บทที่ 4 เนี่ยหลิงกับสมบัติชิ้นแรก

เนี่ยหลิงและหยางหลงเดินมุ่งหน้าต่อไปใบไม้หนาทึบเป็นลานกว้างปรากฏอยู่ตรงหน้า ทั้งสองเดินมุ่งหน้ามาเรื่อย ๆ เนี่ยหลิง

กวาดตามองไปรอบ ๆ ก็เจอเข้ากับเห็ดสนจำนวนหนึ่งอยู่ใต้ต้นไม้

ไม่รอช้านางเดินเข้าไปทันทีโดยมีหยางหลงเดินตามมาติด ๆ นางเอ่ยกับสามีว่า

“ท่านพี่ข้าจะหาเห็ดและผักป่าอยู่แถวนี้ ท่านออกไปเดินดู

สักหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะว่าจะเจอไก่ป่าหรือกระต่ายให้ได้ล่ากลับไปทำอาหารหรือไม่ นี่ก็ใกล้หน้าหนาวเข้ามาทุกที บ้านเรายังต้องหาเสบียงอีกมาก”

“ได้ แต่น้องหญิงอย่าเดินไปไหนไกล และห้ามเดินเข้าไปในป่าลึกเด็ดขาด หากเจอเข้ากับสัตว์วิญญาณจะแย่เอา”

“เจ้าค่ะท่านพี่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะไม่ทำอะไรเสี่ยงเด็ดขาด”

“ครั้งที่แล้วเจ้าก็พูดแบบนี้ถึงได้พลัดตกเขาดีที่เจ้าไม่เป็นอะไรมาก ไม่เช่นนั้นหากเจ้าเป็นอะไรไป พี่กับลูกจะอยู่ได้เช่นไรและ

พี่คงไม่ให้อภัยตัวเอง”

“ข้าจะระวังให้มากเจ้าค่ะท่านพี่ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง”

หยางหลงเดินออกไปอีกทาง เนี่ยหลิงก็เก็บเห็ดสนตรงหน้าจนหมดแล้วเดินไปเรื่อย ๆ สายตาก็สอดส่ายหาของที่รู้จัก ตาม

ความทรงจำเดิมว่ามีอะไรสามารถกินได้บ้าง พลันสายตาก็ไปปะทะเข้ากับพริกสีแดงสดเต็มต้น อ่านี่มันสมบัติชัด ๆ เก็บ ๆ เนี่ยหลิงเก็บพริกจนหมดและขุดเอาต้นที่ยังเล็กอยู่ไปสองสามต้น เนี่ยหลิงหาใบไม้ใหญ่มาห่อรากต้นพริกที่มีดินติดมาด้วยกว่าจะลงจากเขา

นางกลัวว่ามันจะตายเสียก่อน เดินต่อมาสักพักก็เจอเข้ากับต้นมะนาว ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปเก็บทันที พอเดินไปถึงต้นมะนาวนางถึงกับตาโต

“โอ้แม่เจ้า นี่มันสวนผักจากโลกเดิมของนางชัด ๆ ขอบคุณพระเจ้า เย็นนี้จะไม่ต้องกินอาหารจืดชืดอีกแล้ว บอกเลยเต็มกลืนจริง ๆ”

เนี่ยหลิงเก็บมะนาว มะกรูด ข่า ตะไคร้ ขิง พร้อมกับต้นอ่อนไปด้วย

“อ่าพอก่อน เดี๋ยวเต็มตะกร้าก่อน วันหลังค่อยมาเก็บใหม่”

เนี่ยหลิงเดินตรงมาพลันสายตาก็ปะทะกับท่อนไม้ผุ ๆ ท่อนหนึ่ง มีเห็ดสีแดงขึ้นอยู่ประมาณห้าดอก นางไม่รอช้าเดินเข้าไปทันที พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมา

“นี่มันใช่เห็ดหลินจือแดงหรือเปล่า มันจะใช่ไหม ไม่รู้ล่ะ

เก็บก่อน สมบัติของฉัน ฮ่า ๆ”

เนี่ยหลิงลงมือเก็บอย่างว่องไวเก็บใส่ตะกร้าอย่างระมัดระวัง นางเห็นว่าใกล้จะได้เวลานัดกับน้องสามีแล้วจึงเดินออกมารอหยางหลงตรงที่นัดกันไว้ เพื่อที่จะได้ไปตามเวลานัดพลันหางตาเหลือบไปเห็นไก่ป่าสองตัว นางไม่รอช้ารีบยกธนูขึ้นทันที

“อะ ขอลองสกิลหน่อยสิว่าฝีมือจะยังเหมือนเดิมไหม” ฟิ้ว ปั๊ก ลูกธนูพุ่งตรงไปปักที่คอไก่ตัวใหญ่ทันที

“ฮ่า ๆ มีไก่กินแล้ว ลูก ๆ ข้า วันนี้มารดาเจ้ามีเนื้อให้เจ้ากินแล้ว”

เนี่ยหลิงเดินไปเก็บไก่ป่าตัวใหญ่แล้วมานั่งรอหยางหลง

สักพักสามีของนางก็เดินกลับมาถึง นางจึงเอ่ยปากถามทันที

“ท่านพี่ได้อะไรมาบ้างเจ้าคะ”

“พี่ไม่ได้อะไรเลยน้องหญิง น้องหญิงได้ผักอะไรมาหรือ แล้วพวกนี้กินได้หรือน้องหญิง”

“กินได้สิท่านพี่ ผักพวกนี้สามารถนำไปปรุงอาหารได้ ข้าจะนำต้นเล็ก ๆ พวกนี้ไปปลูกด้วย”

“เอ๊ะนั่นน้องหญิงได้ไก่ป่าด้วยหรือ ดีมากเลยจะได้นำไปต้มน้ำแกง บ้านเราไม่ได้กินเนื้อมานานแล้วช่างโชคดีนัก”

“เจ้าค่ะท่านพี่”

“พี่ช่วยถือนะน้องหญิง”

“ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่”

“พี่ว่าเราเดินกลับไปที่จุดนัดพบที่นัดกับน้องรองและน้องสามดีกว่านะ ใกล้ได้เวลานัดแล้ว”

ทั้งสองคนเดินมาเรื่อย ๆ ลงมาถึงที่จุดนัดพบ แต่หางตาเนี่ยหลิงเหลือบไปเจอเถาอะไรสักอย่างใบเหมือนมันเทศจึงได้เดินเข้าไปดู

“นั่นน้องหญิงจะไปไหน” หยางหลงเอ่ยถามออกมาพร้อมกับเดินตามหลังมาด้วย

“ท่านพี่เจ้าคะช่วยข้าขุดหน่อย เหมือนข้าจะเจอมันเทศ”

ทั้งสองคนจึงช่วยกันขุด

“มันใช่มันเทศจริง ๆ เหรอน้องหญิง ทำไมคนละสีกับที่เราปลูกล่ะ สีม่วงมันจะไม่มีพิษหรือ”

“ท่านพี่มันกินได้เจ้าค่ะ มันแค่คนละสีกับที่เราปลูกเท่านั้น ท่านช่วยข้าขุดไว ๆ เจ้าค่ะ”

ทั้งสองคนช่วยกันขุด ได้จนเต็มตะกร้าของหยางหลง น้องสามีก็กลับมาถึงจุดนัดพบพอดี

“พวกเจ้าได้อะไรมาบ้าง”

“ไม่ได้อะไรเลยพี่ใหญ่ ได้ผักป่ามานิดหน่อย ส่วนกับดัก พรุ่งนี้คงต้องมาดูอีกที แล้วพวกท่านได้อะไรบ้างพี่ใหญ่”

“น้องหญิงได้ไก่ป่า เห็ดสนและผักป่าน่ะ ก่อนที่พวกเจ้าจะมาถึง ข้ากับน้องหญิงเจอมันเทศตรงนี้เลยเก็บกลับไปด้วย”

“ดียิ่งพี่ใหญ่ อย่างน้อยยังได้มันเทศกลับไปเป็นเสบียงได้”

“ท่านพี่น้องว่าเราลงไปดูหลุมดักปลาดีกว่าเจ้าค่ะ อาจจะได้ปลาไปทำอาหารเพิ่ม”

“เช่นนั้นก็กลับเถอะเอาตามน้องหญิงว่า นี่ก็บ่ายแก่ ๆ แล้ว จะถึงบ้านมืดค่ำเอา”

เมื่อทั้งสี่คนเดินลงมาถึงลำธาร เนี่ยหลิงตรงไปยังหลุมดักปลาทันที

“โอ้โห พี่สะใภ้ปลาเยอะมากมีแต่ตัวใหญ่ ๆ ข้ากับน้องสามจะจับให้เอง”

ทั้งสองช่วยกันจับปลาใส่ตะกร้าและแบกลงเขาไป

บทก่อนหน้า
บทถัดไป