บทที่ 8 8
“ใช่ค่ะ พัชน๊าวหนาว” หญิงสาวออดอ้อน เบียดกายเข้าหาเขา แต่เขากลับหลบวูบ แล้วเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ ทำให้หล่อนถึงกับหน้าเสีย แต่ก็ยอมเปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับแต่โดยดี
ตลอดระยะทางที่กลับบ้าน พัชรารับรู้ได้ถึงบรรยากาศตึงเครียด หล่อนรู้ว่ากันติทัตกำลังนึกถึงผู้หญิงคนนั้น
เมริน…ผู้หญิงคนนั้นมีอิทธิพลต่อกันติทัตเหลือเกิน แม้จะความจำเสื่อม แต่จิตใต้สำนึกกลับไม่เคยลืม
และหล่อนจะไม่มีวันยอมให้ผู้ชายที่หล่อนรักกลับไปเป็นของเมรินอีกแน่ๆ มันจะต้องไม่มีวันนั้น !
มือเรียวดึงคอเสื้อเขาให้โน้มต่ำก่อนเงยหน้าขึ้นจุมพิตปลายคางสาก ตามด้วยเสียงกระซิบแผ่วหวาน
“แมวรักพี่กันต์นะคะ”
สิ้นสุดประโยคบอกรัก เขาจึงให้รางวัลด้วยการจูบเรียวปากอิ่มอย่างแผ่วเบา แล้วทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆพร้อมแผ่นหลังเนียนของหล่อนที่ค่อยๆเอนลงกับพื้นเย็นเฉียบกลางห้องโถงแคบๆ
“อา…” กันติทัตครางเสียงกระเส่า พึงใจกับจูบหวานๆที่ได้รับจากหล่อน และกลิ่นส้มเย็นๆที่ติดจมูกจนยากจะดึงใบหน้ากลับ ได้แต่เฝ้าคลุกเคล้าเนื้อนวล สูดดมกลิ่นกายสาวอย่างคลั่งไคล้ จนมาหยุดลงตรงปทุมคู่ซึ่งซ่อนอยู่ใต้เสื้อยืดตัวเก่า
มือหนาเลิกเสื้อขึ้นสูง ก่อนปลดตะขอบราเซียด้านหน้าออกอย่างชำนาญ ตามด้วยปลายลิ้นที่ตวัดเลียไล้ยอดอกสีทับทิมอย่างหลงใหล
“แมว…แมวทำให้พี่หลง แมวทำให้พี่รัก พี่ต้องการแมว อยากอยู่กับแมว อยากมีแมวคนเดียวตลอดไป รักพี่ได้ไหม คิดถึงพี่คนเดียวได้ไหม” เขากระซิบเสียงพร่ายามรูดกางเกงขาสั้นของหล่อนออกจากข้อเท้า ก่อนปลดชุดตัวเองออกอย่างรวดเร็ว
เสื้อผ้าถูกเหวี่ยงออกห่าง เพราะตอนนี้อาภรณ์ใดๆก็ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป เมื่อสองร่างประสานเป็นหนึ่งพร้อมเสียงครางที่ดังลั่นบ่งชัดถึงความหรหรรษ์ยามสอดประสานเป็นหนึ่ง
“รัก…แมวสัญญาค่ะว่าจะรักเพียงพี่กันต์คนเดียวตลอดไป” หล่อนบอกด้วยเสียงที่ขาดเป็นห้วงๆ หน้าหวานผุดพรายด้วยหยาดเหงื่อ แหงนเงยหลับตาพริ้มเมื่อเขากระหน่ำขยับส่วนกลางถี่เร้าจนเต้าอวบสะเทือนไหว ยั่วให้คนที่คร่อมทับกอดหล่อนแนบแน่นเกิดอดใจไม่ไหว ต้องกดลงครอบครองยอดถันด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวที่ดูดดึงอย่างแรงจนหญิงสาวถึงกับเผลอครางเสียงดังกว่าเก่า
“พี่…พี่กันต์”
เสียงหล่อนตะกุกตะกัก โอบรอบลำคอแกร่ง ก่อนหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเขาหลั่งสายธารรักสีขาวออกมาท่วมทนจนเอ่อนอง
“อ๊าย ! พี่กันต์ !”
“พี่…พี่รักแมว” เขาบอกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทิ้งใบหน้าลงแนบอกอวบ พร้อมสติสัมปัญชัญญะที่หวนกลับคืนมา
“โอ๊ะ !” กันติทัตอุทานอย่างตกใจ เมื่อผุดลุกขึ้นนั่ง ท่ามกลางความมืดมิดที่รอบกายเย็นเฉียบจนอดหนาวไม่ได้…ใช่ ตอนนี้เขานอนคนเดียวอยู่ในห้องกว้างที่คุ้นเคย แต่ทว่าตอนนี้กลับเหงาจับใจ
ฝันอีกแล้ว…ฝันถึงผู้หญิงคนนั้น !
คนที่ได้ตำแหน่งนางนพมาศ คนที่กล้ากัดลิ้นเขา ทั้งๆที่มีแต่ผู้หญิงมากมายอยากเป็นแฟนเขา แต่หล่อนกลับกล้าปฏิเสธเขาอย่างไม่ไยดี
เมริน…ในฝันหล่อนช่างร้อนแรงราวนางแมวยั่วสวาท ทว่าในโลกความเป็นจริง หล่อนกลับเกลียดขี้หน้าเขาและพร้อมที่จะฟาดฟันเขาทุกเมื่อไม่ต่างจากแม่เสือสาว
และทำไมกันนะ…เขาถึงปรารถนาเพียงหล่อน อยากพบอีกครั้ง พอนึกถึงหน้าเมรินที่สวมชุดไทยสีเหลืองรับดอกกุหลาบจากเขา เขาเป็นต้องใจเต้นแรงระคนปวดร้าว
หล่อนคือปริศนาที่เขาอยากค้นหา !
กันติทัตเปิดโคมไฟหัวเตียงแล้วเดินออกนอกห้อง ไปรับลมเย็นๆริมระเบียงชั้นสอง โดยรอบเป็นสีดำหมดแล้ว แต่ยังดีที่มีแสงจันทร์เหลืองนวลช่วยขับกล่อมให้บรรยากาศไม่มืดหม่นเกินไปนัก
พระจันทร์สีเหลือง…ที่ชวนให้นึกถึงจูบที่ได้รับจากหญิงสาวในชุดเหลืองกลางน่านน้ำเย็นฉ่ำ
กลิ่นดอกส้มจากกายหล่อนที่ทำให้เขาเจียนคลั่ง แต่หล่อนกลับทำร้ายเขาอย่างรุนแรง จนป่านนี้ยังไม่หายเจ็บลิ้นเสียด้วยซ้ำ
หล่อนเป็นใครกันนะ ?
เสียงกุกกักจากทางด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมอง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเป็นเจซี่ ซึ่งอยู่ในชุดนอนเนื้อหนายาวกรอมเท้า
“ยังไม่นอนเหรอคะคุณกันต์ ตี 3แล้วนะคะ หรือว่าตื่นมาแล้วนอนไม่หลับ”
“ผมหลับไปบ้างแล้วเจซี่ แต่ฝันดีเกินเลยต้องตื่น ว่าแต่คุณเถอะ หายปวดท้องแล้วเหรอ”
“หายแล้วค่ะ กินยาไปสักพักก็หาย เมื่อช่วงหัวค่ำไปเที่ยวกับคุณพัชรามา เป็นอย่างไรบ้างคะ สนุกไหม”
กันติทัตนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อตอบว่า “ไม่…ผมไปกับพัช ไม่สนุกหรอก พัชเอาแต่ใจมากเกินไป แต่การที่ได้พบใครคนหนึ่งทำให้ผมรู้สึกดีมาก”
“ใครคะ ? คนนั้นเป็นผู้หญิงเหรอ” ถามเสียงสูงอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายราวกับหนุ่มน้อยที่เพิ่งเจอสาวถูกใจเป็นครั้งแรก
