บทที่ 10 ตอนที่10.คู่กัด

ทำไมกับข้าวเยอะจังคะแม่ สีตะลาถามเมื่อเดินเข้ามาในครัว

“เพื่อนตามจะมาทานข้าวที่บ้านด้วยนะ”

“เพื่อนตาม อย่าบอกนะคะว่าคุณธนิก” พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“พักนี้คุณนิกเขามาบ่อยนะ เขามีธุระคุยกับตาม”

“น่าเบื่อค่ะ มาทีแม่ก็เหนื่อย แถมเปลืองข้าวด้วย เตยไม่เห็นว่าจำเป็นตรงไหน คุยงานไปคุยกันที่อื่นก็ได้ ร้านอาหารเยอะแยะ เรียนสูงซะเปล่ากลับไม่มีมารยาท!”

“อะไรกันเตย แค่ข้าวมื้อเดียว เตยกลายเป็นคนงกตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย” อมราถามลูก ไม่เข้าใจว่าทำไมสีตะลาต้องว่าธนิกขนาดนั้น

“อย่าพูดมากเลย ยกอาหารไปวางที่โต๊ะได้แล้ว

มากันแล้วมั้ง” อรมราบอกเมื่อได้ยินเสียงรถเข้ามาในบ้าน

“พี่แอ๋วไปไหนคะ” สีตะลายังยืนเฉย ไม่ยกอาหารไปวางบนโต๊ะตามคำสั่งแม่

“แอ๋วรดน้ำต้นไม้”

“เตยไปตามพี่แอ๋วให้นะคะ” พูดจบสีตะลาก็เดินออกไป

“ไปตามแอ๋วทำไมเตยยกไปวางก็จบ” อมราบ่นพร้อมกับส่ายหัวให้ลูกอย่างเหนื่อยใจ ไม่รู้ว่าธนิกทำ

อะไรให้ ลูกสาวนางถึงตั้งป้อมใส่และแสดงท่าทางรังเกียจออกมาอย่างไม่คิดจะเก็บเอาไว้

“พี่แอ๋วแม่เรียก!” บอกกับคนใช้ เมื่อเดินมาถึงจุดที่แอ๋วทำงานอยู่

“คุณแม่เรียกพี่ทำไมคะ คุณแม่เพิ่งบอกให้พี่มา

รดน้ำต้นไม้” แอ๋วถามพร้อมกับทำท่าทางครุ่นคิด เพราะอมราเพิ่งไล่เธอให้ออกมารดน้ำต้นไม้เมื่อกี้นี้เอง

“รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวเตยรดที่เหลือให้เอง” พูดพร้อมกับแย่งสายยางจากมือแอ๋วมาถือเอาไว้ แล้วผลักไหล่แอ๋วให้รีบเข้าไปในบ้าน

“คุณเตยอะไรกันคะ เบา ๆ สิคะ ถ้าพี่แอ๋วล้มไปอัมพาตเลยนะคะ” แอ๋วบอกกับเจ้านายสาว แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน จังหวะนั้นธนิกก็เดินสวนมาพอดี

“สวัสดีครับพี่แอ๋วคุณเตยอยู่ในสวนใช่ไหมครับ” ธนิกทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับถามหาสีตะลา

แอ๋วอยากจะบอกธนิกเหลือเกินว่าอย่าไปยุ่งกับสีตะลา

ไม่รู้ว่าไปกินรังแตนที่ไหนมา ถึงได้หงุดหงิดใส่เธอ แต่ก็เลือกที่จะเก็บเอาไว้ ถ้าธนิกชอบสีตะลาจริง ๆ ก็ต้องรับกับสิ่งที่สีตะลาเป็นได้

ร่างสูงเดินเข้ามาในสวน ก่อนจะยิ้มกับตัวเอง เมื่อเห็นคนที่เขาคิดถึงยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ตรงหน้า

“สวัสดีครับคุณเตย” ธนิกตะโกนทักทายแข่งกับเสียงเพลงที่สีตะลาร้องออกมา สีตะลาคงกำลังจินตนาการว่าตัวเองอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต ถึงได้ตะเบ็งเสียงออกมาจนลั่นสวน

“สวัสดีครับคุณเตย เพลงเพราะจังเลยครับ!” เสียงที่ใช้ดังขึ้น เมื่อหญิงสาวยังไม่รู้ตัวว่ามีเขายืนอยู่ข้างหลัง

สีตะลาทำท่าทางเหมือนกับตกใจ ก่อนจะหันกลับมา ส่งผลให้น้ำในสายยางเปียกธนิกไปทั้งตัว

“ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ” ปากบอกขอโทษ แต่ยังไม่หันสายยางไปทางอื่น ธนิกหรี่ตามองคนตรงหน้า

ตอนแรกเขาคิดว่าสีตะลาตกใจเสียงเรียกของเขา จึงหันสายยางมาทางที่เขายืนอยู่ แต่พอเห็นใบหน้าและสายตาของเธอธนิกจึงรู้ว่าสีตะลาตั้งใจ จนป่านนี้เธอก็ยังไม่ล่ะสายยางออกจากใบหน้าของเขา

“แค่ก ๆ พอก่อนคุณ จะฆ่ากันหรือไง” ธนิกร้อง

บอกพร้อมกับก้าวไปหาคนตรงหน้า แล้วรวบเธอไว้ในอ้อมแขน จัดการแย่งสายยางออกจากมือเธอ สีตะลาดิ้นหนีตกใจกับการจู่โจมของเขา จนตอนนี้เธอเองก็เปียกไปทั้งตัว เพราะเขากอดเธอเอาไว้

“ปล่อยฉันนะคุณ!” สีตะลาโวยวาย เมื่อธนิกรัดเอวเธอแน่นจนหายใจไม่ออก

“ปล่อย!”

“ไม่ปล่อย! จนกว่าจะทำโทษเสร็จ”

“ทำโทษ! ทำโทษ! อะไรกัน!” สีตะลาโวยวาย ตกใจกับคำพูดและการกระทำของเขา

“ผมจะทำโทษเด็กดื้อ!”

“รู้ไหมเตยว่านอกจากคุณจะดื้อแล้ว คุณยังงอแงเหมือนเด็ก วันนี้แหละผมจะทำโทษคุณ จะได้รู้ว่าอย่ามาล้อเล่นกับความรู้สึกผม” พูดพร้อมกับโน้มหาลงมาหา

สีตะลาเบี่ยงหลบพร้อมกับทุบตีลงบนอกของเขา

“ปล่อยนะ! คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉันนะ !”

สีตะลาตัวสั่น พอเขาเอาจริงขึ้นมาเธอก็กลัว กลัวว่าเขาจะทำเรื่องบ้า ๆ กับเธออีก

“ทำไมกลัวเหรอ!” ธนิกถามเพราะจับอาการของคนตัวเล็กได้ เพราะเธอสั่นไปทั้งตัว จะว่าเป็นเพราะหนาวก็ไม่น่าใช่

“ปล่อย!”

“ไม่ปล่อย!” ธนิกบิดข้อมือที่เขาจับไขว้กันไว้ที่ด้านหลัง จนสีตะลาเจ็บร้าวไปทั้งแขน

“ปล่อยนะไอ้บ้า!” เมื่อเขาทำเธอเจ็บสีตะลาก็เริ่มหยาบคายและดิ้นหนักขึ้น จนหน้าอกอวบอิ่มภายใต้

เสื้อยืดผ้าเนื้อบางถูไถไปกับหน้าอกของเขา ธนิกสูด

ลมหายใจเข้าปอด เมื่อความร้อนเข้าเล่นงาน ถ้าคนตัวเล็กยังไม่หยุดดิ้น บางทีเขาอาจจะทำอะไรมากกว่าจูบ

ก็ได้

“หยุดดิ้นนะเตย!” เสี่ยงแหบพร่าออกคำสั่ง เพราะตอนนี้ความรู้สึกของเขาเริ่มเตลิดไปไกล

“ไม่หยุด! คุณก็ปล่อยฉันก่อนสิ!” ความอยากเอาชนะทำให้สีตะลาดิ้นหนักขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น เท้าบางยังกระทืบลงบนเท้าหนาไม่ยั้ง เมื่อรำคาญมาก ๆ ธนิก

ก็บิดแขนเธอหนักขึ้น พร้อมกับก้มลงไปปิดปากเล็กที่

สรรหาถ้อยคำมาต่อว่าเขา

“อื้อ...” สีตะลาครางในลำคอ ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อถูกจูบ ความโมโหทะยานขึ้นจนถึงขีดสุด เกิดมาจะสามสิบปีเพิ่งเคยถูกจูบครั้งแรก ธนิกจะรู้ไหมว่าเขาปล้นจูบแรกไปจากเธอ

