บทที่ 7 7
แสงแดดเริ่มอ่อนลงทุกขณะเหมือนเสียงหัวใจของเธอที่เต้นเนิบช้าลงในขณะที่ความกลัวพุ่งขึ้นสูง เธอจะทำอย่างไรดี รสิกา...หรือเธอจะหนีไปเสียตอนนี้
แต่...เธอจะหนีไปได้ยังไง ที่นี่คือยอดเขาเมาท์ วอชิงตันที่แทบไม่มีทางลงไปข้างล่างได้เลย ไม่อย่างนั้นดอมมินิคคงไม่ให้เครื่องบินเล็กนำพาเธอและเขาขึ้นมาส่งถึงข้างบนนี้
หญิงสาวหลับตา ตั้งแต่เหยียบย่างเท้าลงมาจากเครื่องบินก็เห็นว่ารอบด้านของ กระท่อม มีแต่หุบเหวและป่าสน และภาพที่แทรกเข้ามาในความกระวนกระวายนั้นคือ กะรัต
แม่จ๋า...รสิกาตะโกนเรียกแม่ของเธออยู่ในใจ หากเธอมีโอกาสได้กลับไปที่คฤหาสน์ไทเลอร์ในตอนนี้ เธอจะบอกแม่ของเธอว่าอย่าอยู่ที่นั่นอีกเลย แม้เอ็ดมันน์จะเคยมีบุญคุณกับกะรัตและเธอมากแค่ไหน แต่ตอนนี้ไม่มีเขาอยู่อีกแล้ว เปรียบไปก็เหมือนไม้ใหญ่ที่ล้มลงก็ปราศจากร่มเงาให้นกกาและสัตว์ตัวเล็กได้อยู่อาศัย เธอกับมารดาก็เป็นดั่งนั้น ยิ่งตอนนี้แล้วเธอก็รู้ว่าอาจมีภยันตรายอยู่รอบด้าน
ภาพของกะรัตเลือนจางไปกลับมีภาพใหม่เข้ามาแทนที่ นั่นคืออิซาเบล
“ทำไมผมจะไม่รู้!ในเมื่อที่นั่นมีแม่ของผม เธอบอกทุกอย่างที่เธอรู้กับผม บอกความเจ็บปวดที่ต้องถูกผู้หญิงชั้นต่ำสองคนกับสามีช่วยกันเหยียบย่ำความรู้สึกในบ้านของตัวเอง”
แม้จะยังเคลือบแคลงสงสัยในตัวมารดาที่ไม่ว่าเธอจะถามถึงเรื่องการฆาตกรรมเอ็ดมันน์เมื่อไหร่กะรัตก็จะมีสีหน้าแปลกเปลี่ยนไปเมื่อนั้น หากก็ไม่เท่ากับความรู้สึกผิดหวังเมื่อได้รู้จากปากของดอมมินิคว่าคุณผู้หญิงแห่งคฤหาสน์ไทเลอร์ไม่เคยไว้วางใจในตัวเธอและมารดา อิซาเบลคิดว่าเธอกับกะรัตล่อลวงเอ็ดมันน์เพื่อหวังฮุบสมบัติ
“ไม่จริง...ไม่จริงหรอกค่ะคุณลุง...หนูกับแม่ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น”
หญิงสาวรำพึงกับตัวเองทั้งน้ำตาอย่างสิ้นหวังขณะชันเข่าขึ้นและกอดเอาไว้กับอกก่อนจะซบใบหน้านองน้ำตาลงบนแขนตัวเอง
รสิกาไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าใด เธอหวาดกลัวจนเผลองีบไปอยู่ข้าง ๆ เก้าอี้ไม้ตัวเดิมเพื่อจะตื่นมาพบกับความมืดที่โรยตัวลงมาห่มคลุมรอบ ๆ กระท่อมอิฐหลังใหญ่ของดอมมินิคทว่าก็ยังคงมีแสงสว่างจากโคมไฟให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง
ค่ำแล้วหรือ...รสิกาขยี้ตาและโคลงศีรษะเพื่อปัดเป่าความง่วงงุน แต่มิอาจขจัดความหวั่นกลัวไปจากหัวใจที่เริ่มสั่นเหมือนกลองรัวดวงนั้นได้เลย เธอหันไปรอบ ๆ ก็พบแต่ความมืดหมองของรัตติกาล ทุกอย่างมืดมนไปหมดแม้แต่หนทางข้างหน้า
“ผมจะกลับมาอีกครั้งตอนหัวค่ำ ถ้าพูดความจริงออกมาคุณจะได้กลับบ้าน แต่ถ้าไม่พูดก็เตรียมตัวเป็นศพอยู่เฝ้าหุบเขาเมาท์ วอชิงตัน ได้เลย!”
เสียงคำรามไม่ต่างจากสัตว์ร้ายของดอมมินิคยังคงก้องกังวานอยู่ในความนึกคิดของหญิงสาว รสิกาเสียววาบไปทั่วทั้งตัว เธอไม่มีอะไรจะพูด สิ่งเดียวที่เขาจะบีบเค้นออกจากปากเธอได้นั่นก็คือ...เธอไม่รู้อะไรเลย
ทว่าน่าแปลกที่ทุกอย่างยังคงตกอยู่ในความเงียบงัน เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งในกระท่อมแม่แต่ขณะพยายามเงี่ยหูฟังด้านนอก เขาอาจยังมาไม่ถึงหรืออยู่ที่ไหนสักแห่ง ถ้าเธอจะใช้โอกาสที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดตอนนี้ไปจากที่นี่ เขาก็อาจจะตามไม่ทัน
แน่ล่ะ...นี่มันยอดเขาสูง ทางลาดชันและป่ารกชัฏอาจช่วยกางกั้นเธอได้จากสายตาของเขา รสิกาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน เธอมีอาการโงนเงนเล็กน้อยแต่ก็พยายามควบคุมสติไม่ให้แตกกระเซ็นเหมือนเมื่อตอนมาถึง เธอจะหนีไป...นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเธอแล้วรสิกา
คิดได้ดังนั้นร่างบอบบางก็ตรงดิ่งไปที่ประตู ค่อย ๆ แง้มมันออกและก็เห็นว่าด้านนอกนั้นมีเพียงโขดหินสีขาวสะท้อนประกายอันนุ่มนวลเมื่อถูกอาบไล้ด้วยแสงจันทร์ รสิกากลืนก้อนเหนียวลงคออันตีบตัน ทางข้างหน้ากำลังเปิดโล่งแล้วสำหรับเธอ
ร่างแน่งน้อยในชุดกระโปรงไม่สนใจรองเท้าของเธออีกต่อไปแล้ว รสิกาก้าวไปบนโขดหินที่ลาดชันและลดหลั่นด้านหน้ากระท่อมด้วยเท้าอันเปลือยเปล่า แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักในทันใดเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง
“โรส...นั่นคุณจะไปไหน?”
รสิกาก้าวเท้าไม่ออก หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ที่ขอบสระเล็ก ๆ รายรอบด้วยหินสีขาว ระยับพรายในน้ำสะท้อนเงาของเธอภายใต้แสงจันทร์สีเงินยวงที่ทาบทอไปทั่งหุบเขา มือบางเริ่มเย็น เท้าของเธอชาเหมือนไม่มีความรู้สึก รสิกาไม่ยอมแม้แต่จะหันกลับไปยังร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองที่ก้าวเข้ามาหยุดบนโขดหินก้อนหนึ่ง
“คุณคิดจะทำอะไร...หนีไปจากที่นี่อย่างนั้นหรือ โรส?”
เขายังคงตั้งคำถาม รสิกาไม่อาจหยุดยั้งน้ำตาที่หลั่งลงมาบนแก้มได้ เขาคงไม่รอให้เธอเปิดปากพูดเรื่องของกะรัตอีกต่อไป เขาคงต้องฆ่าเธอให้ตายอยู่ตรงนี้
“ผมถามไม่ได้ยินรึไง!”
“ใช่! ฉันจะหนีไปจากที่นี่...อ๊ะ...กรี๊ด!”
หญิงสาวหันขวับไปมองเขา แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรอีก ร่างบอบบางของเธอก็ลื่นไถลลงไปในวังน้ำเบื้องล่าง เสียงกรีดร้องลั่นของรสิกาทำให้ดอมมินิคเองก็เกิดอาการตกใจจนต้องรีบถลาเข้ามาดูและก็เห็นว่าเธอกำลังตะเกียกตะกายขึ้นจากแอ่งน้ำที่ความลึกของมันปริ่มแค่หน้าอกของหญิงสาว พอตั้งสติและทรงตัวได้เธอก็รีบจ้ำไปข้างหน้า แต่ก็ต้องตกใจซ้ำสองเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกระแทกลงในน้ำจนกระฉอกใส่ตัวเธอ รสิกาหันกลับไปมองก็ต้องตื่นตระหนกสุดขีดเมื่อร่างสูงใหญ่ของดอมมินิคพุ่งเข้ามาประชิดตัว
