บทที่ 2 ตอนที่ 2
ดวงตาสีสนิมหรี่แคบมองใบหน้าหวานอ่อนเยาว์ของผู้เป็นน้องสาวนิ่ง อย่างรอคอยฟัง
“หม่อมฉันออกไปนอกวัง...”
“นี่เจ้าหนีออกไปเที่ยวเล่นอีกแล้วหรือ มารีอาห์!”
“เอ่อ หม่อมฉันยอมรับผิดเพคะ เสด็จพี่ค่อยด่าว่าหม่อมฉันทีหลัง แต่ได้โปรดฟังเรื่องที่หม่อมฉันจะเล่าก่อน”
กรามแกร่งของลูฟาสขบกันแน่น ดวงตาสีสนิมมืดดำเพราะไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาว เขาต้องใช้ความอดทนสูงเลยทีเดียวกว่าจะยืนนิ่งรอฟังคำพูดต่อไปของมารีอาห์ได้
“งั้นก็รีบพูดมาให้จบ โดยเร็ว”
มารีอาห์หน้าซีดเผือด คิดอยู่แล้วว่าจะต้องถูกตำหนิ หรือดีไม่ดีอาจจะถูกทำโทษด้วยการกักบริเวณ แต่กระนั้นหล่อนก็ต้องเสี่ยงพูดออกมา เพราะหล่อนไม่ต้องการให้ผู้เป็นพี่ชายได้ภรรยาเป็นคนไม่ดี มีราคีมลทิน
“คือ... ตอนกลับมา หม่อมฉันพบเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังพลอดรักกันอยู่ท้ายอุทยานเพคะ”
“แล้วเจ้าเห็นไหมว่าใคร”
“เห็นเพคะ” มารีอาห์ช้อนตาขึ้นมองหน้าพี่ชาย “และก็เห็นชัดเจนเสียด้วย”
“งั้นเจ้าก็บอกพี่มาเสียทีสิว่าใคร เพราะการแสดงความรักกันในที่สาธารณะเยี่ยงนั้น แม้จะเป็นในยามค่ำคืน แต่ก็มีความผิดทางอาญา พี่จะได้เรียกคนพวกนั้นมาลงโทษ”
“ฮันนากับพี่ชายบุญธรรมของนาง ฮูเซ็น เพคะ”
สีหน้าของลูฟาสเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความพิศวง
“เจ้ารู้ไหมว่าพูดอะไรออกมา มารีอาห์”
“หม่อมฉันพูดความจริงเพคะ และหม่อมฉันก็ยืนยัน นอนยันได้เลยว่าเป็นนางและพี่บุญธรรมของนางจริงๆ”
แทนที่พี่ชายของหล่อนจะเชื่อ เขากลับแค่นยิ้มหยัน ก่อนจะโต้ตอบออกมา
“พี่ว่าผู้หญิงที่เจ้าเห็นน่าจะเป็นเพื่อนรักของเจ้ามากกว่านะ มารีอาห์”
“เสด็จพี่หมายถึงอะไรเพคะ” มารีอาห์ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ชายตอบกลับมาเลย
ลูฟาสจ้องหน้าน้องสาว ก่อนจะเค้นเสียงเล็ดลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา
“นี่เจ้าเป็นเพื่อนรักกับจิรัชยาได้ยังไงกัน ถึงไม่รู้ว่านางแอบคบหากับพี่ชายบุญธรรมของตัวเอง”
มารีอาห์อ้าปากค้างเติ่ง ก่อนจะส่ายหน้าดิก “ไม่จริงเพคะ จินนี่ไม่ได้คบหากับฮูเซ็น ฮันนาต่างหากล่ะเพคะ หม่อมฉันเห็นกับตาจริงๆ นะเพคะเสด็จพี่”
“เลิกทำให้พี่กับฮันนาแตกแยกกันได้แล้วละมารีอาห์” ลูฟาสบอกน้องสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “เพราะยังไงซะ ในนครฟาดิลาห์ก็มีเพียงฮันนาคนเดียวที่เหมาะสมที่จะเป็นองค์สุลตาน่าของพี่ และที่สำคัญ พี่มีใจให้นาง”
“เสด็จพี่เพคะ... แต่นางไม่เหมาะสมกับเสด็จพี่ด้วยประการทั้งปวงนะเพคะ”
“แล้วเจ้าคิดว่าใครเหมาะสมกับพี่ล่ะ เพื่อนรักของเจ้าอย่างนั้นหรือ มารีอาห์”
“เพคะ จินนี่เป็นคนดี นางสวย และนางก็นิสัยดีมากๆ”
“แต่พี่เกลียดนาง”
“เสด็จพี่น่ะ ทำไมทรงตรัสแบบนี้เพคะ” มารีอาห์ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชายอย่างไม่พอใจ แต่ลูฟาสกลับไม่สนใจจะฟังอะไรอีก เขาโบกมือไล่
“เจ้ากลับตำหนักได้แล้ว อย่ามายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของพี่อีก เพราะถึงยังไง ฮันนาก็คู่ควรกับพี่ที่สุด”
“แต่นางลักลอบคบหากับฮูเซ็นนะเพคะ”
ลูฟาสมองน้องสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจนับครั้งไม่ถ้วน “แล้วเจ้าก็เลิกใส่ร้ายนางได้แล้ว เพราะพี่ไม่เชื่อหรอก”
“เสด็จพี่”
“เจ้าไปได้แล้ว”
มารีอาห์อ้าปากจะพูดต่อ แต่ผู้เป็นพี่ชายตัดสินใจเดินหนีไปเสียเอง
“เสด็จพี่นะ ทำไมไม่เชื่อกันบ้างเลย” องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ถอนใจแรงๆ อย่างกลัดกลุ้ม
“แล้วนี่เราจะทำยังไงดี ถึงจะช่วยให้เสด็จพี่ไม่หลงกลผู้หญิงร้ายกาจอย่างฮันนา”
มารีอาห์ก้าวเดินกลับตำหนัก ตลอดทางก็พยายามขบคิดหาทางออกให้กับพี่ชาย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังคิดไม่ออก
หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ
“คิดไม่ออก ทำยังไงดีนะเนี่ย”
ทะเลทรายโซฟีเรียเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และก็เป็นที่ตั้งของนครกลางทะเลทรายมากมาย แต่ถ้าพูดถึงมหานครอันยิ่งใหญ่ไพศาลก็ต้องมีนครฟาดิลาห์ติดโผไปด้วยเสมอ
นครฟาดิลาห์ คือดินแดนทรายอันยิ่งใหญ่ไพศาลซึ่งตั้งอยู่ในทิศเหนือของทะเลทรายโซฟีเรีย โดยที่ทิศใต้ของทะเลทรายโซฟีเรียคือที่ตั้งของนครซาเรียอันยิ่งใหญ่ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก คือที่ตั้งของนครความาร์ และเฮตินีตามลำดับ
ตามธรรมเนียนที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน องค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์จะไม่อภิเษกกับผู้หญิงที่ไม่ใช่เชื้อสายฟาดิลาห์ ดังนั้น ส่วนมากลูกสาวของเสนาอำมาตย์ชั้นผู้ใหญ่จึงถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์สุลตาน่านับครั้งไม่ถ้วน และในสมัยขององค์สุลต่าน ลูฟาส บิน ชารีฟ อัล ซานัล ก็ไม่ต่างไปจากบรรพบุรุษของตนเอง ซึ่งองค์สุลต่านหนุ่มหล่อได้เลือกสตรีนางผู้เหมาะสมสำหรับตำแหน่งองค์สุลตาน่าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ ฮันนา ลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายนั่นเอง
ฮันนาสาวงามที่ได้รับสมญานามจากชาวฟาดิลาห์ว่าคือกุหลาบแห่งทะเลทราย หล่อนคือผู้มีวาสนาที่จะได้เป็นองค์สุลตาน่าลำดับต่อไป ซึ่งผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ฮันนาเองก็ไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้นนัก แต่ติดปัญหาอยู่นิดเดียว นั่นก็คือหัวใจของหล่อนเกิดผูกพันกับพี่ชายบุญธรรมที่เห็นกันมาตั้งแต่สมัยเยาว์วัยเสียแล้ว
“ท่านพ่อเรียกฉันมาพบ มีอะไรกับฉันหรือคะ”
ฮาริสนั่งอยู่บนเก้าอี้นวม มองลูกสาวคนโตที่เขาประคบประหงมมาอย่างดีด้วยความไม่พอใจนัก
“เมื่อคืนเจ้าออกไปไหนมา”
ฮันนาหน้าซีดเผือด แต่เพราะสมองที่ชาญฉลาดของหล่อน ทำให้แก้ตัวได้อย่างทันท่วงที “ฉันออกไปเดินเล่นน่ะท่านพ่อ”
