บทที่ 4 4
ร่างสูงตกจากเก้าอี้ เขานั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ท่ามกลางเสียงฟ้าที่ฟาดกระหน่ำจนแผ่นดินสะเทือน เขาปวดที่ศีรษะแปลบราวมีใครเอาค้อนมาทุบ สองมือหนากุมขมับไว้แน่น ก้อนเนื้อตรงอกข้างซ้ายกระหน่ำรัวราวมีใครมาตีกลองอยู่ในนั้น
“คุณกันต์…ว้าย ! ตายแล้ว” เจซี่อุทานเมื่อออกมาที่ระเบียงแล้วเห็นเจ้านายหนุ่มนั่งก้มหน้า กุมศีรษะตัวเองอยู่บนพื้น ท่าทางทรมานของเขาทำให้หล่อนต้องรีบวิ่งกลับออกไปแล้วเข้ามาใหม่อีกครั้งพร้อมยาและน้ำ
“ป้า…เจซี่ ผมได้ยินเสียงผู้หญิง เธอบอกว่าเกลียดผม ไม่อยากเห็นหน้าผมอีก เธอเป็นใครกัน ทำไมผมจำไม่ได้เลย”
“คุณกันต์คะ ปวดหัวใช่ไหม ทานยาสักหน่อยนะคะ”
ชายหนุ่มเอื้อมมือสั่นๆไปรับมามากิน ตามด้วยน้ำเปล่าจนหมดแก้ว ก่อนพิงหลังกับผนังห้องเย็นเฉียบ ท่าทางผ่อนคลายลง ทว่าใบหน้าคมยังคงซีดเผือดและมีหยดเหงื่อซึมตามขมับทั้งๆที่อากาศค่อนข้างเย็นชื้นเพราะฝนตก
“เป็นยังไงบ้างคะคุณกันต์” เจซี่ถามด้วยน้ำตาคลอ น่าสงสารเหลือเกิน…เจ้านายของหล่อนยังหนุ่มแน่น แถมหน้าตาหล่อเหลา เป็นถึงลูกชายนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในอังกฤษ
ด้วยรูปลักษณ์ ทรัพย์สมบัติ และดีกรีความรู้ที่จบปริญโทด้านการบริหาร ทำให้กันติทัตเป็นชายหนุ่มที่ถูกสาวๆหมายปองมากที่สุด จนได้รับลงในหนังสือว่าเขาเป็นผู้ชายในฝันที่ผู้หญิงในอังกฤษอยากแต่งงานด้วยมากที่สุด
แต่ทว่าใครจะรู้ล่ะว่า…ชีวิตที่รุ่งโรจน์สุดขีดของเขา ในวันนี้ต้องเจอเรื่องแบบนี้ มาอยู่ต่างถิ่นห่างไกลจากบ้านเกิดเพื่อศึกษาการตลาดเพื่อจะได้ขยายสาขามาที่เอเชียบ้าง ทว่ากลับต้องมาได้รับอุบัติเหตุจนสูญเสียความทรงจำในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ซึ่งหมอได้บอกว่า…กันติทัตอาจเจอเรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจมากจนถึงขนาดอยากลืมเรื่องดังกล่าว และประจวบเหมาะกับได้รับความกระทบกระเทือนที่สมองพอดี ทำให้เรื่องราวนั้นถูกลืมเลือนไป
หล่อนเห็นใจกันติทัต ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่…ต้องทนเห็นคนเป็นเจ้านายมีอาการที่ทุกข์ทรมานเช่นนี้
“ค่อยยังชั่วแล้วเจซี่ ขอบคุณนะ” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ดวงตายังปิดสนิท ศีรษะพิงผนังปูนไว้
“ถ้ายังไงรีบกลับอังกฤษดีไหมคะคุณกัน แด๊ดกับมี๊ของคุณเป็นห่วงนะ”
“ไม่ !” กันติทัตตอบเสียงเฉียบ ลืมตาขึ้นทันควัน “ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะจำทุกอย่างได้”
“แล้วถ้าสิ่งที่คุณกันต์ลืมไป มันคือสิ่งที่เลวร้ายมากล่ะคะ คุณจะทำยังไง บางทีการที่คุณลืมเรื่องราว 3 เดือนก่อนไป อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วก็ได้นะคะ”
ชายหนุ่มนิ่งงัน ตาคู่คมอับแสงลงชั่วขณะ ก่อนส่ายหน้าไปมาช้าๆ
“แต่ผมอยากรู้ครับ ไม่ว่าสิ่งที่ลืมไปจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีก็ตาม” เพราะเขารู้สึกเสมอ…รู้สึกเหมือนได้ลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดไป
“เฮ้อ” แม่บ้านสาวใหญ่ถอนใจแรงๆ แล้วพูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า “เออ…จริงสิคะ คุณพัชมาหาแน่ะค่ะ ป้าเลยให้รอที่ห้องโถงแล้วมาตามคุณกันต์นี่แหละ”
“อ๋อ ครับ” กันติทัตลุกยืน สลัดศีรษะเพื่อขับไล่อาการมึนเบลอออกจากสมอง พลางเดินลงไปห้องโถงชั้นล่างที่มีผู้หญิงชื่อพัชรารออยู่ โดยเจซี่ได้หลบเข้าครัวเตรียมอาหารมื้อกลางวัน
“คุณกันต์” ทันทีที่เห็นเขา พัชราก็ลุกจากโซฟาแล้วเดินกรีดกรายมาเกาะแขนกำยำอย่างสนิทสนม “คิดถึงจังค่ะ”
“วันนี้ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ล่ะครับ”
“แหม” หญิงสาวค้อนขวับ พลางถูไถแก้มที่ต้นแขนของเขาอย่างออดอ้อน “ลมรักไงคะที่หอบพัชมาถึงที่นี่”
ชายหนุ่มนิ่วหน้ากับสำนวนชวนเลี่ยนของหล่อน ก่อนทรุดนั่งบนโซฟาบุนวมหนา ซึ่งหล่อนก็นั่งอิงแอบแนบชิดจนเขาชักนึกรำคาญ
เขารู้จักพัชราที่เมืองไทยเมื่อสามเดือนก่อน เมื่อเขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บสาหัส เขาจำเรื่องราวตลอด 90วันไม่ได้เลย แต่พัชรามักมาเยี่ยมและดูแลเขาเสมอ โดยบอกว่า หล่อนรู้จักเขาตอนไปเดินแฟชั่นงานกุศล และตั้งแต่นั้นมาก็ติดต่อพูดคุยกันมาโดยตลอด และเขาได้ขอหล่อนเป็นแฟน
จะเป็นไปได้เหรอที่เขากับพัชราคือแฟนกัน ?
ไม่น่าจะใช่ เพราะเขาไม่เคยรู้สึกอะไรเลยตอนอยู่ใกล้หล่อน หนำซ้ำยังเบื่อหน่ายซะด้วยซ้ำ ไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเห็นในฝัน…ที่ทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั้งตัวได้ แม้จะไม่เคยพบเจอกันมาก่อน
หรือว่าเขาใกล้จะบ้าไปแล้วจริงๆถึงนึกหลงใหลเพราะผู้หญิงที่ได้เจอแค่ในตอนฝันเท่านั้น
กันติทัตบดกรามแน่น สับสนอย่าบอกไม่ถูก จนคนที่นั่งแอบอยู่ข้างๆเริ่มสังเกตเห็น จึงถามอย่างออเซาะว่า
“คุณกันต์เป็นอะไรไปคะ หรือว่าคิดถึงพัชอยู่” หล่อนหัวเราะคิก แล้วเสริมต่ออีกว่า “เมื่อไหร่คุณกันต์จะเริ่มเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านคะ พัชอยากให้คุณกลับมาร่าเริงยิ้มเก่งเหมือนเดิมนะ จะได้พาพัชไปเที่ยวบ้านเกิดคุณที่อังกฤษบ้าง”
“คุณพัช ผมขอถามคุณตามตรงเลยนะ” ชายหนุ่มเบือนหน้ามามองหล่อน แล้วถามเป็นภาษาไทยชัดเจนว่า “ผมเคยขอคุณเป็นแฟนจริงๆหรือ ?”
หญิงสาวหน้าเปลี่ยนสีไปนิดหนึ่ง ก่อนคลี่รอยยิ้มหวานให้เขาแล้วตอบอย่างมั่นใจ “แน่สิคะ ก็อย่างที่บอกนั่นแหละค่ะว่าเราพบกันในงานกุศล ตอนนั้นฉันไปเดินแบบเสื้อผ้า คุณรักฉันตั้งแต่แรกพบแล้วขอฉันเป็นแฟนทันทีแบบสายฟ้าแล่บไงคะ จำไม่ได้เหรอ ?”
กันติทัตนิ่วหน้า หลับตานิ่งพักหนึ่ง เหมือนเห็นภาพตัวเองจับมือเรียวของผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเห็นหน้าไม่ชัด…ใครกันนะเป็นเจ้าของมือนั้น หรือจะเป็นพัชรา ?
ทำไมเขาสับสนแบบนี้ ในเมื่อพัชรายืนยันว่าเป็นคนรักของเขา แล้วทำไมเขาถึงไม่รู้สึกคุ้นเคยหล่อนเลยล่ะ ? เพราะอะไรกัน
“ขอโทษนะคุณพัช ผมอยากขอเวลาสักนิดสำหรับเรื่องของเรา”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณกันต์ พัชรอได้ เพราะพัชเข้าใจว่าคุณกันต์ความจำหายไป พัชจะคอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้คุณกันต์นะคะ” หล่อนยิ้มหวาน ออเซาะอย่างน่ารัก ทว่าหัวใจเขากลับเฉยเมย ไม่รู้สึกยินดียินร้ายแม้จะมีหญิงสาวเจ้าเสน่ห์คอยอิงแอบแนบข้างก็ตาม