“ปล่อย!” ร่างเล็กยังคงดิ้นหนี แม้จะถูกกอดรัด

ก็ตาม

“ไม่ปล่อย!” ธนิกกระซิบชิดปากอิ่ม”

“ฉันจะฟ้องแม่”

“เชิญเลยครับ ว่าแต่จะฟ้องว่าอะไรดีครับ แม่คะพี่นิกจูบเตยค่ะ ฟ้องแบบนี้ไหมครับ ออ...อีกอย่างช่วยบอกแม่คุณให้หมดด้วยนะ ว่านอกจากจูบผมยังจับหน้าอกคุณด้วย”

“หยุดนะ ไอ้บ้า!” ถ้าบอกแม่อย่างนั้น แม่คงจับเธอแต่งงานกับเขาเป็นแน่

“ปล่อย!”

“อยากให้ปล่อยก็พูดดี ๆ ก่อน” ธนิกยื่นข้อเสนอ เมื่อรู้ตัวว่าล้อคนในอ้อมแขนแรงเกินไป แค่จูบเท่านั้นเธอร้องไห้เหมือนกับว่าเขาข่มขืนเธอ

“คุณนิก คุณปล่อยฉันนะคะ” สีตะลาขอร้องตามคำบอกเล่าของเขา

“เรียกพี่นิกก่อน พี่นิกขาปล่อยน้องเตยนะคะ ลองพูดสิ”

“ไม่!” สีตะลาไม่ยอมทำตามคำสั่งเขา

“ดี! งั้นผมก็จะกอดคุณไว้อย่างนี้ และจะจูบคุณอีกด้วย ดูสิว่าถ้าแม่หรือพี่สาวคุณมาเห็นเข้าจะเป็นยังไง” ธนิกท้าทาย พร้อมกับก้มหน้าลงไปหา

“ไอ้บ้าปล่อยฉันนะ!” สีตะลาโวยวายหนักขึ้น

เมื่อใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากหน้าเธอไม่ถึงคืบ

“พี่นิก พี่เตย อยู่ไหนน่ะ แม่ให้มาตามไปกินข้าว” เสียงของศรันภพทำให้สีตะลาตกใจมากขึ้นไปอีก แม่กับพี่สาวว่าน่ากลัวแล้ว ศรันภพนี่แหละจะเป็นตัวเร่งให้เธอกับธนิกลงเอยกันเร็วขึ้น ธนิกยังคงเฉยเขาอยากให้ศรันภพมาเห็นว่าเขากำลังลวนลามพี่สาวของมัน เขาจะได้แต่งงานกับเธอเร็วขึ้น

“พี่นิกขา ปล่อยเตยนะคะ” ความกลัวบวกกับความโมโหสั่งให้สีตะลาเอ่ยขอร้องตามที่เขาบอก ธนิกยิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ของคนในอ้อมแขน ก่อนจะปล่อยเธอตามสัญญา ทันทีที่เป็นอิสระ สีตะลาก็ผลักลงบนอกกว้างเต็มแรง จนร่างสูงหงายหลังลงไปกองอยู่บนพื้น ก่อนจะวิ่งหนีไป

“พี่เตยพี่นิกล่ะพี่” ศรันภพถามเมื่อเห็นพี่สาววิ่งออกมาจากสวน

“ไม่รู้!” สีตะลาตอบน้องก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้าน ศรันภพส่ายหัว ก่อนจะเดินเข้าไปในสวน ภาพที่เห็นทำให้กลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ ธนิกนั่งอยู่บนพื้นดิน กางเกงของเขาเปื้อนไปหมด แถมเนื้อตัวยังเปียกปอนอีกด้วย

“อ้าวทำไมเป็นแบบนั้นล่ะพี่!” เขาห้ามแล้วว่าไม่ให้ธนิกเข้ามาในนี้ แต่ธนิกก็ไม่ฟัง คงอยากลองของ แล้วเป็นไงสภาพไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ

“ทีนี้รู้ฤทธิ์พี่เตยหรือยังครับ”

“อย่าพูดมากเลย มาดึงฉันขึ้นก่อน” ธนิกบอกกับรุ่นน้อง ถึงจะเสียฟอร์ม แต่ก็คุ้มเพราะอย่างน้อยเขาก็ได้จูบเธอ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป