี่แม็กตามลำพัง”
“ยะ” รัชนกกระแทกเสียงใส่อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ “แต่ในบ้านนี้ก็ยังเหลือลูกพี่ลูกน้องของแกอีกคนไม่ใช่เหรอ ชื่ออะไรนะ” รัชนกพยายามนึก แต่ยังไม่ทันนึกออก อันนาก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน
“แกหมายถึงนังปั้นหยาน่ะเหรอ”
“ใช่ๆ”
“นังนั่นมันไม่กล้ามาวุ่นวายอะไรกับฉันหรอก ยิ่งคุณย่าไม่อยู่ด้วยแบบนี้ มันก็ยิ่งไม่มีฤทธิ์มีเดช”
“โอเค งั้นฉันจะจัดการพวกคนใช้ให้ ส่วนแกก็ทำให้สำเร็จก็แล้วกัน อ้อ แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะว่าถูกเอาท่าไหนบ้าง” รัชนกหัวเราะคิกคัก
“ได้สิ แล้วแกจะต้องอิจฉาฉัน นังนก” อันนาเชิดหน้าสูงและยิ้มกริ่ม ก่อนจะรีบตัดบท “แกไปได้แล้ว ฉันจะออกไปรับหน้าพี่แม็กก่อน เดี๋ยวโดนสงสัยเอา”
“โอเค โชคดีนะยะ”
