บทที่ 3 เมามาย
“ทำเช่นไรเล่าท่านถึงจะรับข้าเป็นศิษย์ของท่าน” อาวุโสยืนขึ้น ยกมือส่งสัญญาณ เด็กหนุ่มท่าทางเซ่อซ่าวิ่งเข้ามาพร้อมธนูในมือ
“องค์ชายใหญ่ ฝีมือยิงธนูท่านเป็นที่ร่ำลือไปถึงสามแคว้นเพียงท่านเอาชนะ องค์ชายห้าศิษย์ของข้าได้นับว่าข้ามิอาจมีข้อกังขา”
จิ่นฉินสะอึก จิวซินยกมือกันไว้ องคืชายห้าฮู่ยโม๋ก้างเท้ายาวๆเข้ามาตรงหน้าเมื่อถูกเอ่ยนาม
“ดี เช่นนั้นข้าไม่อาจปฏิเสธได้ ขอองค์ชายห้าโปรดชี้แนะ” ยกมือขึ้นประสานกันตรงหน้าองค์ชายห้า ผู้อ่อนหวานใบหน้าเหลาดังภาพวาดยิ้มอ่อนโยน
“มิกล้ามิกล้า ข้าองค์ชายห้าฮุ่ยโม๋ ขอท่านชี้แนะเช่นกัน”
ชงไฉ่มอง จิวซินด้วยแววตาปรามาส ยิ้มเยาะที่ริมฝีปากจะมีผู้ใดในไห่ตงหยวนที่สามารถเอาชนะองค์ชายห้าฮุ่ยโม๋ พี่ชายต่างมารดาของเขาได้
องค์ชายห้าง้างคันธนูจนโค้งงอ หันคันธนูยังเป้าปล่อยลูกธนูออกไปยังเป้าที่ห่างออกไปเกือบยี่สิบวาแม่นเหมือนจับวางธนูปักอยู่กลางเป้ามิมีพลาด อาวุโสพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับรอยยิ้ม องค์ชายห้าส่งคันธนูคืนผายมือให้จิวซินบ้าง
“องค์ชายใหญ่เชิญท่านชี้แนะ”
จิวซินง้างคันธนูจนโค้งงอเข้าหาตัวอย่างเชี่ยวชาญด้วยแรงทั้งหมด หันเข้าหา เป้าอีกอันที่อยู่ใกล้กับเป้าธนูที่มีคันศรขององค์ชายห้าปักคาอยู่ก่อนจะเปลี่ยนใจเพียงเสี่ยวนาทีหันกลับมายังเป้าอันเดียวกับขององค์ชายห้าปล่อยลูกดอกพุ่งออกจากคันธนูรวดเร็วปานสายฟ้าเสียบเข้ากับคันธนูด้วยความแรงและเร็วจน คันธนูแยกออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน คันธนูของจิวซินปักคาซ้อนทับคันธนูขององค์ชายห้าอยู่อย่างนั้น ชงไฉ่อดทึ่งในฝีมือของผู้ที่เขาปรามาสไว้ไม่ได้จิ่นฉินยิ้มบาง อาวุโสลูบเคราไปมา
“องค์ชายใหญ่ท่าน ฝีมือล้ำลึกเพียงนี้ เหอตงหยวนคงไม่แคล้วยิ่งใหญ่เป็นแน่แท้ อย่างนี้ข้ามิอาจปฏิเสธที่จะรับท่านเป็นศิษย์” จิวซินยกมือขึ้นประสานกันตรงหน้าก้มหัวเล็กน้อย
“ซือฟุเพียงท่านรับข้าเป็นศิษย์ก็ถือว่าเป็นพระคุณ”
“ข้า ฮุ่ยโม๋ชื่นชมท่านนัก มิไยที่ต้องได้ดื่มคารวะท่านสักจอก หวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธข้า” จิวซินยิ้ม ยกมือขึ้นประสานตรงหน้า
“มิอาจปฏิเสธ ในเมื่อข้าจิ่นเกอ หวังเพียงมิตรแท้ต่างแดน”
“พี่ห้า หากไม่เป็นการรบกวนจวนอ๋องของท่าน ข้าขอร่วมดื่มเป็นการต้อนรับองค์ชายใหญ่ของเหอตงหยวนด้วยคน”
“ข้ามีหรือจะปฏิเสธการร่ำสุราร่วมกับองค์รัชทายาท555เชิญน้องสิบสองและองค์ชายใหญ่ ที่จวนเถิด” ชงไฉ่ยกมือคาราวะอาจารย์ สะบัดชายเสื้อออกเดินนำ ยังจวนอ๋องที่อยู่ห่างออกไป
ฮุ่ยโม๋ผายมือเชิญจิวซิน แววตาชื่นชมส่งมาด้วยความจริงใจ
จิ่นเกอองค์ชายใหญ่ผู้ปรารถนารักแท้ และมีศรัทธาในรักแท้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีทึมทึบจูงมือหญิงสาวใบหน้าสวยหวานอ่อนวัยเดินลัดเลาะมาบนทางเดินตามไหล่เขามุ่งหน้าเข้าสู่ไห่ตงหยวน
“พักก่อนเถิดลู่ชิง” หญิงงามนามลู่ชิงนั่งลงบนขอนไม้ ดวงหน้ามีแววกังวล
“องค์ชายเหตุใดท่านต้องมา ที่ไห่ตงหยวนทั้งๆ ที่ต้องการจะหนี”
“อย่ากังวลไปเลยลู่ชิง ถึงข้าจะละทิ้งหน้าที่องค์ชายและรัชทายาทแต่มิอาจละทิ้งหน้าที่พี่ชายได้” ลู่ชิงมองด้วยสายตาขมขื่น
“ท่านมิผิดหากแต่จิวซิน...องค์หญิงนางอาสาเอง”
“ข้าเพียงไม่อาจให้จิวซินเผชิญทุกข์ยากเพียงลำพัง”
“ท่านไม่อาจแก้ไขอะไรได้แล้วในเมื่อนางตัดสินใจไปแล้ว”
“เพียงเพื่อช่วยเหลือนางอย่างลับๆ แม้จิ่นฉินสหายข้าจะร่วมเดินทางมากับนางแม้ข้าจะรู้ว่าจิ่นฉินต้องไม่ปล่อยให้จิวซินตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่ แต่ข้าก็ไม่อาจวางใจเมื่อนางมาอยู่ในดินแดนของศัตรู ผู้ที่หวังจะยึดครองดินแดนของเรา เป็นข้าเองที่ผิด และท่านพ่อเองก็กำลังประชวรจิวซินแม้จะแข็งแกร่งดุจหินผาต่างจากหญิงทั่วไปแต่นางก็ยังเป็นหญิง” ลู่ชิง ไม่มีคำพูดใดๆ แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใดก็ตาม
จวนอ๋องห้าเพียงมองจากด้านนอกก็รู้ถึงความยิ่งใหญ่ ภายในกับโอ่อ่าสมฐานะ สาวใช้สองสามคนเดินมารับเสื้อคลุมของเหล่าผู้มาเยือน
“จวนท่านอ๋องแม้ไม่ใหญ่โตหากแต่โอ่อ่าสมฐานะ” จิวซินออกปากองค์ชายห้าโบกมือไล่สาวใช้ก่อนจะยิ้มพราย
“จวนอ๋อง ก็เป็นแค่เพียงจวนอ๋อง หากมีโอกาสองค์รัชทายาทชงไฉ่น้องสิบสองคงได้มีพาท่านเยี่ยมชมตำหนักของเขาที่นั่นแม้ชายาของเขาจะวุ่นวายกับการแย่งกันปรนนิบัติน้องสิบสอง แต่ก็เต็มไปด้วยหญิงงามและนางกำนัลแถวหน้าของวังหลวง ผิดกับจวนของข้าที่ไม่มีชายาแม้แต่คนเดียว”
จิวซินเลิกคิ้วสูงรู้สึกแปลกใจที่บุรุษรูปงามอย่างฮุ่ยโม๋จะยังไม่มีชายา ชงไฉ่เผลอมองใบหน้าของจิวซินเต็มตาเป็นครั้งแรกใบหน้าช่างงดงาม เหมือนหญิงสาวนี่กระมังที่ทำให้เขาไม่ถูกชะตาแม้แต่น้อย
“พี่ห้าก็ยกย่องข้าเกินไปตำหนักข้าหรือจะสู้จวน พี่สี่ฮุ่ยเจินได้ที่มีหญิงงามมากมาย ของข้าแม้จะพรั่งพร้อมแต่กับไม่มีความสงบสบายเหมือนจวนท่าน”
