บทที่ 6 6

“ได้สิครับ ผู้หญิงคนนั้นเป็นนักข่าว ชื่อเทียนหอม สวัสดิโชค เป็นคนจากนิวสตาร์ครับ”

วิมลินใช้เวลาคุยกับพิพัฒน์เพียง 15 นาที จากนั้นเธอก็ยื่นธนบัตรสีเทาให้ 2 ใบ

“นี่เป็นสินน้ำใจค่ะ พรุ่งนี้ก็ไปพบฉันที่บ้านนะ ฉันจะรับคุณเข้าทำงาน”

“ขอบคุณนะครับคุณวิ ขอบคุณมาก” ยื่นมือสั่นระริกรับเงินมา ในขณะที่เธอพยักหน้า ลุกขึ้นเดินกลับไปที่รถเก๋งสีชมพูคันโปรด

ที่ให้โอกาสพิพัฒน์ทำงานด้วย เพราะเขาเป็นคนที่ไว้ใจได้ และยินดีทำทุกอย่างให้ หากมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม...เธอจะเก็บเขาไว้ใช้งานสักระยะ !

เทียนหอมตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่ ทิ้งความรู้สึกตึงเครียดไปซะ...ใช่แล้ว ชีวิตเธอยังมีค่า ไม่ใช่แค่ว่าเสียตัว 1 ครั้ง จะทำให้คุณค่าในตัวเธอลดน้อยลงไปเสียเมื่อไหร่ เธอลุกอาบน้ำ และทำกับข้าวกินอย่างง่ายๆ ตั้งใจไว้ว่าพรุ่งนี้จะออกหางานทำ

เวลาหนึ่งทุ่ม กุหลาบมาหาเธอที่ห้อง สีหน้าของครูสาวดูไม่สบายใจนัก

“ทำหน้ายังกับคนปวดอึ มีอะไรเปล่าโรส” เทียนหอมถาม พลางรินน้ำใส่แก้วเย็นๆ มาส่งให้เพื่อนที่นั่งบนโซฟาตัวเล็ก

“อิงโทรเล่าให้ฉันฟังหมดแล้วล่ะ เฮ้อ ฉันจะไม่ถามนะว่าทำไมเธอถึงปล่อยตัวปล่อยใจง่ายขนาดนั้น ฉันเคารพทุกการตัดสินใจและการกระทำของเธอ เพราะเธอเองก็บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ว่าเธอควรป้องกันไว้ก่อน”

“หือ ? ” เทียนหอมเลิกคิ้วสูง “ป้องกันอะไร”

“ป้องกันท้องไง เธอคิดดูสิ ถ้ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาโดยไม่มีพ่อ เธอเป็นสาวโสด ต้องเลี้ยงดูตามลำพัง เลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่ายเหมือนเลี้ยงลูกแมวหรอกนะ”

เทียนหอมหน้าซีด... “นั่นสิ ฉันลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลย”

“เอ้า ฉันรู้ว่าเธอคงมัวแต่คิดมากเรื่องผู้ชายคนนั้นกับเรื่องที่ตกงานอย่างกะทันหัน จนลืมนึกถึงเรื่องที่ว่าอาจจะท้องได้ ฉันเลยซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้” กุหลาบเป็นครูสอนโรงเรียนมัธยมชื่อดัง เป็นคนที่สวย แต่สวยแบบดุๆ ท่าทางจริงจังอยู่เสมอ ที่สำคัญฉลาดและมีความรอบคอบมาก

“ขอบใจนะโรส” เทียนหอมยิ้มกว้าง ก่อนรับแผงยาขนาดเล็กซึ่งบรรจุเพียง 2 เม็ดมากำไว้ในมือ

“อือ” กุหลาบพยักหน้าพลางยกแก้วน้ำขึ้นจิบ “มีอะไรก็อย่าเก็บไว้คนเดียวล่ะ ฉันเป็นห่วง”

“รู้แล้วน่า”

กุหลาบอยู่คุยกับเทียนหอมประมาณครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับ เพราะมีการบ้านเด็กๆ อีกเยอะที่ต้องไปตรวจ เมื่ออยู่ตามลำพังในห้องอีกครั้ง เทียนหอมก็กินยาคุมฉุกเฉิน ก่อนจะมองเงาสะท้อนของตัวเองที่หน้ากระจกบานใหญ่

“ฉันจะไม่คิดมากอีกต่อไปแล้ว” เธอพึมพำซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง

แต่ทว่าพอถึงตอนเช้า...เธอกลับต้องเผชิญกับคำว่า ‘ยิ่งกว่าคิดมาก’ เมื่อประตูห้องถูกทุบรัวๆ และเมื่อเธอเปิดประตูออกไปก็เจอผู้ชายสองคน รูปร่างกำยำกล้ามโต หน้าเหี้ยม เคราดก ยืนหรี่ตามอง

“คนนี้เหรอ...ที่ว่าไปยุ่งกับสามีคนอื่นน่ะ หืม...หน้าตาสวยดีนี่นา ทำไมล่ะ หาผัวเองไม่ได้สินะ พวกพี่จะเป็นผัวให้เอง เอาไหม”

เทียนหอมเบิกตากว้าง มือเย็นเฉียบ...อะไรกัน คนพวกนี้ !?

“อะ อะไรของพวกคุณ จำคนผิดหรือเปล่า”

“ไม่ผิดหรอก ชื่อเทียนหอมใช่ไหมล่ะ ทำไมถึงไปยุ่งกับผู้ชายของคนอื่น ถ้าเธอของขาดนัก ฉันก็จะช่วยเติมเต็มให้เธอเองไง” พูดจบพวกมันก็หัวเราะจนไหล่สั่น เส้นหนวดกระดิกยิกๆ น้ำลายกระเซ็น

หญิงสาวรีบปิดประตูทันที ใจเต้นตึกตักด้วยความหวาดกลัว...อะไรกันน่ะ คำพูดคุกคามพรรค์นั้น

เธอยืนเหงื่อตก จนมั่นใจว่าพวกมันกลับไปแล้ว ถึงได้มานั่งบนโซฟา สมองคิดวุ่นวายตรองไม่ตก...จากคำพูดของพวกนั้นบ่งชัดว่ามันหมายถึงว่าเธอไปยุ่งกับนนทิวรรธน์

จะว่านนทิวรรธน์ส่งพวกนักเลงมาข่มขู่ให้เธอกลัวก็ไม่น่าใช่ ไอ้คำว่า ‘ไปยุ่งกับผู้ชายของคนอื่น , หาผัวเองไม่ได้’ มันน่าจะมาจากฝ่ายหญิงมากกว่า หรือว่าจะเป็น...วิมลิน

บ้าน่า นางเอกผู้แสนอ่อนหวานอย่างวิมลินน่ะหรือจะทำเรื่องแบบนี้ได้

แต่ก็ไม่แน่...ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะสบายใจหากคนรักของตัวเองยุ่งกับสาวอื่นหรอก ความหึงหวงมันเกิดขึ้นได้เสมอนั่นแหละ

ช่วงสาย เทียนหอมตัดสินใจไปแจ้งความที่โรงพักว่าถูกผู้ชายแปลกหน้ามาคุกคามถึงหน้าห้องพัก จากนั้นก็ไปตระเวนหางานทำ แต่ยังไม่เจองานที่เธอสามารถทำได้

ตอนบ่ายเธอซื้อข้าวกล่องกลับมาที่ห้องเช่า หวังว่าจะกินให้อิ่มท้องแล้วนอนพักสัก 1 ชั่วโมง แล้วค่อยออกไปหางานใหม่

แต่พอมาถึงอะพาร์ตเมนต์ เธอก็ต้องตกใจเมื่อป้าเจ้าของห้องพักบอกเธอว่า

“ขอโทษนะ แต่ช่วยย้ายของออกไปภายในวันนี้ได้ไหม”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป