บทที่ 9 คิดในใจ

จากนั้น ฉากกั้นก็นำมาวางไว้ โดยที่ซ่างเป่าเหลียนให้สาวใช้ทั้งสองคน ช่วยนางในการดูแลไป๋ฮูหยิน และอีกฝ่ายค่อยๆ ได้สติกับคืน เมื่อซ่างเป่าเหลียนยื่นก้านสำลีที่มีแอมโมเนียให้ แล้วสั่งสิงตู้เหยานำไปอยู่ใกล้ๆ จมูกของรั่วจิ้ง

“สิ่งนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้คนได้สติ ใช้สำหรับภายนอก ให้มันอยู่ห่างจากจมูกสักหนึ่งคืบ แล้วส่ายไปมาช้าๆ”

สาวใช้เป็นคนฉลาด มีไหวพริบ ออกคำสั่งเพียงครั้งเดียว และทำให้ดู มือเล็กๆ ของนางก็เคลื่อนไหวก้านสำลีไปมาที่บริเวณรูจมูกรั่วจิ้ง

“บ่าวทำถูกใช่หรือไม่เจ้าคะ ว่าแต่กลิ่นของมัน ทำให้ตาสว่างมาก บะ บ่าวขนลุกเลย เกิดมาไม่เคยรู้ว่า มีสมุนไพรสกัดเช่นนี้ด้วย”

“ของพวกนี้ ข้าจัดเตรียมไว้ใช้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น มีมูลค่าสูงมากนัก อีกอย่างต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

ฝ่ายรั่วจิ้งเมื่อได้กลิ่นแอมโมเนีย นางค่อยๆ ลืมตา

กระนั้นยังมีอาการวิงเวียนศีรษะอยู่บ้าง ด้วยมีสิ่งปนเปื้อนในอาหารและสาเหตุสำคัญสำคัญคือ นางตั้งครรภ์ได้สองเดือนกว่าๆ ซึ่งเรื่องนี้สามียังไม่รู้ !

เมื่อซ่างเป่าเหลียนสัมผัสมือของรั่วจิ้ง แล้วจับชีพจรอีกฝ่าย

ยามนั้น หลายสิ่งที่รั่วจิ้งกังวล และปกปิดไว้ส่งต่อมาถึงซ่างเป่าเหลียน

สตรีคนนี้ถูกวางยาพิษด้วยสารสกัดปนเปื้อน โดยคนใกล้ตัวนาง เพราะอีกฝ่ายไม่อยากให้เรื่องที่นางตั้งครรภ์ถูกเปิดเผย

ส่วนความสามารถที่เกิดขึ้นกับซ่างเป่าเหลียนนับว่าไม่ธรรมดา นางรับรู้ความคิดผู้อื่น ทั้งวินิจฉัยโรคได้ราวกับหมอเทวดา เพียงแค่จับชีพจร

ซึ่งเพื่อไม่ให้มีการแตกตื่น หรือยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่รั่วจิ้ง

อยากเก็บซ่อนเอาไว้ ซ่างเป่าเหลียนจึงบอกว่า

“พิษที่ท่านได้รับ คือสารหนู(นางอธิบายให้คนในยุคสมัยนั้นเข้าใจง่ายอย่างที่สุด)... มันถูกทาไว้ที่ถ้วย แม้ตอนนี้ฟื้นคืนสติแล้ว แต่จำเป็นต้องล้างพิษออกจากร่างกาย โดยการเจือจางให้เหลือน้อยที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ส่งผลถึงท่าน...”

ซ่างเป่าเหลียนพูดพอให้ได้ยินกันเพียงสองคน และนั่นก็มากพอที่จะสร้างความครั่นคร้ามใจต่อรั่วจิ้ง

อีกฝ่ายจับมือนางไปกุม แล้วใช้เล็บจิกอย่างจงใจ

“แม่นาง ขอบใจที่ช่วย แต่ท่านถูกผู้ใดส่งตัวมากันแน่ อีกอย่างเรื่องของข้า อย่าได้ยื่นมือเข้ามาแส่”

เล็บอีกฝ่ายคม และมันจิกที่ฝ่ามือบางของซ่างเป่าเหลียน

“ไป๋ฮูหยิน ท่านต้องล้างท้องโดยเร็ว ขับพิษที่คงค้างออกมา ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลร้ายแรงจนทำต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

ซ่างเป่าเหลียนบอก และใช้สายตาตวัดไปยังหน้าท้องของรั่วจิ้ง และนี่คือสิ่งที่นางช่วยอย่างเต็มที่แล้ว

“ทะ ท่าน...”

“เชื่อข้า และทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกของไป๋ฮูหยิน”

พูดจบ ซ่างเป่าเหลียนก็ส่งผงถ่านที่อยู่ในแคปซูลให้อีกฝ่าย และนับว่ามันมหัศจรรย์อยู่มาก ผงถ่านนั้น ไม่ได้เป็นรูปแบบเช่นโลกยุคปัจจุบัน หากของในกระเป๋านาง เมื่อถูกหยิบออกมา มันก็เปลี่ยนลักษณะใหม่ ยามนี้แคปซูลผงถ่านจึงดูคล้ายยาลูกกลอน ไม่ได้สร้างความแปลกประหลาดมากนัก

“กลืนลงท้องเสีย มันจะช่วยดูดซึมพิษที่อยู่ในร่างกายท่านได้”

รั่วจิ้งส่ายหน้า “แม่นาง เราไม่รู้จักกัน อีกอย่างแม้จะมีน้ำใจช่วยข้า แต่บ้านเมืองนี้ หมอนั้นส่วนมากเป็นบุรุษ ข้าเคยได้ยินว่ามีหมอหญิงอยู่บ้าง แต่พวกนางก็อาศัยที่สำนักนางชี ไม่ข้องเกี่ยวกับผู้อื่น แล้วตัวท่านเรา ท่าทางไม่ใช่คนธรรมดา ยื่นมือมายุ่งเรื่องของข้า ประสงค์สิ่งใดกันแน่ หรือเป็นพวกนักไสยเวทย์ คิดต้มตุ๋นข้ากับสามี และถึงขั้นวางยาทุกคนในโรงเตี๊ยมนี้”

ทำคุณบูชาโทษเป็นเช่นนี้ ซ่างเป่าเหลียนคิดในใจ

ยามนั้นหวังตัน ที่อยากจากโรงเตี๊ยมนี้เต็มทน นางจึงจับมือซ่างเป่าเหลียน แล้วบอกว่า “แม่นางเหลียน เราออกเดินทางกันเถิด น้ำใจที่ท่านมอบให้ผู้อื่น เขาหาได้ต้องการไม่ ซ้ำหลาย ยังกล้ากล่าวหาท่านอย่างไร้หลักฐาน”

ซ่างเป่าเหลียนถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก เตรียมจะก้าวจากไป ทว่าเป็นชายหนุ่มในโรงครัววิ่งร้องห่มร้องไห้เข้ามา

“ฮูหยินท่านนั้นไม่รับไมตรีจากแม่นาง แต่ข้าต้องการยาของท่าน เพื่อช่วยท่านย่า ยามนี้นางยังคลื่นไส้ ทั้งแน่นหน้าอกด้วย”

คนที่กล่าวคือเด็กในครัว เข้าพุ่งตัวมาอยู่ตรงนั้น ด้วยอาการคนเสียขวัญ

“นางอยู่ที่ใด” ซ่างเป่าเหลียนถาม

“ด้านหลังขอรับ นางเป็นคนจัดถ้วยสำหรับใช้ทำอาหาร และบอกข้าว่า มีกลิ่นแปลกๆ เลยตั้งใจทำความสะอาดอีกครั้ง ทว่าไม่ทันได้ล้างถ้วยเหล่านั้น เพียงแค่นางยกขึ้นดมกลิ่น ก็ล้มลงหัวฟาดฟื้น ข้าช่วยให้นางลุกขึ้นได้ แต่นางบอกว่า หายใจไม่ค่อยออก ตอนนี้ดูเหมือนชีพจรจะเต้นช้าลง”

เมื่อรู้ว่ามีคนต้องการความช่วยเหลือมากกว่าไป๋ฮูหยิน ฝ่ายของซ่างเป่าเหลียนก็ไม่สนใจคนผู้นั้นอีก นางรีบเข้าไปด้านหลังครัว พร้อมสั่งให้บ่าวชายโจวซ่งกันผู้อื่นไว้ด้านนอก

ยามนั้นจึงมีเพียงซ่างเป่าเหลียน หวังตัน สิงตู้เหยา แล้วก็เถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่โรงครัว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป