บทที่ 5 ท่านไม่คู่ควร

“คุณหนูจื่อรั่ว ไม่ทราบว่าเกิดเหตุใดกับเจ้านายบ่าว”

“เสี่ยวซีพลัดหลงเข้ามาด้านใน แล้วคงวิ่งพล่านไปทั่วเลยสะดุดล้มหน้าคว่ำ”

ฟ่านจื่อรั่วกล่าว และทำทีว่าเสียเวลาอยู่ตรงนี้นานแล้ว นางจึงก้าวเตรียมผละกลับเข้าไปในงานเลี้ยงที่อยู่อีกฝากฝั่งหนึ่ง แต่หวานหว่านผลุนผลันเข้ามายืนขวางไว้ พร้อมกางมือทั้งสองข้างออก

“บ่าวชั้นต่ำ กล้าดีอย่างไรถึงมาเกะกะทางเดินคุณหนูจื่อรั่ว” สาวใช้รุ่นใหญ่ของฟ่านจื่อรั่วตวาดอย่างแรง และง้างมือเตรียมตบหวานหว่าน

“คุณหนูจื่อรั่ว ต้องอธิบายให้แน่ชัดก่อน เหตุใดบนแก้มของเจ้านายบ่าว ถึงมีรอยฝ่ามือเช่นนั้น”

หวานหว่านกล่าวจบ ฝ่ายฟ่านหรันซีก็แสร้งร้องว่า

“เจ็บ... ตบ...เผียะๆ ๆ”

ฟ่านจื่อรั่วถลึงตาใส่ลูกพี่ลูกน้องตน และนางไม่ต้องการตอบคำถามใด จากนั้นก็สั่งให้คนผลักหวานหว่านอย่างแรง

“เรื่องนี้ บ่าวคงต้องแจ้งท่านแม่ทัพฟ่าน อย่างไรลูกสาวคนเล็กของเขา จะถูกผู้ใดรังแกไม่ได้”

“เฮอะ ข้าบอกว่านางล้มก็คือนางล้ม และเอาเถิดคำพูดของบ่าว กับคุณหนูลูกขุนนางระดับสี่ใครจะสำคัญกว่ากัน”

ฟ่านจื่อรั่วยกตำแหน่งของบิดาผู้เป็นถึงเจ้าดินแดนชิงซานขึ้นมาข่มขู่

หวานหว่านตัวสั่น ในความจริงนางไม่มีหลักฐานใดๆ และแก้มของเจ้านายตน อีกไม่นานจะมีแค่รอยช้ำม่วงเขียวให้เห็น ไม่ใช่เป็นรูปร่างของฝ่ามือเช่นนี้

“บ่าวจะไม่ยอมให้คุณหนูเจ็บตัวโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมแน่นอน”

หวานหว่านยืนยันเสียงหนักแน่น ในยามนั้นฟ่านจื่อรั่วหันไปมองฟ่านหรันซี ภายในใจเกิดความวิตกท่วมท้น

เรื่องในเรือนเก่าที่ปิดตายด้านหลังอารามศิลาแดง เป็นสิ่งไม่สมควรให้ผู้ใดพบ กระนั้นฟ่านจื่อรั่วก็ต้องหาทางรอดให้ตน ด้วยนางสืบรู้มาว่า อีกไม่นานคนผู้นั้นจะส่งเกี้ยวเจ้าสาวมารับตนไปเป็นสตรีข้างกายเขา แต่...ฟ่านจื่อรั่วไม่ต้องการ นางได้รับคำเตือนจากหมอดูตาบอดว่าบุรุษที่จะเป็นว่าที่สามีในอนาคต ในภายหน้าเขาจะเป็นราชาอำมหิต ฆ่าล้างตระกูลนาง และเขามีนามว่าหลี่สิงหยาง!

และในขณะที่ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใด จู่ๆ ฟ่านหรันซีก็ร้องว่า

“หิว... ข้าอยากกินเต้าหู้ ขาวๆ อวบๆ”

ฟ่านหรันซีกล่าวจบ ก็พลอยให้คนมีชนักติดหลังฟ่านจื่อรั่วทั้งอับอาย ทั้งโกรธจนอยากเข้าไปบีบคออีกฝ่ายทันที

“เต้าหู้ ข้าจะกินเต้าหู้!”

