บทที่ 3 บทที่ 3.

น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของ เจ้าสัวอรรณพ จงบริบูรณ์ไพศาล และเป็นน้องสาวของ อัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล พี่ชายสุดหล่อที่พ่วงเอาดีกรีความหล่อ รวย แสนจะเพอร์เฟค ที่สาวๆ ค่อนประเทศอยากจะจับให้อยู่มือ ผิดกับน้องสาวคนสวยที่ชอบเก็บตัวและเลือกที่จะมาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไปอยู่บ้านหลังเล็กๆ นอกเมืองและตอนนี้เนตรนาราก็กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองโดยการทำสำนักงานเล็กๆ ที่รับตกแต่งสวน และอาคารสถานที่ รวมไปถึงเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านการแฟและต้นไม้อิ่มรักที่ตอนนี้กำลังไปได้สวยด้วย

“อย่างฉันนี่นะสวยและสมบูรณ์แบบ ก็ต้องเลือกนิดนึงไม่รีบว่ะ” เนตรนาราบอกยิ้มๆ ดวงตาเป็นประกายเมื่อนึกถึงการสร้างครอบครัวแล้วเธอก็นึกขยาด สู้อยู่แบบนี้ต่อไปดีกว่า

“จ้า แม่คนสวย รวย เลือกได้”

“ก็แหง ล่ะ โฮ๊ะๆ เฮ้ย ฉันไปดีกว่าพอดีวันนี้นัดยัยเชอร์รี่ไว้ว่าจะไปดื่มฉลองร้านใหม่ของเพื่อนชายหล่อนน่ะว่าแล้วก็ไปเลยนะแล้วเจอกันวันจันทร์นะ บาย...”

หมวยมหาภัยทำท่าปิดปากหัวเราะด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ ก่อนจะกล่าวลาเพื่อนรักเพื่อไปที่อื่นต่อ

“จ้า ขับรถดีๆ ล่ะ”

อรุณนารีโบกมือลาสาวสวยพลางส่ายหัวกับอารมณ์เร่งร้อนของอีกฝ่าย เธอมองตามหลังรถญี่ปุ่นคันงามที่แล่นจากไปด้วยรอยยิ้มขบขันเพื่อนรัก ก่อนจะเดินเข้าบ้านไม้หลังงามที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้ราวสามสิบไร่ของตน

ครอบครัวของเธอเป็นชาวสวนผลไม้และทำสวนมาหลายชั่วอายุคน นายสินธุ วงษ์อินทร บิดาของเธอนั้นเป็นชาวสวนโดยกำเนิดส่วน นางเอื้ออารี มารดานั้นเป็นครูสอนดนตรีไทยชาวกรุงแต่หลงใหลในเสียงเพลงของต้นไม้ใบหญ้าในบ้านสวนแห่งนี้จนยอมแต่งงานออกเรือนมาอยู่กับบิดาและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่บ้านสวนแห่งนี้ด้วยความสุขและหวานชื่นจนเธอเองยังชอบแซวสองตายายบ่อยๆ ว่า หวานไม่เลิก

การแสดงความรักของบิดามารดาที่มีต่อกันนั้นทำให้อรุณนารีซึ้งกับมันมากขนาดตั้งมาตรฐานชายในฝันไว้เลยว่าต้องมีบุคลิกนิสัยใจคอเหมือนบิดา อบอุ่นจริงใจและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่รักได้เสมอ ดูอย่างพ่อสินธุของเธอสิขนาดว่าเป็นชาวสวนแท้ๆ ไม่เคยหยิบจับเครื่องดนตรีสักอย่างแต่เพื่อจีบสาวครูดนตรีไทย ก็ยังไปฝึกไปเรียนจนสามารถเล่นดนตรีไทยได้เกือบทุกชนิดเพื่อจะได้มาเล่นจีบมารดาของเธอ และเล่นคลอกันเพื่อสร้างความผูกพันให้แน่นแฟ้นเหมือนดนตรี เนื้อร้องและทำนองที่ต้องสอดคล้องสัมพันธ์กันบิดามักบอกเธออย่างนั้น และมารดาของเธอก็จะหน้าแดงอายม้วนเดือดร้อนให้บิดาต้องคอยออดอ้อน และเธอก็จะกลายเป็นส่วนเกินของสองตายายในที่สุด

ความรักเอื้ออาทรต่อกันของบิดามารดา ที่แม้เวลาจะผ่านเลยแต่ความรักของคนทั้งสองก็มิได้จืดจางจนเธอเองยังแอบคิดเลยว่าชาตินี้เธอจะหาผู้ชายแบบบิดาได้ไหมและความรักของเธอจะหวานชื่นเหมือนท่านทั้งสองหรือไม่ นอกจากความรักที่หวานชื่นและการเอาใจใส่เลี้ยงดูที่ดีบวกกับความรักความอบอุ่นของบิดามารดาที่มีต่อเธอและคนรอบข้าง สิ่งดีงามต่างๆ เธอได้เห็นมาตั้งแต่เล็กจนโตทำให้เธอซึมซับสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสายเลือดทำให้เธอมองโลกในแง่ดี เข้าอกเข้าใจคนอื่นเสมอ

เธอเองรักการทำสวนปลูกต้นไม้ดอกไม้แม้ว่าเธอจะจบคณะมนุษยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมีชื่อของรัฐก็ตาม แต่เธอกลับพอใจที่จะเปิดร้านขายต้นไม้และขายกาแฟสดมากกว่าที่จะไปทำงานตามสาขาที่ได้ร่ำเรียนมาเพราะเธอชอบชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นตัวของตัวเอง แค่เก็บผลไม้ในสวนกับเพาะต้นไม้ดอกไม้ขายก็แทบจะทำไม่ทันอยู่แล้วเพราะผลไม้จากสวนของเธอนั้นมีคุณภาพ และปราศจากสารพิษเนื่องจากพ่อของเธอทำสวนแบบเกษตรอินทรีย์จะใช้ปุ๋ยที่หมักเองใช้ยาฆ่าแมลงที่ได้จากการสกัดจากพืชต่างๆ ในสวนในขณะที่ไม้ดอกไม้ประดับในร้านของเธอก็เป็นที่ต้องการของตลาดเพราะต้นสวยแข็งแรงเอาลงดินปลูกได้เลยไม่เฉาง่ายเหมือนต้นไม้ที่ซื้อจากร้านขายต้นไม้ทั่วไปบางร้าน ที่จ้องแต่จะเอาเปรียบลูกค้า

บทก่อนหน้า
บทถัดไป