บทที่ 6 ตอนที่ 6
“ไอ้บ้า! อย่ามองเชียวนะ หลับตาเดี๋ยวนี้!”
หล่อนอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี รีบเอามือลงไปกุมเนินนางเอาไว้ แต่มันไม่มิด จำต้องรีบก้มลงคว้าผ้าถุงขึ้นมาสวมใส่ด้วยความลนลาน
“ไอ้ผู้ชายฉวยโอกาส! ไอ้...ไอ้...”
แมทธิวยกมือขึ้นห้าม ก่อนจะยิ้มกวนโทสะ “เอาไว้ด่าต่อวันหลังนะ เดี๋ยวฉันขอตัวไปล้างตาก่อน กลัวเป็นตากุ้งยิงน่ะ เห็นของไม่ดีติดต่อกันหลายรอบ”
“ไอ้...ไอ้...”
หล่อนพยายามนึกหาคำด่าที่เหมาะสมกับผู้ชายร้ายกาจอย่างแมทธิว แต่นึกไม่ออกเลย เขามันเลวจนไม่มีคำด่าไหนๆ คู่ควร
“ขอตัวนะครับ คุณหอยนางรม...”
“กรี๊ด! ไอ้...สารเลว!”
“ไปล่ะ”
เขายกมือขึ้นโบกให้หญิงสาวด้วยท่าทางกวนโทสะ ก่อนจะเดินผิวปากออกไปจากห้องตรวจภายในของสตรีอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้มัทนายืนกรีดร้องด้วยความโมโหเพียงลำพัง
“อ้าว...นายมาทำอะไรในนี้นายแมท นี่มันห้องตรวจภายในสตรีนะ”
เมสันที่เดินนำหน้านางพยาบาลเอ่ยทักทันที เมื่อเห็นน้องชายเดินหน้าตากรุ้มกริ่มสวนออกมา
“ผมเข้าห้องผิดน่ะครับ”
“นายเนี่ยนะเข้าห้องผิด” พี่ชายทำเสียงเหลือเชื่อ
“ครับ ช่วงนี้สมองเบลอๆ ก็เลยจำทางไม่ค่อยได้ ขอตัวนะครับพี่ไมค์”
“อืม ตามสบายเถอะ”
แมทธิวเดินออกมาสองก้าวก็ชะงัก และหมุนตัวกลับไปเรียกพี่ชายไว้อีกครั้ง
“พี่ไมค์ครับ”
“ว่าไง” เมสันหมุนตัวกลับมามองน้องชาย
“เมื่อกี้ผมเจอมัทนาข้างใน เห็นเธอบอกว่าจะไม่ตรวจภายในแล้วน่ะครับ”
เมสันเลิกคิ้วสูง “อ้าว จริงหรือ นี่พี่กำลังจะไปตรวจให้น้องมัทเลยนะเนี่ย”
“จริงครับ พี่ไมค์ไม่ต้องเข้าไปแล้วล่ะครับ”
เมสันยังคงลังเล คนเป็นน้องจึงย้ำอีกครั้ง “รับปากกับผมสิครับว่าจะไม่ตรวจภายในให้มัทนา”
เมสันยังไม่ทันรับปาก มัทนาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็วิ่งสวนออกมาพอดี
“น้องมัท...”
มัทนาหน้าตายังคงแดงก่ำ และมีร่องรอยน้ำตาเปื้อนที่แก้มนวล หญิงสาวก้าวเดินไปหยุดตรงหน้าแมทธิว มองผู้ชายที่ตัวสูงกว่ามากมายด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ
แมทธิวเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงคำถาม แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรออกมา กำปั้นน้อยๆ แต่หนักใช่เล่นของมัทนาก็ซัดใส่ใบหน้าหล่อจัดของชายหนุ่มเต็มแรง
“โอ๊ย...ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ ยัยเด็กประสาท!”
“นายมันสมควรโดนมากกว่านี้อีก ไอ้ผู้ชายลามก!”
“เอ่อ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือน้องมัท นายแมท” เมสันเดินเข้ามาถามเมื่อเหตุการณ์ดูท่าจะบานปลาย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ไมค์ มัทก็แค่อยากเห็นเลือดชั่วๆ ของน้องชายพี่น่ะค่ะว่ามันสีอะไร”
แมทธิวยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากของตัวเอง มองมัทนาด้วยสายตาโกรธจัด
“ยัยเด็กนรก”
“ฉันขอให้นายเป็นตากุ้งยิง หรือไม่ก็ตาบอดไปเลย ไอ้คนเฮงซวย”
คราวนี้กำปั้นเล็กไม่อาจทำอะไรใบหน้าหล่อๆ ของแมทธิวได้อีกแล้ว เพราะชายหนุ่มคว้าแขนเล็กเอาไว้ได้ทัน
“ไม่ได้แอ้มฉันเป็นครั้งที่สองหรอก ยัยเด็กบ้า”
มัทนากัดฟันแน่น ก่อนจะระบายยิ้มหยัน “แน่ใจเหรอ” จากนั้นก็ยกขาเตะผ่าหมากแมทธิวเต็มแรง
“โอ๊ย...ยัยเด็กบ้า...”
ร่างสูงใหญ่ของแมทธิวย่อลง หน้าตาเขียวคล้ำทรมาน และยกมือขึ้นกุมเป้ากางเกงเอาไว้แน่น
“จำเอาไว้ อย่าฉวยโอกาสกับฉันอีก”
ก่อนจะเดินจากไป มัทนาที่ยังแค้นไม่หายก็ยกเท้าขึ้นกระทืบลงบนรองเท้าหนังเงาวับของแมทธิวอีกครั้ง สร้างความเจ็บปวดให้ชายหนุ่มอีกหลายเท่าตัว
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยเด็กนรก...”
มัทนาเดินจากไปแล้ว ท่ามกลางสายตามึนงงของเมสัน และนางพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์
“นายไปทำอะไรน้องมัทหรือเปล่า ทำไมดูโกรธจัดแบบนี้ล่ะ”
คนที่ยังเจ็บกล่องดวงใจไม่คลาย หันมามองพี่ชาย ก่อนจะกัดฟันตอบออกมา
“ผมจะไปทำอะไรล่ะครับ ก็แค่ตรวจภายในให้แม่นั่นแทนพี่ไมค์เท่านั้นเอง”
“เฮ้ย...” เมสันตาเหลือก
“ตายแล้ว” นางพยาบาลรีบยกมือขึ้นทาบอก หน้าตาเต็มไปด้วยความตกใจ
“ไอ้แมท!”
“ผมไปตรวจร่างกายก่อนนะพี่ไมค์ เดี๋ยวต้องรีบกลับไปประชุมต่อ”
เมื่อเห็นพี่ชายโมโห คนเป็นน้องก็รีบเผ่นหนีไปทันที
“ไอ้น้องบ้า นี่มันทำอะไรลงไปรู้ตัวไหมเนี่ย” เมสันเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ พร้อมกับหันไปหานางพยาบาลที่ยืนหน้าตื่นตกใจเช่นกันทันที “คราวหลังเราต้องมีพยาบาลอยู่กับคนไข้ด้วย ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”
“คงไม่มีผู้ชายคนไหนอุตริเหมือนกับคุณแมทธิวแล้วล่ะค่ะ”
เมสันถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองด้วยความเครียดหนัก
“ตายแล้วแก...เป็นอะไรไปน่ะ ทำไมร้องไห้ราวกับบรรพบุรุษมาเกิดใหม่อย่างนั้นล่ะ”
ดลกรเห็นเพื่อนสาวคนสนิทที่มากดกริ่งเรียกอยู่หน้ารั้วบ้านร้องห่มร้องไห้จนน้ำแทบท่วมประเทศไทยก็รีบดึงเข้ามากอด และประคองเข้าไปในบ้าน
“ว่าไง นังชะนีตัวไหนมันไล่กัดแก บอกฉันมาเลย ฉันจะเอาขนมไปให้พวกมัน โทษฐานทำถูกใจฉัน”
“นี่มันใช่เวลามาพูดเล่นเหรอนังนัตตี้” มัทนาน้ำตาร่วงไม่หยุด มองเพื่อนอย่างหงุดหงิด
“เออๆ ฉันขอโทษว่ะ ว่าแต่แกเถอะ ไปโดนใครทำอะไรมา หรือว่าคุณหมอสุดหล่อไม่ชอบจิ๋มแกวะ”
“ไม่ใช่”
“งั้นเขาก็ชอบจนขอแกแต่งงาน”
“จะบ้าหรือไงนังนัตตี้ ใครมันจะมาชอบไอ้นั่นฉันกันล่ะ”
“อ้าว แล้วแกร้องไห้ทำไม อย่าบอกนะว่าซ้อมเอาไว้เพราะจะไปแคสติ้งละครทีวี”
“นี่แกเลิกตลกเถอะ ฉันกำลังร้องไห้อยู่นะ” มัทนาโมโหเพื่อน
“ก็ต้นตระกูลฉันเป็นตลกนี่นา แกจะให้ทำยังไงล่ะ เอ่อ แล้วใครทำแก บอกมา”
ความทรงจำแสนอัปยศไหลกลับเข้ามาในหัวอย่างไม่มีความปรานี หล่อนสะอื้นไห้แรงขึ้น
“หรือว่าพี่ไมค์แกเป็นตุ๊ดเหมือนกัน”
