บทที่ 8 เมื่อบ้านหนิงซื้อเกวียนวัว

หลังจากที่หยางหลงไปเอาปลาที่หลุมดักปลามาให้ท่านแม่ น้องชายทั้งสองก็กลับมาถึงจุดนัดพบที่หยางหลงนัดพอดี “น้องรอง น้องสาม พวกเจ้าได้อะไรมาบ้าง”

“ได้หมูป่ามาหนึ่งตัว กระต่ายป่าสามตัว และไก่ป่าห้าตัวขอรับ”

“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ จะได้รีบเข้าเมืองไปขาย จะได้กลับมาไม่มืดค่ำจนเกินไป”

“พี่ใหญ่จะเก็บอะไรไว้ให้พี่สะใภ้ทำเป็นอาหารเย็นหรือไม่”

“ไม่ต้องหรอกน้องสาม น้องหญิงขึ้นเขาไปแล้ว คงได้อะไรกลับมาบ้าง อย่างน้อยยังมีปลาพวกนี้อีกมาก พี่เชื่อว่าน้องหญิงนำไปทำอาหารได้อร่อยแน่ ๆ”

“พี่ใหญ่ท่านว่าตั้งแต่พี่สะใภ้หายป่วย พี่ว่านางแปลก ๆ ไปหรือไม่ ข้าก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าอะไรที่แปลกไป”

“น้องรองเจ้าคิดมากไปแล้ว อย่างไรนางก็เป็นภรรยาข้า อาจจะเป็นเพราะว่าที่ผ่านมาข้าไม่มีความสามารถดูแลนางให้

สุขสบาย ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ ทำให้นางต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้อดทนและเข้มแข็งขึ้นเพื่อช่วยเหลือพวกเราก็เป็นได้”

“พวกเจ้าสองคนไปรอเกวียนรับจ้างที่หน้าหมู่บ้านก่อน พี่จะเอาปลากลับไปให้ท่านแม่แล้วจะตามไป”

เมื่อหยางหลงนำปลาที่ได้จากหลุมดักปลาไปให้ท่านแม่แล้วก็รีบไปเอาเห็ดในห้องนอน จากนั้นจึงออกไปที่จุดรอเกวียนรับจ้าง การเดินทางเข้าเมืองสายรุ้งนั้นใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งเค่อ ถ้าเดินเท้าก็เกือบ ๆ สามเค่อ เมื่อหยางหลงไปถึง คนก็ขึ้นเกวียนจนเกือบเต็มแล้ว หยางหลงไม่รอช้ารีบขึ้นไปนั่งข้างน้องชายสองคน

ค่าเกวียนเข้าเมืองคนละสามอิแปะ หยางหลงจ่ายเงินไปเก้าอิแปะสำหรับสามคน

“วันนี้พวกเจ้าพี่น้องจะเข้าเมืองไปขายของป่ารึ หยางหลง”

“ขอรับท่านป้าซู”

“ภรรยาของเจ้า นางหายดีแล้วหรือ ถึงได้เดินขึ้นเขาไปหาของป่าอีก”

“นางหายดีแล้วขอรับ ท่านป้า นางก็เป็นเช่นนี้ ใครห้ามปรามก็ไม่ฟัง ข้า ก็หมดปัญญาจะห้ามปรามนางแล้วขอรับ”

“เจ้าโชคดีแล้วที่ได้นางมาเป็นภรรยาเจ้า นางขยันทำมาหากิน ไม่เหมือนลูกสาวบางบ้าน งานการไม่ทำ เอาแต่แต่งตัว เดินให้ท่าผู้ชายไปวัน ๆ”

ป้าซูพูดพลางเหลือบตามองไปยังนางหลิวแม่ของหลิวอิงเถา นางหลิวได้แต่กัดฟัน ไม่โวยวายออกมา เนื่องจากสามีนางเฒ่าหลิว นั่งมาด้วย ได้แต่คิดในใจ ฝากไว้ก่อนเถอะ นางซู นั่งเกวียนมาจนถึงประตูเมือง ทุกคนก็ลงจากเกวียนเดินเข้าประตูเมืองไปทันที

“ใครจะกลับพร้อมเกวียนก็ให้มารอที่ตรงนี้อีกสามเค่อ ใครมาช้า ข้าไม่รอ ถือว่าข้าบอกแล้ว”

สามพี่น้องเดินเข้าประตูเมือง เข้ามาในเมืองสายรุ้ง วันนี้ ตลาดยังคงคึกคักเช่นเดิม คนที่เข้ามาหางานทำก็ยังเยอะเหมือนเดิม แต่งานก็ไม่ได้หาง่าย ๆ แถมยังต้องโดนหักค่านายหน้าหางานอีก

“พี่ใหญ่จะไปที่ใดก่อนขอรับ ข้าว่าเอาสัตว์ป่าพวกนี้ไปขายก่อนดีหรือไม่ ค่อยไปร้านขายยา”

“เอาเช่นที่น้องรองว่าก็แล้วกัน”

จากนั้นทั้งสามได้มุ่งหน้าไปยังเหลาจวิ้นเสวียน เมื่อเดินมาถึง จึงได้เดินเข้าประตูหลังร้านอันเป็นจุดรับซื้อสัตว์ป่าและของป่าอื่น ๆ ด้านหลังนี้จะมีพนักงานรับซื้อรออยู่ซึ่งเหลาแห่งนี้ให้ราคาดี

ไม่กดราคากับชาวบ้าน

“สวัสดีขอรับ ท่านลุงหม่า”

“อ้าว หยางหลงรึ วันนี้เจ้าได้อะไรมาบ้างล่ะ”

“มีหมู ป่า ไก่ป่า แล้วก็กระต่ายขอรับ”

“โอ้ ยังสดใหม่อยู่เลย”

“ใช่ขอรับ พวกข้าพึ่งได้มาเมื่อตอนเช้า ก็รีบมาขายทันที”

“หมูของเจ้า ข้าให้ชั่งละห้าสิบอิแปะ ส่วนไก่ ข้าให้ตัวละ

สิบห้าอิแปะ กระต่ายตัวละยี่สิบอิแปะ เจ้ารอสักครู่ ให้พนักงานนำหมูไปชั่งก่อน”

หลังจากลุงหม่าเรียกพนักงานมายกหมูไปแล้ว ทั้งสามคนรอประมาณสิบนาที พนักงานออกมาแจ้งน้ำหนักหมูแก่ลุงหม่า

“หมูป่าทั้งหมดห้าสิบชั่งเป็นเงินสองตำลึงห้าสิบอิแปะ กระต่ายป่าสามตัวหกสิบอิแปะ ไก่ป่าห้าตัวเจ็ดสิบห้าอิแปะ รวมเป็นสามตำลึงแปดสิบห้าอิแปะ ถูกต้องหรือไม่ “

“ถูกต้องขอรับ ข้าและน้อง ๆ ขอตัวก่อน ขอบคุณลุงหม่ามากขอรับ”

“วันหลังมีก็เอามาขายที่นี่อีกนะ”

“ขอรับท่านลุงหม่า”

เมื่อทั้งสามขายสัตว์ป่าเสร็จก็เดินออกมาเพื่อที่จะไปร้านขายยาทันที เดินมาถึงร้านยาไห่หนาน ทั้งสามก้าวเข้าไปในร้าน เมื่อพนักงานเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาก็ออกมาต้อนรับทันที โดยไม่ได้มี

สีหน้าดูถูกแม้แต่น้อย

“สวัสดีขอรับ ท่านต้องการซื้อยาหรือว่ามาขายสมุนไพรขอรับ”

“ข้าต้องการขายสมุนไพร แต่ขอพบผู้จัดการได้หรือไม่”

“เช่นนั้น เชิญท่านทั้งสามทางด้านนี้เลยขอรับ”

พนักงานเดินนำทั้งสามเข้าไปนั่งรอในห้องด้านซ้ายมือ

ผ่านไปสิบห้านาทีมีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้อง

“มีพนักงานไปแจ้งข้าว่าพวกเจ้าต้องการขายสมุนไพร แล้วเป็นสมุนไพรชนิดใด”

หยางหลงหยิบเห็ดหลินจือขึ้นมาหนึ่งดอกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าผู้จัดการ ทันทีที่ผู้จัดการเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ตกตะลึง

อ้าปากค้าง ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูด้วยมือที่สั่นเทา สองมือประคองไว้อย่างทะนุถนอม

“นี่มันเห็ดหลินจือแดง นับว่าหายากยิ่ง ข้าไม่เคยพบเห็นมาหลายสิบปีแล้ว ดอกใหญ่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ข้าให้เจ้าดอกละ 500 ตำลึงทอง เจ้าพอใจหรือไม่และเจ้ามีมากน้อยเท่าไหร่”

“ข้าพอใจขอรับ ข้ามีทั้งหมด 5 ดอก ขอรับ” หยางหลงหยิบเห็ดหลินจือขึ้นมาอีกสี่ดอกให้ผู้จัดการทันที ส่วนน้องชายทั้งสอง

นั่งนิ่งไม่ไหวติงตั้งแต่ได้ยินราคาเห็ดเพียงแค่หนึ่งดอกแล้ว

“นี่ตั๋วเงินของเจ้า 2,500 ตำลึงทอง”

“ขอบพระคุณขอรับ ส่วน 500 ตำลึงทองนี้ ข้าขอแลกเป็น

ใบละ 100 ตำลึงทอง ส่วน 4 ใบที่เหลือ ข้าขอเป็นตำลึงเงินขอรับ”

“ได้ เจ้ารอสักประเดี๋ยว ข้าจะจัดการให้”

รอไม่นานผู้จัดการก็กลับมาพร้อมตั๋วเงินใบละหนึ่งร้อยตำลึงทองสี่ใบ และตำลึงเงินอีกหนึ่งพันตำลึงเงิน

“นี่เงินของเจ้า ครั้งหน้าหากมีสมุนไพรอีก เจ้านำมาขายที่ร้านข้าอีกนะ”

“ได้ขอรับ พวกข้าลาล่ะขอรับ”

ทั้งสามเดินออกมานอกร้าน เป้าหมายต่อไปคือ ซื้อข้าวของและธัญพืช เมื่อซื้อของจนครบแล้วก็ฝากไว้ที่ร้านก่อนค่อยกลับมาเอาตอนที่ซื้อเกวียนวัวแล้ว จากนั้นทั้งสามคนก็ตรงไปตลาดค้าวัว หยางหลงเลือกวัวตัวผู้และตัวเมียอย่างละหนึ่งตัวพร้อมเทียมเกวียน ราคาสามสิบตำลึงทอง เมื่อได้เกวียนแล้วทั้งสามคนก็กลับไปเอาของที่ฝากไว้แล้วแวะซื้อขนมไปฝากบุตรชายก่อนจะตรงกลับบ้านทันที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป