บทที่ 6 ตอนที่6.หนี

“เนย!” เป็นอธิปที่ได้สติก่อน ร่างสูงร้องเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงดัง

"พี่ธาม” เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากบางแสนเบา อภัสรากะพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่อาการมึนงงกับภาพตรงหน้า ก่อนที่สมองจะประมวลผล ร่างบางผวาลุกขึ้นอย่างเร็ว รวบร่างอ้วนกลมขึ้นอุ้มก่อนจะวิ่งตรงไปที่ประตู ไม่สนใจอะไรอีก แม้กระทั่งคนที่มาด้วยกัน

อภิวัฒน์ที่เดินกลับมาจากห้องน้ำ ตกใจกับอาการของน้องสาวก่อนจะรีบวิ่งตามออกไป เมื่อเห็นร่างบางแบกลูกที่ยังคงร้องจ้าออกไปนอกร้าน อภัสราฝากลูกไว้กับเขา แต่เขาดันปวดท้อง เลยบอกคนตัวเล็กให้นั่งรอที่โต๊ะ

อธิปตกตะลึงกับภาพที่เห็นก่อนจะวิ่งตามมือยังฉวยรถบังคับคันเล็กที่ร่วงลงพื้นมาด้วย ไม่สนใจกับเสียงของพนักงานในร้านที่ร้องเรียกตามหลังเพราะเขาทิ้งทุกอย่างไว้บนโต๊ะ

อภัสราลนลานออกมาโดยไม่ได้มองอะไรทั้งนั้นนาทีนี้เธออยากไปให้พ้นจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ร่างบางที่หอบลูกวิ่งสุดชีวิตจนไม่มองทางชนเข้ากับอะไรบางอย่าง ดีที่เขากอดประคองเธอไว้จึงไม่เสียหลักล้มลง อ้อมแขนยกกระชับลูกให้แน่นขึ้นก่อนจะหันมาเอ่ยกับคนที่ถูกเธอชน

“ขอทะ...พี่เต้ย!” คำพูดถูกกลืนหายเสียงหวานแหลมอุทานลั่น ก่อนจะถอยหลังมองซ้ายขวาแล้วออกวิ่งต่อ

“อะไรวะ” ภพธรงง เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกเรียกชื่อเหมือนคนชนรู้จักเขา

“อ้าวธามจะไปไหน” ภพธรงงอีกรอบเมื่อเห็นอธิปวิ่งเร็ว ๆ มาทางนี้

“เต้ย! ตามมา” อธิปหันไปร้องเรียก

“แม่เนย ๆ รถไทม์ ๆ” เด็กน้อยหันมามอง ก่อนจะร้องบอกเมื่อเห็นรถในมือคนที่วิ่งตามมา

“ช่างมันค่ะ เดี๋ยวแม่ซื้อให้ใหม่” ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ไม่วายตอบปลอบใจลูก

“ลุงวัฒน์รถไทม์ ๆ” เด็กน้อยตะโกนบอกคนที่วิ่งเร็ว ๆ ตามมา

“เนย ๆ เนยโว้ย ๆ เกิดอะไรขึ้น” อภิวัฒน์ตะโกนถามน้อง

“พี่วัฒน์เร็ว ๆ เลยค่ะ ไปเอารถมาเร็ว ๆ” อภัสราหันไปบอกกับพี่ชาย ร่างบางหมุนเข้าหลังเสาเพื่อซ่อนตัว

“อย่าเสียงดังนะลูก เขาเป็นคนใจร้าย เขาจะทำร้ายเรา อยู่นิ่ง ๆ นะคะอย่าส่งเสียง”

ร่างบางยืนหอบหายใจหนัก ๆ หลังจากกำชับลูก อ้อมแขนยกร่างตุ้ยนุ้ยในอกให้กระชับขึ้น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเสียงคนเดินมาทางนี้ ดวงตากลมโตมองหารถอภิวัฒน์แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าพี่ชายจะมาเร็วกว่านี้

“เนย ๆ!” ร่างสูงที่วิ่งตามมาร้องเรียก ก่อนจะเดินหาไปเรื่อย ๆ อธิปมั่นใจว่าเขาเห็นหลังสองคนแม่ลูกหายไปทางนี้

“เนย อยู่ตรงนั้นหรือเปล่าหนีพี่ทำไมเนี่ย พี่เอารถมาคืนลูกเนยนะ” อธิปร้องเรียกอีกครั้ง เขาตั้งใจเอาของเล่นมาคืนเจ้าตัวเล็กจริง ๆ

เด็กน้อยในอ้อมแขนแม่ตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารถ ด้วยวัยเพียงหกขวบที่ยังไม่รู้จักแยกแยะ เพราะอยากได้ของคืนจึงตะโกนตอบ

“เอารถไทม์มานะ” ร่างกลมป้อมดิ้นลงจากอกแม่ เมื่ออยากได้ของเล่นคืน เพราะความอ่อนแรงอภัสราจึงไม่ทันระวังตัว มารู้อีกทีลูกก็หลุดจากอ้อมแขนเสียแล้ว ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กยืนกอดอกมองหน้าคนตัวสูง สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“อะไรวะธาม” ภพธรที่เดินตามเพื่อนมาถามอย่างงง ๆ

“ไอ้เปี๊ยกมันหาเรื่องกู” อธิปหันไปตอบเพื่อน

“ฮะ!” ภพธรอุทานลั่นอย่างไม่เชื่อหู เมื่อเพื่อนกล่าวหาเด็กตัวเล็กเท่ามด

“เออสิ...มึงจะช่วยกูรุมมันไหม” ดวงตาคมเข้มขยิบให้กับดวงตาคมดุก่อนที่อธิปจะโบ้ยหน้าให้ภพธรมองตามไปทางเสาที่มีชายกระโปรงลูกไม้สีชมพูอ่อนโผล่ออกมาจากที่กำบัง

“ได้สิ...เรื่องนี้กูถนัด” ภพธรพยักหน้าเข้าใจ ก่อนเอ่ยรับมุกอย่างขำ ๆ

“เขารังแกไทม์ก่อน” เด็กน้อยพยายามอธิบายให้คนมาใหม่ฟัง

“ไม่ฟังโว้ย! ลุย” อธิปตวาดเสียงดังพร้อมกับก้าวเข้าหาทำท่าทางคุกคามเด็กตัวเล็ก น่าแปลกที่เจ้าเปี๊ยกไม่ร้องสักแอะ และไม่มีท่าทางกลัวเขาทั้งสองคนด้วย

“แม่เนย! หนีไปไทม์จะช่วยแม่เอง” ปากเล็กร้องบอกคนเป็นแม่ เท้าเล็กขยับถอยหนี ร่างบางที่ยืนหลังเสากำมือเข้าหากันแน่นจนตัวสั่นเทา เมื่อได้ยินคำที่คนทั้งสองพูดกับลูกชาย เธอรู้ว่ากำลังโดนสองคนนั้นล่อลวงให้เธอออกไป

“เก่งนักนะตัวแค่นี้ คิดจะช่วยแม่เหรอ เรียกแม่ออกมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นจะโดนกินตับนะ” ภพธรขู่เสียงต่ำ อธิปขำพรืด

“ไอ้เต้ยมึงขู่อย่างอื่นได้ปะ สัตว์กูขำ” อธิปกระซิบบอกเพื่อนก่อนจะกลั้นเสียงหัวเราะ

“ไอ้ธามมึงจะขำเพื่อ ขู่เด็กก็ต้องขู่แบบนี้แหละ”

“มึงจะกินตับเด็กเนี่ยนะ”

“ขู่โว้ย! ทะลึ่ง” ภพธรโวยวาย เมื่ออธิปแปลความหมายคำว่ากินตับของเขาไปอีกทาง

“เออ ๆ ...เนยออกมานะ” พยักหน้าเข้าใจก่อนจะร้องเรียกอภัสราอีกครั้ง

“เนยไหนวะธาม” ภพธรหันไปถามเพื่อนเมื่อรู้สึกสงสัย

“น้องเนยปีหนึ่งไงที่สวย ๆ น่ะ” อธิปหันมาตอบ ก่อนจะส่ายหน้ารำคาญเพื่อน

“คนไหนวะนึกหน้าไม่ออก...”

“เสือกมาสงสัยอะไรตอนนี้วะ คนที่เข้ามาเรียนปีเดียวแล้วก็หายไปนะ นึกออกยัง” ถึงแม้จะบ่นให้แต่ก็ยังอธิบายเพิ่ม

“ไม่อะ กูจำไม่ได้” ภพธรส่ายหน้าหวือ เมื่อยังนึกหน้าคนหลังเสาไม่ออก

“ไอ้เวร! เนยที่กูพาไปนอนห้องมึงสองคืนนะไอ้สัตว์ จำได้ยัง” เพราะความรำคาญจึงทำให้อธิปโพล่งคำที่ไม่น่าพูดออกมาดัง ๆ

“ไอ้เชี่ยธาม!” ภพธรตะลึงค้าง

“สัตว์!” อธิปสบถลั่น ทั้งโมโหตัวเองและโมโหเพื่อนไปพร้อม ๆ กัน

คำพูดของคนทั้งสองเข้าหูคนที่ยืนตัวสั่นอยู่หลังเสาทุกคำ ร่างบางแทบทรุดเมื่อจู่ ๆ อดีตที่อยากฝังกลบถูกคนเลวทั้งสอง

ขุดคุ้ยขึ้นมาอีก และที่สำคัญเขากำลังพูดถึงมันต่อหน้าลูกของเธอ ถึงแม้ลูกจะยังไร้เดียงสายังไม่เข้าใจสิ่งที่สองคนนั้นกำลังพูดถึง แต่เธอก็ไม่อยากให้ลูกต้องมารับรู้ และก่อนที่เธอจะสติหลุดไปมากกว่านี้

รถของอภิวัฒน์ก็มาจอดเทียบตรงหน้าพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเร็ว ๆ ไปอุ้มหลานตัวน้อยออกมาจากคนเลวกลุ่มนั้น ร่างบางรวบรวมสติเมื่อเห็นอภิวัฒน์อุ้มเจ้าตัวเล็กใส่รถ

นับหนึ่งถึงสามในใจก่อนจะวิ่งเร็ว ๆ อาศัยจังหวะที่สองหนุ่มกำลังตกใจกับคำพูดตัวเอง ผ่านหน้าเขาไปขึ้นรถ พร้อมกับร้องบอกให้อภิวัฒน์ขับออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

น้ำตาไหลลงมาเป็นสายเมื่อรู้สึกโล่งอกที่รอดออกมาจากเหตุการณ์ที่ชวนให้หัวใจหยุดเต้นตรงนั้นได้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป