บทที่ 5 หรือแค่..เพราะความสนุก

“หรือว่า...ทำแค่...เพราะความสนุก” เห็นเธอเป็นแค่เหยื่อคลายเหงา เห็นเธอเป็นแค่ของเล่นชั่วคราว หรือเห็นเธอเป็นแค่ตัวตลกกันแน่

“ถ้าคุณทำไปเพราะความสนุก คุณก็สารเลวเกินไปมากเลยเมฆ มันเกินไปจริง ๆ”

เขาโทรมาอีกหลายสาย เมื่อเธอไม่ยอมรับสาย เขาก็เลยส่งข้อความผ่านไลน์มาแทน แต่เธอก็ไม่ยอมเปิดดูมันหรอกนะ เพราะเธอรู้ว่ามันไม่ได้ถูกส่งมาจากใจ !!!

หลังจากดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนสนิทจนพวกมันเมาเละแล้วแยกย้ายกันไปนอนตามห้องต่าง ๆ ภายในบ้านหรูซึ่งมีห้องหับมากมายเพียงพอสำหรับเพื่อนทุกคน เขาก็เดินออกมารับลมที่ริมสระว่ายน้ำหลังบ้าน ซึ่งสามารถมองเห็นวิวชายหาดและท้องทะเลสีฟ้าครามได้กว้างไกลสุดสายตา

“อืม...ใกล้แล้ว...ใกล้จะจบแล้ว”

หลังจากไม่ได้ติดต่อกับว่าที่เจ้าสาวแสนสวยมาเกือบหกชั่วโมงเต็ม นับตั้งแต่เธอขึ้นเครื่องเมื่อช่วงสิบโมงเช้าของวันนี้ กระทั่งเกือบสี่โมงเย็น เขาก็ควรสลัดอาการมึนเมาจากไวน์สี่แก้วมาทำหน้าที่ว่าที่เจ้าบ่าวเสียหน่อย

“ทำอะไรอยู่น๊า...ที่รัก” เขายิ้มมุมปากอย่างหยามหยันเย้ยเยาะให้กับว่าที่เจ้าสาวแสนโง่ของเขา...เจ้าสาวที่โชคร้ายที่สุดในโลก...ใบหน้าคร้ามบ่งบอกถึงความสาสมใจกับความสำเร็จที่ได้มาอย่างง่ายดาย นัยน์ตาแดงก่ำจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แฝงไว้ด้วยความรู้สึกมากมายที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจร้ายกาจ

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดเบอร์ของหญิงสาว ซึ่งถูกพิมพ์ไว้ในชื่อ ‘ที่รัก’ เพื่อความสมจริง

“หึ!”  เขารอเธอรับสายอย่างอารมณ์ดี ตั้งใจจะอ้อนเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจับใจ ตั้งใจจะกระเง้ากระงอดทำให้เธอรู้สึกผิดที่ทำให้เขาคิดถึงเธอหนักมากในวันนี้ “รับสิครับที่รัก”

แต่เธอกลับไม่ยอมรับสายเสียที่...

“อ้าว...ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ!”

อิศราถึงกับงง เพราะเธอไม่เคยปฎิเสธสายจากเขา หากติดธุระหรือไม่สามารถรับได้สายได้ เธอจะทิ้งข้อความบอกไว้เสมอ ไม่ปล่อยให้เขาโทรเก้อแบบนี้

“ข้อความก็ไม่ได้ทิ้งไว้” เขาจึงกดโทรไปใหญ่ แต่สายกลับถูกตัดไปเหมือนเดิม “หรือว่าจะงอน...ที่เราไม่โทรหามาหลายชั่วโมง แต่เราก็บอกไปนี่นาว่าวันนี้มีประชุม”

อิศราพยายามใจเย็น แล้วโทรศัพท์กลับไปอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกหลายครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม เธอไม่ยอมรับสายจากเขา ทั้งที่ก็โทรติดทุกครั้ง

“อะไรกันเนี่ย ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์วะ”

เขารู้สึกว้าวุ่นใจและกังวลอย่างบอกไม่ถูก นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าหล่อนเมินเฉยใส่สายจากเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเธอมาเกินหกชั่วโมงแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ก่อกวนจิตใจของเขาจนแทบบ้า หากเธอรู้ว่าเขาไม่เคยโทรหาผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน เธอจะรู้สึกผิดบ้างมั้ยเนี่ย

“ทำอะไรอยู่นะบัว! ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์ผม ทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง คุณเป็นใคร ผมเป็นใครหา???”

เขารู้ว่าเธอจะไปเยี่ยมน้าสาวที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ เขารู้เท่านั้น แล้วก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรเพิ่ม เพราะไม่ได้อยากจะรู้จักญาติโกโหติกาของเธออยู่แล้ว แต่การที่เธอไม่ยอมรับโทรศัพท์จากเขานี่สิ เขาอยากจะรู้จริงๆว่าเธอทำอะไรอยู่ วินาทีนี้มีอะไรที่สำคัญกว่าว่าที่เจ้าบ่าวอย่างเขางั้นหรือ

“ข้อความก็ไม่อ่าน ! มันจะมากไปแล้วนะ !” เธออยากให้เขาหงุดหงิดมากใช่มั้ย เขาหงุดหงิดจนเริ่มจะโมโหแล้วนะ

“หรือว่า...ได้รับอันตรายอะไรรึเปล่า?” อยู่ ๆ ความคิดนี้ก็พุ่งเข้ามาในสมอง ซึ่งทำให้เขาชะงักไปเกือบนาทีเหมือนกัน ก่อนจะคิดได้ว่ามันใช่กงการอะไรของเขาเสียหน่อย “ยัยนั่นจะเป็นอะไร มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรานี่หว่า”

เขาควรหยุดโทรศัพท์แล้วกลับเข้าไปกินเหล้าต่อ หรือไม่ก็ไปนอนให้สบายอุรา เพราะถือว่าเขาได้ทำหน้าที่คนรักอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว อย่างน้อยเขาก็โทรหาเธอไปมากกว่าสิบครั้งและส่งข้อความไปมากกว่าห้าข้อความ ซึ่งมันหมายความว่าเขาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ไม่ได้ปล่อยปละละเลยหรือไม่สนใจว่าที่เจ้าสาว

“แต่...ถ้ายัยนั่นเป็นอะไรไป...แผนของเราก็ไม่สำเร็จน่ะสิ เราควรทำอะไรสักอย่างนะ” เขานิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเผลอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายรำคาญใจที่หัวใจมันเอาแต่กังวลและว้าวุ่นใจอยู่ได้ “ช่างเหอะว่ะ ช่างเหอะ ช่างมัน  ไปจ๊อกกิ้งดีกว่า !”

แทนที่จะกลับไปนอนพักที่ห้อง เขาเลือกออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งที่บริเวณชายหาดเพราะอยากระบายความเครียดกังวลที่สุมทุมในหัวออกมาทางเหงื่อ เขาวิ่งหลายรอบจนเหงื่อซกไปทั้งตัว ก่อนจะกลับเข้ามาที่บ้านอีกครั้งตอนที่ดวงตะวันกำลังตกดินพอดี แสงสุดท้ายของวันสาดแสงสีทองไปทั่วทั้งผืนฟ้าและผืนน้ำ ทำให้บ้านหรูหลังงามยิ่งโดดเด่นสะดุดตา

“เฮ่อ  ค่อยยังชั่วหน่อย” เขาหวังลึก ๆว่าเธอจะโทรมาหาเขาแล้ว อาจกระหน่ำโทรหลายสายด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกผิดที่ไม่ได้รับสายจากเขา คอยดูเถอะ เขาจะแกล้งทำเหมือนว่าโกรธเธอมาก เขาจะแกล้งงอนจนเธออยู่ไม่ติด ต้องรีบขึ้นเครื่องกลับมาในคืนนี้เลยล่ะ

“อ้าว...” แต่พอเปิดโทรศัพท์ขึ้นดู หัวใจเขาก็เหี่ยวแฟบลงทันตาเห็น นั่นเพราะเธอยังไม่ยอมติดต่อกลับมาตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ จึงทำให้เขาเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง “หายไปไหนเนี่ย ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์เนี่ย !!!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป