บทที่ 5 ตอนที่5.แรกพบสบตา

อธิปยกถ้วยเครื่องดื่มบนโต๊ะขึ้นจิบ ถึงแม้จะรอภพธรมาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้สร้างความหงุดหงิดใจให้เขา เพราะทุกครั้งที่นัดกันภพธรก็มาสายเสมอจนเขาชินเสียแล้ว

วันนี้เขานัดเพื่อนสนิทออกมาที่ร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบาย ๆ ผิดกับทุกครั้งที่มักจะนัดกันตามร้านเหล้า ที่เขาเลือกมาร้านนี้เพราะอากาศดีและเงียบสงบ แถมในร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มและขนมหวานที่เหมาะกับเด็กและคนท้อง

ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเมื่อคิดไปถึงคนท้อง นี่เป็นอีกครั้งที่เขาคิดถึงเธอ คนท้องที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของเพื่อนอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้ว แก้วกาแฟเย็นชืดถูกยกขึ้นแตะริมฝีปากอีกครั้ง สุดท้ายก็หนีไม่พ้นกาแฟ

ดวงตาคมเข้มยังจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือ นิ้วยาวยังไถหน้าจอไปเรื่อย ๆ เพื่อแก้เบื่อ ทั้งที่ในนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ ตั้งแต่วันที่โดนยายแก้วหน้าม้าบล็อกเฟซฯ เขาก็หมดสนุก ดวงตาคมเข้มสะดุดกับโพสเพื่อนสมัยเรียนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

❤แจน&ไผ่❤

สุดท้ายคู่นี้ก็ลงเอยกันทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีท่าทีอะไรให้เพื่อน ๆ ระแคะระคายเลยด้วยซ้ำ นี่แหละนะเนื้อคู่ ต่อให้อยู่ห่างกันแสนไกล สุดท้ายก็ต้องกลับมาคู่กัน ก็คงเหมือนกับคู่ที่อยู่ใกล้ ๆ

ถึงแม้เวลาจะผ่านมานาน แต่ทั้งสองคนก็มาบรรจบกัน คงเหลือแต่เขาคนเดียวเท่านั้น ที่นานวันก็เหี่ยวเฉาและคงแห้งลงในที่สุด เพราะไม่มีใครสนใจ หลายปีมานี้เขาทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับงาน และแก้ปัญหาให้กับเพื่อนตัวแสบของเขา จนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง

จบเรื่องภพธรเมื่อไร คงต้องหาเวลาพักร้อนยาว ๆ สักหน่อย เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง ร่างกายจะได้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง แต่จะไปที่ไหนนั้นค่อยว่ากันอีกที จากที่ตั้งใจจะไปใต้ บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจไปเหนือก็ได้ รอให้วันนั้นมาถึงก่อนค่อยคิดอีกที

อธิปบอกตัวเองก่อนจะหันกลับมาสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อ ตี๋ยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ  มันคิดอะไรอยู่ มีโอกาสหนีกลับไม่หนี แถมยังย้อนกลับมาเหยียบจมูกเขาอย่างจังอีก

ความคิดในหัวต้องสะดุด เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างมายุ่มย่ามอยู่แถวๆใต้เก้าอี้ที่เขานั่ง พร้อมกับแรงปะทะที่รองเท้าเบา ๆ ดวงตาคมเข้มก้มมองต่ำ ก่อนจะเจอกับวัตถุเจ้าปัญหา

มือแกร่งเอื้อมลงไปหยิบรถบังคับคันเล็ก ที่ชนอยู่กับรองเท้าเขา แล้วก็ต้องประหลาดใจ เมื่อสบกับดวงตาใสแจ๋วของใครบางคน ที่เงยขึ้นมาสบตากับเขา ร่างเล็กกระจ้อยร่อยของเด็กชาย ที่หมอบลงกับพื้นพยายามเอื้อมมือมาหยิบรถ ทำให้ชายหนุ่มนึกสนุก

ฉวยหยิบรถบังคับขึ้นมาไว้ในมือ ยักคิ้วเป็นเชิงทักทาย เด็กชายตัวน้อยหน้าบึ้ง เมื่อของเล่นชิ้นโปรดถูกคนตัวโตยึดเอาไว้ ดวงตาเรียวเล็กวาวโรจน์ ริมฝีปากเล็กสีแดงสดเม้มเข้าหากันแน่นสนิท ก่อนจะมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง

“อยากได้เหรอ” อธิปยกรถในมือให้เด็กน้อยดู ก่อนจะถามคำถาม ไม่มีเสียงตอบนอกจากการพยักหน้ารับ

“มาเอาดิ” ชายหนุ่มเชื้อเชิญอย่างใจดีแต่นัยน์ตาแฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์ เมื่อรู้สึกขัดใจกับท่าทีจองหองของเจ้าเปี๊ยกใต้โต๊ะ

“นั่นรถของไทม์นะ เอาของไทม์คืนมา” เสียงเล็ก ๆ ที่เปล่งออกมาถึงแม้จะฟังไม่ค่อยถนัด แต่ก็พอจับคำพูดได้ว่า ‘ไอ้หมอนี่ชื่อเหมือนเขา’

“ลุกมานี่ดิ มาเอาคืน” อธิปยังท้าต่อไม่ยอมคืนของในมือให้เด็ก

“เอาของเค้ามานะ” คนที่มุดอยู่ใต้เก้าอี้เริ่มเสียงดัง จนคนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นหันมามอง อธิปหรี่ตามองเจ้าเปี๊ยกอีกรอบ นึกมันมืออยากจะหยิกแก้มย้อย ๆ นั้นสักที

“มากับใคร พ่อแม่ไปไหน รู้ไหมว่าทำนิสัยแบบนี้ไม่น่ารักเลย คลานออกมานะ” มือแกร่งล้วงเข้าใต้เก้าอี้คว้าหมับเข้าที่หัวไหล่คนร่างเล็ก แล้วออกแรงลากทีเดียว ร่างกลมป้อมก็ไถลออกมาตามแรง

“โอ้ย! ไทม์เจ็บ” ร่างเล็กร้องลั่นเมื่อถูกดึงรูดมากับพื้น อธิปหน้าเสียเมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มเบะ เขาต้องการแค่หยอกไม่ได้ตั้งใจให้เจ้าตัวเล็กเจ็บ

“ฮือฮือฮือ จะฟ้องแม่ จะฟ้องลุงวัฒน์ ฮือ ๆ ฮือ ๆ” เด็กน้อยส่งเสียงร้องลั่น เรียกสายตาจากคนในร้านให้มาสนใจมากขึ้น

“เฮ้ย! ไรวะแค่ล้อเล่น ร้องทำไม” อธิปโวยวายแต่มือยังไม่ละออกจากไหล่คนตัวเล็ก ร่างสูงหันมองซ้ายขวา เมื่อรู้สึกเป็นเป้าสายตา อะไรกันเขาก็แค่จะเรียกเจ้าเปี๊ยกมาถามว่าชื่ออะไรแค่นั้น ทำไมทุกคนต้องมองเขาด้วยสายตาแบบนั้นด้วย เขารักเด็กนะโว้ย

“ฮือ ๆ ฮือ ๆ เขาทำร้ายไทม์ เขาตีไทม์ด้วย” เสียงร้องยังคงแผดขึ้นเรื่อย ๆ อธิปรีบปล่อยมือจากไหล่เล็ก ก่อนจะยัดรถบังคับคืนให้เร็ว ๆ เพื่อให้คนตัวเล็กหยุดแผดเสียงเรียกสายตาคนสักที

“ไรวะ! เอาคืนไปเลยไอ้เด็กเลี้ยง...”

“หยุดนะ! เกิดอะไรขึ้น ไทม์มาหาแม่ค่ะ” เสียงหวานแหลมเล็กที่ตวาดลั่น ทำให้อธิปหันไปมอง คนมาใหม่วิ่งถลาเข้ามา พร้อมกับดึงร่างเล็กไปกอดแนบอกอย่างหวงแหน ร่างบางตัวสั่นเมื่อเห็นน้ำตาลูกไหลลงมาเป็นสาย เจ็บจนแทบหายใจไม่ออก เพียงแค่เธอละสายตาจากลูกไม่ถึงสองนาที

ลูกถูกคนแปลกหน้าทำร้ายขนาดนี้เลยหรือ ร่างบางกอดกระชับลูกแน่นขึ้นอีกนิด

“แม่เนย เขาตีไทม์” เด็กน้อยละล่ำละลักบอกแม่ด้วยท่าทีสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร อธิปงงกับภาพตรงหน้า และก่อนจะได้พูดอะไร คนที่นั่งคุกเข่ากอดลูกแนบอก ก็ตวัดสายตามองมาที่เขาอย่างแค้นเคือง

“ทำร้ายลูกฉันทำไม!” คนร่างบางตวาดแหว อธิปมองคนที่ตัวเท่ามด แต่พยายามเบ่งลมให้ตัวเองพองเท่าช้างขู่เขาฟู่ ๆ

“ผมเปล่า” รีบปฏิเสธรัวเร็วก่อนจะต้องตกใจ เมื่อมองเห็นหน้าเธอเต็มตา ร่างสูงนิ่งค้างเมื่อสบกับตากลมโตคู่เศร้าที่เคยเห็นมาก่อน

คนที่นั่งกอดลูกก็มีอาการเดียวกัน ปากเล็กอ้าค้างคำที่เตรียมมาบริภาษเขาถูกกลืนลงคอ เมื่อหันมาสบตากับตาคมเข้ม ร่างบางนิ่งงันเหมือนโดนแช่แข็งโลกเหมือนหยุดหมุน ทุกอย่างรอบตัวนิ่งสนิท

“เนย!” เป็นอธิปที่ได้สติก่อน ชายหนุ่มร้องเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างตกตะลึง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป