บทที่ 3 ค่าตัว
หลายวันผ่านไป
เสี่ยกำธรก็มาหาโจเซฟที่บ้านเพื่อทักทวงหนี้สินที่ติดค้างอยู่ จนพิริมาและโจเซฟก็ทำหน้าอักอ่วนใจอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเจ้าหนี้รายใหญ่กำลังมาทวงหนี้พวกเขาถึงบ้าน ทั้งที่อีกสองวันมันก็จะถึงกำหนดชำระหนี้แล้ว
“เสี่ยไม่ต้องห่วงนะครับ ผมกำลังรีบหาเงินมาให้เสี่ยอยู่ ยังไงก็ต้องทันวันชำระหนี้แน่นอน แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆ ผมคงจะยอมให้เสี่ยยึดร้านของผมไป” โจเซฟเอ่ยพูดกับเสี่ยกำธรด้วยเสียงเครียดๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าของภรรยาที่จับมือให้กำลังใจเขาไม่ห่าง
ส่วนพิชชาภาก็ลงมาด้านล่างพอเห็นว่าเสี่ยกำธรมาเธอก็รีบไปแอบฟังที่ประตูห้องนั่งเล่นอย่างตั้งใจว่าพวกผู้ใหญ่กำลังคุยอะไรกัน เพราะเธออยากรู้ว่าเสี่ยกำธรมาที่นี่ทำไม
“ผมมีข้อเสนอมาให้คุณสองคนด้วยนะ ถ้าคุณสองคนสนใจล่ะก็ ร้านนวดก็ยังคงจะเป็นของคุณเหมือนเดิมแล้วหนี้ระหว่างเราก็จะจบลงโดยที่ผมจะฉีกสัญญาระหว่างเราทิ้ง เพียงแค่คุณยอมให้หนูพิชหรือว่าหนูพลอยมาเป็นเมียน้อยของผม” กำธรเอ่ยพูดด้วยเสียงเจ้าเล่ห์พร้อมกับสายตาแพรวพราว เพราะเขาอยากจะได้พิชชาภาและพลอยลดามานานแล้วเขาจึงยอมให้โจเซฟยืมเงินง่ายๆ เพื่อที่เขาจะได้ใช้วิธีนี้มัดมือชกเอาพิชชาภาและพลอยลดามาเป็นเมีย
ส่วนพิชชาภาพอได้ฟังก็ตกใจ เพราะเสี่ยกำธรมันเจาะจงจะเอาตัวเธอกับน้องสาวไปเป็นเมียน้อยของมันจริงๆ เธอจึงแอบฟังต่อไปว่าน้าทั้งสองของเธอจะตอบไปว่าอย่างไร
“ผมยอมเสียร้านให้เสี่ยไป ดีกว่าผมต้องยอมให้ลูกและหลานสาวของผมไปตกนรกแบบนั้น ผมจะไม่มีวันทำเลวระยำแบบนั้นกับพวกแกเด็ดขาด” โจเซฟพูดด้วยเสียงเข้มอย่างไม่พอใจ เมื่อเสี่ยกำธรพูดขอให้หลานสาวของเขาไปเป็นเมียน้อยอย่างตรงๆ
“ใช่ค่ะ พิมว่าเสี่ยกลับไปเถอะค่ะ ยังไงเราก็ไม่รับข้อเสนอของเสี่ยแน่นอน” พิริมาเอ่ยพูดไปก็ทำหน้าจริงจังจ้องเสี่ยกำธรอย่างไม่พอใจเช่นกัน
“ถือว่าผมเสนอข้อเสนอดีๆให้พวกคุณแล้วนะ ถ้าถึงวันชำระหนี้จะหาว่าผมใจร้ายกับพวกคุณไม่ได้นะ ยังไงผมก็ยังรอคำตอบของพวกคุณอีกครั้งถ้าพวกคุณจะเปลี่ยนใจ” เสี่ยกำธรพูดบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วมองไปที่สองสามีภรรยาด้วยรอยยิ้มเยาะ ก่อนจะคิดในใจว่า ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้แล้วยังจะหยิ่งทะนงตัวอีก ยังไงลูกหรือหลานของพวกแกก็ต้องกลายเป็นเมียของฉันอยู่วันยังค่ำ
“ขอไม่ส่งนะครับ เชิญครับเสี่ย” โจเซฟพูดไปก็แลสายตามองหน้าของเสี่ยกำธรที่กำลังยิ้มเยอะเย้ยเขาอย่างเจ็บใจ
จากนั้นเสี่ยกำธรก็เดินออกไป พวกเขาก็มองดูในกระจกห้องนั่งเล่นก็มองเสี่ยกำธรขึ้นรถไปพร้อมกับลูกน้องที่ติดตามมา
“เราคงต้องเสียร้านให้ไอ้เสี่ยนี่แล้วจริงๆคุณพิม ยังไงผมก็ไม่ปล่อยยัยพิชกับยัยพลอยให้ไอ้เสี่ยนั่นเด็ดขาด ส่วนเงินที่เหลือผมว่าเราขายบ้านหลังนี้แล้วย้ายไปอยู่ที่บ้านแม่ของคุณกันดีไหม อย่างน้อยเราจะได้มีเงินเหลือไปตั้งตัวอยู่บ้าง” โจเซฟบอกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะเขาคิดว่าไม่มีทางไหนดีกว่านี้แล้ว
พอพิชชาภาได้ยินเธอก็เดินกลับขึ้นไปบนห้องทันที ก่อนจะรีบหาเช็คเงินสดที่ฟรานติโน่ให้เธอมาเมื่อหลายวันก่อนลงไปหาน้าทั้งสอง
“พิมว่าก็ดีเหมือนกันค่ะ ไปเปิดร้านนวดอยู่ที่เชียงใหม่ก็น่าจะได้ ส่วนเรื่องเรียนต่อของยัยพลอย พิมจะคุยกับลูกให้แกเรียนมหาลัยที่นี่เองค่ะ เพราะถึงยัยพิชจะช่วยอีกคน แต่ยัยพลอยเรียนตั้งสี่ปีเราจะหาเงินที่ไหนมาส่งแกกันคะ เฮ้อ” พิริมาพูดบอกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะเธอก็ไม่อยากทำลายความฝันของลูกสาว แต่ในเมื่อตอนนี้ครอบครัวกำลังมีปัญหาลูกสาวของเธอก็คงจะเข้าใจ
“งั้นเดี๋ยวผมจะไปลงประกาศขายบ้านเราก็แล้วกัน ส่วนคุณก็ไปคุยกับลูกนะ”โจเซฟเอ่ยพูดก็เอามือตบไหล่ของภรรยาสาวเลาๆก่อนจะยิ้มบางๆให้
“น้าโจน้าพิม ไม่ต้องขายบ้านแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้พิชหาเงินมาใช้หนี้ให้น้าโจกับน้าพิมได้แล้วนะคะ แล้วยัยพลอยก็จะได้ไปเรียนเมืองนอกเหมือนเดิม” พิชชาภาเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยพูดไปด้วยใบหน้าเก้ๆกังๆ ก่อนจะส่งเชคเงินสดสิบล้านบาทให้ทั้งสองคนดู
“เราไปเอาเงินตั้งมากมายขนาดนี้มาจากไหนกันยัยพิช บอกน้ามานะ” พิริมามองเชคเงินสดในมืออย่างอึ้งๆ เพราะเธอยังหาเงินจำนวนนี้มาไม่ได้ แล้วหลานสาวของเธอไปหามาจากที่ไหนกัน
“คือพิช อ่อ พิชยืมต้นกับยัยแป้งมาน่ะค่ะ สองคนนั้นรวมเงินกันเพื่อช่วยพิชน่ะค่ะน้าพิม” พิชชาภาโกหกออกไปก็หลบสายตาของทั้งสองที่กำลังจ้องมาที่เธอ
“อย่าโกหกน้านะพิช น้าเลี้ยงเรามาจนโต ทำไมน้าจะดูไม่ออกว่าเรากำลังโกหกน้าอยู่” พิริมาเอ่ยไปด้วยเสียงจริงจัง พร้อมกับจ้องหลานสาวอย่างคาดโทษ
“เชคใบนี้มันเขียนด้วยลายเซ็นของคนคนเดียว มันจะกลายเป็นของต้นกับแป้งได้ยังไง บอกมาว่าเราไปเอาเงินนี่มาจากไหน อย่าโกหกอีกถ้ายังเห็นน้าเป็นน้า” โจเซฟพูดไปด้วยเสียงเครียด เพราะเงินตั้งมากมายขนาดนี้ หลานสาวเขาจะไปหามาจากที่ไหน ขออย่าให้หลานสาวของเขาไปทำอะไรอย่างที่เขาคิดเลย
“น้าโจน้าพิม พิชขอขอโทษ” พิชชาภาพูดไปก็ร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันทำให้น้าทั้งสองต้องเสียใจ
“ร้องไห้ทำไมยัยพิช บอกน้าสิว่าเราร้องไห้ทำไม” พิริมาเข้าไปกอดหลานสาวที่กำลังร้องไห้อย่างไม่เข้าใจว่าทำไม ก่อนจะเครียดกว่าเดิมเมื่อหลานสาวร้องไห้ออกมา
“พิช อือๆ พิชไปขายตัวให้ไฮโซคนหนึ่งมาค่ะ อือๆ พิชไม่ได้ตั้งใจนะคะ พิชแค่อยากจะช่วยน้าโจกับน้าพิมปลดหนี้ พิชขอโทษ พิชทำให้น้าโจกับน้าพิมผิดหวังในตัวพิช อือๆ” พิชชาภาพูดไปก็ร้องไห้ไป เธอรู้ว่าน้าทั้งสองต้องโกรธเธอมากแน่ๆ แต่มันไม่มีวิธีไหนจะได้เงินรวดเร็วแบบนี้อีกแล้ว
“พิช โถ่ลูก น้าต่างหากที่ผิด น้าขอโทษที่ทำให้หนูต้องเจอเรื่องแบบนี้ น้าขอโทษนะลูก” พิริมาบอกไปก็ร้องไห้ตามหลานสาวอย่างเสียใจ เธอไม่คิดเลยว่าพิชชาภาจะหาทางออกด้วยวิธีนี้ เธอทำให้หลานสาวของตัวเองต้องเดือดร้อน เพราะเธอเอง
“น้ากับน้าพิมผิดเองที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ น้าขอโทษนะพิช น้าขอโทษ” โจเซฟพูดไปก็เข้าไปกอดหลานสาวร่วมกับภรรยา พร้อมกับน้ำตาร่วงออกมาที่เขาต้องทำให้หลานสาวต้องเสียความบริสุทธิ์ไป
“อือๆ น้าพิมกับน้าโจไม่ผิดหรอกค่ะ น้าสองคนเลี้ยงพิชมาจนโตขนาดนี้ พิชจะทนเห็นน้าโจกับน้าพิมลำบากได้ยังไงคะ รับเช็คใบนี้ไว้นะคะพิชขอ” พิชชาภาบอกไปพร้อมน้ำตาก็กอดน้าทั้งสองคนด้วยความเสียใจ
“ที่เราหายตัวไปเมื่อคืนก่อนแล้วกลับมาสภาพโทรมๆ เพราะเราไปทำแบบนี้มาใช่ไหม โธ่ยัยพิช” พิริมาพูดไปก็มองหน้าหลานสาวที่พยักหน้าตอบว่าใช่ ก่อนจะพากันไปนั่งคุยที่โซฟาอย่างจริงจัง
“ทำไมเขาถึงยอมจ่ายให้เราตั้งสิบล้าน มันมีอะไรนอกจากนี้หรือเปล่าพิช” โจเซฟเอ่ยถามออกไปด้วยสายตาอัดอั้นใจที่ไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ จนหลานสาวต้องไปขายตัวแลกเงินแบบนี้
“พิช ยอมตกลงเป็นนางบำเรอให้เขาหนึ่งเดือนค่ะ เขาก็เลยยอมจ่ายค่าตัวให้พิชมาสิบล้านค่ะ แล้ววันเสาร์นี้พิชก็ต้องไปอยู่กับเขาแล้ว” พิชชาภาพูดไปเสียงเศร้า ก่อนจะก้มน้าอย่างรู้สึกผิด
“เอาเงินไปคืนเขา น้าไม่อยากให้เราทำแบบนี้” โจเซฟพูดออกไป เพราะเขารับกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ
“ไม่ค่ะน้าโจ พิช อ่อ พิชเต็มใจที่จะทำแบบนี้จริงๆ พิชเสียตัวให้เขาไป แล้วจะเสียอีกแค่เดือนเดียวก็คงไม่เป็นไร อย่างน้อยอย่าให้สิ่งที่พิชทำครั้งนี้เสียเปล่าเลยนะคะ” พิชชาภาพูดไปก็จับมือน้าทั้งสองอย่างจริงจัง เพราะเธอทำมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอจะไม่ถอยหลังเด็ดขาด
ความจริงก่อนหน้านี้ เธอได้ปฎิเสธฟรานติโน่ไปแล้ว และเธอก็เลือกจะทำงานถ่ายโฆษณาให้กับแฟรงก์ ซึ่งเป็นเพื่อนของอารันรุ่นพี่ที่ทำงานร้านพรีเวดดิ้งด้วยกัน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าแฟรงก์นั้นเป็นน้องชายของฟรานติโน่
พอฟรานติโน่มาเห็นเธออยู่กับแฟรงก์เขาก็คิดว่าเธออ่อยจะเอาทั้งพี่ทั้งน้อง เธอบอกเขาไปเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง จนในที่สุดเธอก็ตกเป็นของเขา เธอจึงยอมรับเงินของเขามา อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เสียตัวให้เขาเชยชมแบบฟรีๆ
“แต่น้าไม่อยากให้พิชทำแบบนี้เลย น้าขอนะลูก พิชอย่าทำแบบนี้อีกเด็ดขาด” พิริมาบอกไปก็เอามือลูบผมของหลานสาวอย่างเอ็นดู
“ค่ะ แต่น้าโจกับน้าพิมรับเชคใบนี้ไว้นะคะ ส่วนเรื่องเรียนต่อของยัยพลอย น้าโจกับน้าพิมก็จัดการต่อได้เลยนะคะ อย่างน้อยเราก็ไม่มีหนี้แล้ว พิชว่าน้าสองคนก็คงจะพอไหว พิชก็จะช่วยอีกแรงนะคะ” พิชชาภาพูดไปก็ยิ้มทั้งน้ำตาแล้วเข้าไปกอดน้าสาว
“แล้วผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร บอกน้าได้ไหมยัยพิช เขายอมซื้อตัวเราเป็นลิบล้านแบบนี้ เขาก็คงจะมีใจชอบเราบ้างใช่ไหม” โจเซฟเอ่ยถามออกไป เพราะเขาอยากจะรู้ว่าใครกันที่มันกล้าซื้อตัวหลานสาวของเขา
“เขาไม่มีทางชอบพิชหรอกค่ะน้าโจ เขาชื่อคุณฟรานติโน่ สุริยสิงห์ค่ะน้าโจ น้าไม่ต้องกลัวว่าเขาจะทำอะไรพิชนะคะ เพราะเขาเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เขาคงไม่มาอะไรกับคนแบบพิชหรอกค่ะ” พิชชาภาบอกไปก็หลบสายตา เพราะเธอเองก็รู้สึกดีกับชายหนุ่มไม่น้อย เพราะถึงเขาจะปากร้ายแต่เขาก็ยังห่วงใยเธออยู่บ้าง