ฟ่านรั่วจื่อตัวแข็งค้างและคำพูดดังกล่าวนั้น ย้อนให้นึกถึงการเล้าโลม ในช่วงที่นางพลอดรักกับฉางหัวอี้

บัดซบ... ฟ่านหรันซี รู้เห็นสิ่งใดบ้าง


หวานหว่านเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดี อีกทั้งเจ้านายตนมีสติปัญญาบกพร่องในยามนี้ ทางออกเดียวที่นางคิดได้ ควรปกป้องอีกฝ่ายแล้วพาไปจากอารมณ์ฉุนเฉียวของฟ่านรั่วจื่อ หากนางดึงดันจะให้คนที่มีอำนาจมากกว่าตนรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างที่ตั้งใจในตอนแรก คงไม่เกิดผลดีแน่

“คุณหนูจื่อรั่ว บ่าวสมควรถูกโบย และรับลงโทษอย่างหนัก ตอนนี้คุณหนูของบ่าว หิวมากแล้ว ขอตัวก่อน”

ฟ่านจื่อรั่วพ่นลมหายใจร้อนๆ แล้วกล่าวเสียงไม่สบอารมณ์ “รีบพานางไปที่โรงครัว และหาของให้กินเสีย ดีที่สุดก็กลับจวนแม่ทัพไป”

ฟ่านจื่อรั่วแสดงความฉุนเฉียว ฝ่ายฟ่านหรันซีปิดปากเงียบ ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ทั้งในใจยามนั้นนางคิดหลายสิ่ง ประหลาดใจ ผิดหวัง มีความเศร้าอยู่ลึกๆ ชีวิตใหม่ที่ได้มีลมหายใจกลับมาอีกครั้ง เป็นเรื่องที่ว่ามีทั้งดีและร้าย และฟ่านจื่อรั่วที่เคยรู้จักก็เหมือนได้หายไปจากความทรง คนเบื้องหน้าคือสตรีร้ายกาจที่ไม่น่าเข้าใกล้

กระทั่งมาถึงโถงด้านนอก หวานหว่านก็โล่งใจ คุณหนูของนางไม่ได้งอแง หรือแสดงท่าทางแปลกๆ ให้ผู้อื่นขบขัน

“หวานหว่าน...”

เสียงใสๆ ของฟ่านหรันซีเรียกสาวใช้ และหวานหว่านมองเจ้านายตน นานแล้วที่ไม่ได้ยินเช่นนี้ ตั้งแต่ฟื้นกลับคืน ฟ่านหรันซี แค่ชี้นิ้วสั่ง แล้วร้องว่า “นี่ๆ มานี่ๆ กินๆ ๆ”

“เรียกบ่าวหรือเจ้าคะ”

ฟ่านหรันซียิ้มให้หวานหว่าน พลางนึกถึงชะตากรรมอีกฝ่ายในชาติภพก่อน หวานหว่านคนนี้ เสียสละชีวิตตนเพื่อปกป้องนาง และตายอย่างไร้ดินฝังกลบ มาชาตินี้ก็ยังจงรักภักดีไม่เปลี่ยน

“หิวไหม”แม้จะไม่อย่างแสดงละครเป็นคนปัญญานิ่ม แต่เพื่อเอาตัวรอดในช่วงนี้ นางคงต้องทำเช่นนี้ไปสักระยะเสียก่อน

“กลับไปกินที่จวนท่านแม่ทัพดีกว่าเจ้าค่ะ อีกอย่างในรถม้ามีของว่างมากมาย ลูกอม ผลไม้อบแห้ง แล้วก็แป้งทอดไส้งาดำ”

“ดี ๆ ๆ หวานหว่านเก่ง”

ได้รับคำชมเช่นนั้น หวานหว่านก็ยิ้มหน้าบาน และสาวใช้ส่งสัญญาณไปทางด้านนอก ให้คนเตรียมรถม้าพร้อมเดินทางกลับจวนแม่ทัพฟ่าน ทว่าอย่างไรก็ต้องแจ้งคุณชายรองเสียก่อน เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนพาหญิงสาวมางานเลี้ยงในวันนี้

ในขณะที่หวานหว่านมองหาคุณชายรอง หรือ ฟ่านอันเฟิง ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่รังสีอำมหิตของคนผู้หนึ่งแผ่ขยายส่งมาถึงร่างบอบบางของฟ่านหรันซี และแม้กระทั่งหวานหว่าน ก็ต้องถอยไปหลายก้าวก่อนใช้ตัวบังเจ้านายของตนไว้

บุรุษผู้นั้นร่างสูงเกินคนทั่วไป และดวงตาเหยี่ยวคมกริบ ริมฝีปากบางเฉียบราวกับคมมีด

“ฮึ นี่ก็สตรีแซ่ฟ่านอีกคนหรือ”

น้ำเสียงทุ้มๆ ติดความแหบจัดเอ่ยถาม ยามนั้นมือเท้าฟ่านหรันซีเย็นจัด ใบหน้านางพลันขาวซีด โอ้ เขาควรอยู่เมืองหลวงแคว้นต้าอู่ แล้วเหตุใดถึงมาโผล่ที่ชิงซาน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป