บทที่ 7 7

ภิณไลย์ญาแย้งเพราะเธอจำได้ว่าพริตตี้สาวของเอเยนซี่อีกคนที่มาพร้อมกันสวมชุดสีดำเหมือนกันแต่เป็นชุดแสกยาวหรูหราไม่ได้แหวกเว้าน่าเกลียดอย่างนี้ บียิ้มแหย ๆ และตอบว่า

“เอ้อ...คือว่า...มันเป็นชุดที่ทางเจ้าของงานเขาต้องการให้เนเน่ใส่มันน่ะ”

ภิณไลย์ญาชี้นิ้วเข้าหาตัว “ฉัน...น่ะเหรอคะ...แต่เราเคยตกลงกันแล้วนะคะว่าฉันจะไม่แต่งตัวโป๊ล่อไอ้เข้โชว์ตัวกับรถหรู ฉันต้องไปยืนคู่กับเมอเซเดส เบนซ์นะคะ ไอ้ชุดแบบนี้มันไม่ต่างกับชุดนักร้องในผับเลยนะคะ”

“ถึงจะเหมือนชุดนักร้องแต่คุณก็ต้องใส่มัน!”

เสียงที่ดังแทรกขึ้นทำให้ทั้งสองต้องหยุดการสนทนาลงโดยพลันและหันกลับไปมองพร้อมกัน และเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่ประตูห้องภิณไลย์ญาก็ถึงกับผงะ

“นิโคลัส!”

ร่างบางมือเย็นเฉียบแต่ในกายกลับรุ่มร้อนเมื่อเห็นจอมอหังการที่เมื่อเห็นหน้าก็อยากสาปส่งเขาไปไกล ๆ ทว่าเธอต้องเห็นหน้าเขา ต้องพบกับผู้ชายจอมทรนงที่สืบเท้าเข้ามาหยุดตรงหน้าและมองเธอด้วยสายตาที่ไม่เคยญาติดี หญิงสาวกำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกแทรกขึ้นด้วยเสียงของบี

“โอ...สวัสดีค่ะคุณซาเวียร์...คือว่าฉันกำลังให้เนเน่เตรียมออกไปโชว์ตัวพร้อมเมอเซเดส เบนซ์ตัวใหม่อยู่น่ะค่ะ”

“บี...แต่ว่านี่มัน...”

“รีบแต่งตัวเข้าเถอะน่าเนเน่ เห็นไหมว่าคุณซาเวียร์เจ้าของงานอุตส่าห์เข้ามาถึงที่นี่ เราไม่เคยได้รับเกียรติจากเขาเลยสักครั้ง”

“เกียรติเหรอคะบี...แต่นี่มันห้องแต่งตัวของเอเยนซี่ที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามา ถึงเขาจะเป็นเจ้าของงานแต่ก็ถือว่ามันเป็นการเสียมารยาทที่เข้ามาในห้องแต่งตัวผู้หญิงอย่างนี้”

“ผมขออนุญาตเอเยนซี่แล้ว”

นิโคลัสตอบด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นหากนัยน์ตาคู่นั้นฉายความดุดันเจือไว้ด้วยความหมิ่นแคลนยามจับจ้องที่พริตตี้สาว

“ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นการเสียมารยาทแต่อย่างใด ก็แค่เข้ามาดูว่าคุณได้สวมชุดที่ผมให้เอเยนซี่ของคุณจัดเตรียมไว้หรือยัง”

“ว่ายังไงนะคะ!” ภิณไลย์ญาเสียงสูง เธอหันกลับไปดูชุดนั้นก่อนจะหันกลับมายังร่างสูงสง่าอีกครั้งขณะที่บียืนหน้าเจื่อนท่ามกลางคนทั้งสอง

“คุณเองเหรอคะที่จัดการเรื่องทั้งหมด บ้าที่สุด!...มันเป็นเรื่องที่แย่มากที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมาเลย คุณมีสิทธิ์อะไรมาบังคับให้ฉันสวมชุดตามใจคุณ”

“ผมมีสิทธิ์เต็มที่ มิสภิณไลย์ญา”

“อ้า...เอ้อ...คุณซาเวียร์คะ...ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ คงต้องรบกวนให้คุณตกลงกับเนเน่เองซะแล้วล่ะค่ะ”

บีเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตึงเตรียดหนักและไม่นึกว่าภิณไลย์ญาจะกล้าขึ้นเสียงกับเจ้าของงานออโต้โชว์ที่กำลังยืนประจันหน้ากับเธอขณะนี้ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันและอึดอัดกระทั่งนิโคลัสกล่าวขึ้น

“ขอบคุณมาก คุณทำตามหน้าที่ของคุณอย่างสมบูรณ์แล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องระหว่างผมกับเธอ”

“คะ...ค่ะ...ฉันขอตัวนะคะ”

บีรีบปลีกตัวออกไปเหลือเพียงชายหนุ่มหญิงสาวที่ยืนประจันหน้าในห้องที่แวดล้อมด้วยบรรยากาศอึมครึม ภิณไลย์ญากัดปากตัวเองจนห้อเลือด เธอกำลังจะเดินตามบีออกไปแต่กลับถูกคว้าข้อมือไว้ด้วยมือหนาดุจคีมเหล็ก ร่างบางหันกลับมาแหวใส่อย่างเหลืออด

“นิโคลัส...ปล่อยฉันนะคะ”

“คุณจะไปไหน”

“ฉันจะกลับบ้าน ฉันขอยกเลิกงานโชว์ตัววันนี้ค่ะคุณซาเวียร์”

“ขอโทษทีที่ผมต้องบอกว่าไม่ได้”

“คุณมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่ง คุณไม่ใช่คนจ้างฉัน”

“แต่ผมเป็นเจ้าของชีวิตคุณ!”

“นิโคลัส...อ๊ะ!”

ร่างเล็กร้องลั่นเมื่อถูกร่างหนาใหญ่ดันเข้าไปชิดผนัง เขาตรึงข้อมือทั้งสองของเธอไว้และเบียดอกกว้างชิดอกนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาห่างจากเธอไม่ถึงคืบ ภิณไลย์ญาหน้าตื่นเพราะไม่นึกว่านิโคลัสจะจู่โจมอย่างอุกอาจแบบนี้ หญิงสาวกำหมัดแน่นและตะเบ็งเสียงหูตาแดงก่ำ

“ปล่อยฉันนะ! นี่มันอะไรกัน คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรแบบนี้กับฉัน ถ้าพูดไม่ฟังจะให้เอเยนซี่ของฉันฟ้องคุณ”

“ใครก็ทำอะไรผมไม่ได้หรอก รู้ไว้ซะด้วยว่าตอนนี้คุณไม่ได้สังกัดเอเยนซี่ไหนทั้งนั้น”

นัยน์ตางามเบิกกว้าง “เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะในเมื่อฉันยังมีสัญญากับบีเกิร์ล โปรดัคชั่น คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้ทั้งนั้น”

“แต่ผมทำไปแล้ว” เขาเค้นเสียงหนัก กรามถูกขบนูนเป็นสัน “ผมจ่ายค่าตัวของคุณเพื่อยกเลิกสัญญากับบริษัท นี่ไงถึงเป็นเหตุผลที่ผมอยากจะให้คุณทำอะไรอย่างที่ผมอยากให้ทำก็ได้”

“แต่ฉันไม่รู้เรื่องนี้ คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะคะนิโคลัส”

ภิณไลย์ญาเสียงสั่นน้ำตาคลอ ร่างเล็กสั่นเทิ้มเหมือนลูกนกที่กำลังบินฝ่าพายุใหญ่ นิโคลัสยิ้มร้าย

“บอกแล้วยังไงว่าคุณตอบโต้ผมไม่ได้และสุดท้ายผมต้องเป็นผู้ชนะเพราะผมจะทำยังไงหรือทำอะไรก็ได้กับชีวิตลูกไก่ในกำมืออย่างคุณ”

“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ใครเป็นลูกไก่ในกำมือของคุณ”

“ก็คุณไง ...ชีวิตของคุณเป็นของผม”

“ฉันยังไม่ได้ตกลงตอบรับข้อเสนอบ้าบอของคุณด้วยซ้ำ และการที่คุณซื้อฉันจากเอเยนซี่ก็เป็นเรื่องที่ผิดอย่างมากเพราะบริษัทไม่มีสิทธิ์ซื้อขายฉันให้ใครโดยที่ฉันไม่ให้ความยินยอม คุณไม่มีสิทธิ์จะมาบีบบังคับฉันได้หรอกนะนิโคลัส”

“คุณอาจไม่จำเป็นต้องตอบรับข้อเสนอของผมเพราะนั่นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร และที่คุณบอกว่าเอเยนซี่ทำผิดก็ขอเชิญฟ้องร้องได้เลย แต่คุณจะมีสิทธิ์ฟ้องผมได้ก็ต่อเมื่อคุณชดใช้หนี้สามล้านเหรียญที่ผมจ่ายมันแลกกับการยื้อชีวิตน้องชายของคุณ

!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป