บทที่ 1 Happy New Year!!!
.
.
.
“5”
“4”
“3”
“2”
“1!!!”
“Happy New Year!!!”
“เฮ้!!!”
หนวกหู.......
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนฟุ้บหน้าลงกับโต๊ะทรงกลมที่อยู่ภายในผับแห่งหนึ่ง จะบอกว่าเป็นหญิงสาวก็ไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก เมื่อคนๆ นี้มีรูปกายสูงโปร่ง มีกล้ามหน้าท้องเหมือนผู้ชายทั่วไป รอบตัวรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ส่งเสียงหัวเราะและแสดงความยินดีกันถ้วนหน้าให้กับปีพ.ศ. ใหม่ที่มาเยือน
มีความสุขกันเข้าไป.......
มีความสุขกันเข้าไป แม่ง!!!!
คนๆ นี้มีหน้าตาสะสวยด้วยเครื่องสำอางนอนบ่นพึมพำกับตัวเอง เส้นผมสีดำยาวไปจนถึงกลางหลัง ส่วนปลายนั้นทำไฮไลท์สีแดง สวมใส่ชุดแซนตี้สุดน่ารักกระชากใจ หากแต่บัดนี้หน้าตากลับดูไม่ได้ คราบน้ำตาเปรอะเปื้อนไปทั่วดวงหน้า มาสคาร่าดำเป็นปื้นอยู่รอบดวงตา ในขณะที่ริมฝีปากบ่นงึมงำสาปแช่งพวกคนที่มีความสุขนักหนากับเทศกาลปีใหม่
“มีความสุขจังเลยโว้ยยยยยยย” ว่าพร้อมกับผุดตัวลุกขึ้นยกแก้วทรงสวยชูขึ้นสูง ยกกระดกรวดเดียวหมดแล้ววางลงบนโต๊ะดัง ปึก! แล้วจึงกลับมานอนฟุ้บดั่งเดิม
“ฮึก ฮืออออ แม่งมีความสุขกันจัง ฮือออออ ไอ้พวกนิสัยไม่ดี!! มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ฮืออออ อีชะนีร้อยเล่ห์!!” พูดพร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้น ก่อนที่จะมีใครบางคนมาหยุดอยู่ตรงหน้า มองจ้องมาเงียบๆ ด้วยแววตาไร้อารมณ์ เรียกรั้งให้คนที่กำลังร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรให้เงยหน้าขึ้นมอง
“คุณลูกค้า ต้องการอะไรเพิ่มรึเปล่าครับ” คนที่กำลังคร่ำครวญอยู่ผุดเงยหน้าขึ้นมาทันควัน สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือพนักงานเสิร์ฟทั่วๆ ไปของสถานเริงรมย์เหล่านี้ หากแต่มีบางสิ่งที่สะกดตรึงสายตา ไม่ใช่ใบหน้าที่หล่อคมเข้ม ไม่ใช่ที่คาดผมกวางเรนเดียร์สุดน่ารักกิ๊บเก๋ ไม่ใช่เส้นผมสีดำสนิทหรือใบหน้าที่นิ่งเฉย แต่เป็นหน้าท้องที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว ต่ำลงมาอีกนิดเป็นผ้ากันเปื้อนสีดำสนิท และ..........
หมับ!!
“เชี่ย!!!”
“โห~~~” คนที่ในชุดแซนตี้สุดน่ารักร้องครางพร้อมกับการยกมือขึ้นดูโดยค้างไว้ที่ท่าเดิมไม่บิดพลิ้ว เหมือนกำลังกำรอบอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่โตจนต้องร้องครางออกมา ฉับพลัน นัยน์ตาก็เปล่งประกายแวววาวสุกใส ต่างจากรอยคราบน้ำตาและมาสคาร่าที่ไม่น่าดู ร้องออกมาเสียงดังไม่สนใจคนตรงข้ามที่กัดฟันข่มอารมณ์จนกรามขึ้นสันชัดเจน
“มาเป็นผัวพี่เถอะ!!!”
“......” คนถูกลวนลามสะกดกลั้นความอดทนไม่ให้เผลอทำอะไรที่รุนแรงลงไป กดโทสะให้อยู่ภายในอกไม่ระเบิดออกมา กำหมัดเอาไว้แน่นพยายามไม่ยกขึ้นกระแทกหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกค้า ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปทันที โดยที่มีสายตาของคนๆ หนึ่งมองตามจนลับสายตา
“เฮ้อออออ อยากได้ง้ะ” ว่าแล้วก็ทรุดตัวลงนอนฟุ้บโต๊ะอีกครั้ง แล้วเริ่มต้นร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกหน ก่นด่าถึงคนรักเก่าที่หนีหายเลิกรากันไปเพราะชะนี และคร่ำครวญถึงของใหญ่ที่อยากจะได้มาครอบครอง
.
.
.
Winner Part
“เป็นอะไรวะไอ้วิน” เจร้องถามคนที่พึ่งจะเดินเข้ามาในห้องครัวด้วยอาการหัวเสียสุดฤทธิ์ และเพราะคำถามนั้นทำให้เจ้าตัวตวัดสายตาคมดุจ้องมอง จนคนมองถึงกับสะดุ้งผงะถอยออกไปหนึ่งก้าวอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ไม่มีอะไร” พูดแล้วก็สะบัดหน้าหันไปอีกทาง วางถาดเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ ดึงเอาที่คาดผมออกจากศีรษะ โยนทิ้งไว้ใกล้ๆ กันนั้น แล้วจึงผละออก เดินไปเข้าห้องน้ำ วักน้ำล้างหน้าด้วยความไม่สบอารมณ์
ไม่เคยมีใครกล้าถึงขนาดนี้....
โอเค เขาทำงานร้านเหล้าผับบาร์ มันต้องมีบางอยู่แล้วที่จะถูกผู้หญิงหรือแม้แต่เก้งกวางลวนลามอยู่บ่อยครั้ง บางคนก็แกล้งซบ จับแขน ลูบบั้นท้าย แต่ไม่เคยเลยจะมีคนไหนที่มันกล้าจับของเขาโต้งๆ ท่ามกลางคนหมู่มากที่กำลังเฉลิมฉลองวันปีใหม่ทั่วทุกพื้นที่แบบนี้
ความโมโหคุกรุ่นอยู่ภายในจิตใจจนปรากฏออกมาทางแววตา ใบหน้าที่ติดจะนิ่งเฉยเย็นชา บัดนี้กลับกลายเป็นว่าปรากฏร่องรอยของโทสะที่แทบจะแผดเผาคนต้นเรื่องให้มอดไหม้
“น่าถีบยอดหน้าแม่ง ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้านะมึง” ปากบ่นพึมพำไป มือก็วักน้ำขึ้นล้างหน้า จากหน้าลามไปจนขึ้นถึงศีรษะ ไล่อาการหัวร้อน ทำให้เส้นผมสีดำสนิทเปียกลู่แนบกับใบหน้าคมเข้ม เจ้าตัวใช้มือเสยเส้นผมที่มีหยดน้ำเกาะพราว ให้ปัดไปทางด้านหลัง เปิดหน้าผากรับแสงสีที่สาดส่องไปทั่วบริเวณ แล้วจึงออกจากห้องน้ำ ไปทำหน้าที่ของตนอีกครั้งหลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้
ชื่อของเขาคือวิน ที่หมายถึง วินเนอร์หรือชัยชนะ หากแต่ชีวิตแม่งไม่เคยชนะอะไรเลยสักอย่าง เรียนไม่เคยได้ที่หนึ่ง มากสุดคือที่สอง แข่งดนตรีแข่งกีฬาแม่งก็ได้แต่ที่สอง ขนาดประกวดดาวเดือนของมหาลัย หวังเงินรางวัลมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแม่งก็ยังที่สอง คิดแล้วก็ได้แต่หงุดหงิด ทำให้ใบหน้ายิ่งบึ้งตึง
หากไม่ใช่เพราะแม่เขาเป็นเมียน้อย ต้องระหกระเหินเพราะเมียหลวงตามรังควานและตรอมใจตายแล้วละก็ ไอ้วินคนนี้คงไม่ได้มีชีวิตดิ้นรนแบบปากกัดตีนถีบแบบทุกวันนี้หรอก!
คิดแล้วก็ถอนหายใจ เดินผ่านโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ เสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหารตามรายการที่ได้รับ มองแขกมากหน้าหลายตามีความสุขสนุกสนานกับวันปีใหม่ ในขณะที่ตัวเองต้องทำงานงกๆ เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพและส่งตัวเองเรียน แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกเฮือก ก็ต้นทุนชีวิตมันไม่เท่ากันนี่หว่า คนจนๆ อย่างกูมันก็ต้องก้มหน้าทำงานแบบนี้แหละ
หมับ!
ในตอนที่กำลังจะเดินผ่านโต๊ะๆ หนึ่ง ก็มีมือเรียวขาวยื่นออกมาจับชายผ้ากันเปื้อนของเขาเอาไว้แน่น ทำให้ก้มหน้าลงมองเผื่อว่าแขกต้องการอะไรเพิ่ม หากแต่เมื่อก้มลงแล้ว คิ้วก็พลันกระตุกขึ้นมาอีกรอบ ในขณะที่คนๆ นั้นกระตุกเบาๆ เชิงเรียกร้องให้สนใจ
“คุณลูกค้าจะเอาอะไรครับ”
“อยากได้ผัว มีขายไหม” วินกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย เอ่ยปากตอบกลับไป
“ไม่มี” ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา ว่าแล้วก็ขยับเดินต่อ ไม่สนใจแรงดึงรั้งที่จับชายผ้าของตนเอาไว้อยู่ หากแต่....
แม่งโว้ยยยยยยยย
“จะเอาอะไรครับ” วินกัดฟันพูดสุดกำลัง เมื่อชายผ้ากันเปื้อนยังคงถูกจับทึ้งไม่ยอมปล่อย หันกลับไปพยายามส่งยิ้มที่ดูเหี้ยมเกรียมที่สุดให้ เมื่อตนก้าวเท้าออกเดินมาแล้ว อีกฝ่ายก็ควรที่จะปล่อยมือออกไม่ใช่รึไง ไม่ใช่ดึงยื้อเอาไว้จนผ้ากันเปื้อนมันหมุนกลับไปด้านหลังแบบนี้!!!
“จะเอาคนนี้” คนตรงหน้ากะพริบตาปริบๆ ทำเสียงอ่อนเสียงหวานจือปากเผยอนิดๆ อย่างยั่วยวน วินสะกดกลั้นโทสะ ดึงกระชากผ้ากันเปื้อนออกจากมือของหญิงสาวตรงหน้า หมุนตัวหันหลังกลับไม่สนใจคนไม่เต็มเต็งอีกต่อไป
“นี่!! มาเป็นผัวพี่เถอะนะ!! นี่!!” วินตบเท้าเดินจากมา มุ่งตรงกลับเข้าห้องครัว แม้ว่าเสียงโวยวายจากข้างหลังจะดังมากแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถกลบเสียงเพลงและความสนุกสนานของเทศกาลปีใหม่ให้จางหายไปได้แม้แต่น้อย…..
.
.
.
Beauty Part
“อีบิ้ว มึงจะคร่ำครวญอีกนานไหมห๊า! แค่ผู้ชายทิ้งมึงต้องร่ำร้องขนาดนี้ไหม!!”
“มึงไม่เข้าใจกู อีดิว กูแค้นนนนน ฮืออออออ”
“กูชื่อเดียร์ อิห่าน อย่าเอาชื่อจริงกูมาล้อเล่น!” หลังจากนั้นศีรษะงามๆ ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของร้านก็ถูกโบกเข้าไปเสียหนึ่งทีจนหัวสั่นสะเทือน
“อีเดียร์!! มึงทำร้ายกูววววว กูพึ่งเลิกกับมันมานะ!! มึงมันอีกะเทยใจทรามมมม อีชายไม่จริงหญิงไม่แท้ กูจะฟ้องร้องกับลุง!!”
“กูโบกเรียกสติมึงไงจ๊ะอีตี๋ เผื่อจะมีสติมีหัวคิดขึ้นมาบ้าง” คนที่ชื่อบิ้วนอนฟุ้บลงกับเคาน์เตอร์เล็กๆ ที่ด้านหน้าเป็นกระจกกว้าง ทำหน้ามุ่ยก่อนจะบ่นงึมงำออกมาอีกรอบ ในหัวสมองคิดไปถึงวันเกิดเหตุ วันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา....
“เราเลิกกันเถอะ” ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยปากพูดกับคนที่สวมใส่ชุดแซนตี้สุดน่ารักกระชากใจ เรือนผมสีดำแดงถูกถักเป็นเปียอย่างสวยงามพันรอบศีรษะ ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ติดทนนานสมกับราคาที่จ่ายไปไม่น้อย เพื่อที่จะมาร่วมฉลองวันปีใหม่ด้วยกันกับคนรัก
“ทะ ทะ ทำไมล่ะ” เสียงหวานที่ออกแหบพร่านิดๆ ถามอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก ใบหน้าเผือดสีด้วยความตื่นตกใจ
“พี่ก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรอ”
“ตะ ตะ แต่ แต่.....”
“ผมมีแฟนตัวจริงแล้วพี่”
“แล้วพี่ล่ะ! พี่ไม่ใช่แฟนแมนหรอ ฮึก!”
“พี่ก็รู้น่า ว่าผมคบพี่เพราะอะไร” หยาดน้ำตารื้นขึ้นที่ขอบตา รู้สึกแสบร้อนไปทั่วดวงตาและปลายจมูก ก่อนที่หยาดน้ำใสจะไหลรินลงมาอย่างช้าๆ มองคนที่เคยรักกันถูกควงแขนด้วยผู้หญิงอีกคน
เธอคนนี้เป็นหญิงแท้ ไม่ผิด....
ต่างจากตน.....
“แมน ฮึก” ปลายเสียงสะอื้นไห้ออกมาเบาๆ แผ่นอกสะท้านสั่นไหวด้วยความเศร้าเสียใจ มองคนที่เคยรักเดินจากไปกับใครอีกคนที่ไม่รู้ว่าไปรู้จักและคบหากันตอนไหน
“เพราะกูยังไม่ได้ตัดใช่ไหมล่ะมึงถึงไม่เอา!!! ฮึก ฮืออออออ ก็กูไม่มีนมเหมือนมันนี่ ฮือออ” คนในชุดแซนตี้ร้องตะโกนไล่หลัง หากแต่ไม่สามารถทำให้คนที่เดินจากไปหันกลับมามองได้แม้แต่น้อย ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วเริ่มต้นร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ฮือออออ กูแค่อยากมีใครสักคนที่รักกูจริง มันยากมากนักรึไง!!!” นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นหินกรวด ในขณะที่สองมือหยิบคว้า ขว้างปาหินออกไปอย่างเจ็บแค้นใจ ก่อนจะค่อยๆ ผุดตัวลุกขึ้น โซซัดโซเซเดินเข้าร้านเหล้าที่เปิดอยู่ข้างๆ เริ่มต้นเลี้ยงฉลองวันปีใหม่ที่บัดซบที่สุดในชีวิตเพียงลำพัง......
“อีบิ้วตี้ ทำใจเหอะว้า ปล่อยแม่งไปเหอะ หาใหม่เอาก็ได้” คนงามสะบัดหน้าหันไปมอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“กูไม่ได้เศร้า แต่กูแค้น” เพื่อนสาวคนสนิทส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ แล้วจึงผละไปเมื่อมีลูกค้ารายใหม่เข้ามา
ชื่อของฉันคือ บิ้วตี้ แต่แม่เรียกว่า ไอ้ตี๋ อย่างที่รู้ ชายไม่จริงหญิงไม่แท้เหมือนกันกับไอ้เดียร์ เพื่อนสาวคนสนิท จากบ้านนอกคอกนา มาเป็นสาวเมืองกรุง ทำงานเป็นสาวโรงงานบวกกับรับจ้างทั่วไปในช่วงวันหยุด เก็บหอมรอมริบทีละเล็กละน้อยบวกกับการกู้เงินจากธนาคาร จนมากพอที่จะซื้อตึกแถว 2 คูหา ขนาด 3 ชั้น เพื่อเอาไว้ตั้งตัวสร้างอาชีพ นั่นคือการเปิดร้านเสริมสวยที่ด้านล่าง ชั้น 2 และ ชั้น 3 เอาไว้ปล่อยเช่า ส่วนดาดฟ้า เอาไว้หลับนอน
และเพราะแบบนั้น... จึงมีหน้าเบ้าเดิม นมเท่าเดิม และไอ้จ้อนเหมื๊อนเดิม เรียกได้ว่าไม่ได้ทำอะไรกับร่างกายเลยสักอย่าง นอกจากการซื้อเครื่องสำอางประทินโฉมให้ตัวเอง จนมีใบหน้าที่สะสวย ไม่แพ้หญิงสาวทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าใต้เสื้อผ้าผิวบางแนบเนื้อ จะเป็นเรือนร่างของผู้ชายคนหนึ่ง........
“ที่นี่รับตัดผมชายรึเปล่าครับ?” บิ้วตี้หันไปตามเสียงนั้นก่อนจะหยุดชะงักนิ่ง มองจ้องคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย หล่อร้ายบาดใจจนน้ำเดิน และกว่าจะตั้งสติได้ ร่างกายก็ปรี่เข้าไปหาก่อนเสียแล้ว
“รับค่ะๆ รับค่ะ!” ตอบรับเสียงหนักแน่น นัยน์ตาเป็นประกายแพรวพราว ในขณะที่คนเอ่ยปากถามถึงกับผงะถอยหลัง มองจ้องด้วยความตกตะลึงนิดๆ อย่างไม่ทันรู้ตัว แขนข้างหนึ่งก็ถูกจับคว้า ดึงลากให้เข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ทำผมที่ตั้งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่
“อีบิ้ววววว ขอกูๆๆๆๆ” พอเห็นผู้หล่อก็ปรี่มาเลยนะเมิ๊งงงงงงงงง
“ไปไกลๆ นู้นไป๊” ว่าพร้อมกับใช้สะโพกของตัวเองดันเพื่อนสาวให้ขยับออก
“ขอกูไม่ได้หรอ ผู้หล่อขนาดนี้ ยกให้เพื่อนเถอะนะ”
“ไม่ได้ นี่ของกู มึงไปหาเอาข้างหน้านู้นไป๊” ว่าจบก็หันไปส่งยิ้มหวานให้กับชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยปากถามอย่างเอาอกเอาใจ
“สุดหล่อ อยากตัดทรงอะไรดีคะ ทรงอะไรก็ตัดได้หมดเลยน้าาาาา อย่าตัดใจจากพี่ก็พอ~~” วันนี้กูต้องได้!!!!
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้ากระจกนั้นเหลือบตามอง ก่อนจะเอ่ยปากตอบเสียงทุ้มต่ำคมเข้ม
“ไม่ตัดแล้ว” ว่าแล้วก็ทำท่าจะผุดตัวลุกขึ้น แต่สองมือของคนที่ยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ออกแรงกดอีกเล็กน้อย ก็สามารถบังคับให้ชายร่างโตสามารถนั่งอยู่กับที่ได้ไม่ยากเย็นนัก
“เดี๋ยวสิคะ ถ้าน้องตัดพี่จะลดราคาให้พิเศษเลยนะ” ผู้จะหนี กูต้องดักไว้ก่อน!!
พูดแล้วกะพริบตาส่งวิ้งค์ให้ไปหนึ่งที
คนมองชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ ดังนั้นแล้วบิ้วตี้จึงพาชายหนุ่มรูปงามไปสระผมล้างคราบเหงื่อไคลและคราบมันบนหนังศีรษะก่อน ชายหนุ่มเองก็ยอมนอนนิ่งๆ ให้ทำแต่โดยดี
“ผมสุขภาพดีมากเลยนะคะเนี้ย เคยทำอะไรมาบ้างไหมคะ” ถามอย่างเอาอกเอาใจ
แต่มือเว้ยมือ!!! มือมึงลูบนมเขาอยู่อีบิ๊วววววว
เดียร์ส่งสายตาวาววาบด้วยความอิจฉาริษยา มือก็ขยับดึงทึ้งกระชากผมของลูกค้าในมือจนหน้าหงายเงิบเหลือบตามอง
“.......” คนที่นอนอยู่ได้แต่กัดฟันอดทนขบกรามแน่น
“ดูสิคะ ผมนุ๊มนุ่มมาก อ๊ะ เหมือนจะเริ่มแข็งๆ แล้วนะคะเนี้ย” ว่าพร้อมกับใช้นิ้วบดขยี้ยอดอกของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกค้า จนชายหนุ่มกัดกรามกรอด
“.......”
“ถ้าหากว่าได้ทำสีสักหน่อยนะ ต้องหล่อบาดใจแน่ๆ เลย เอ สีอะไรดีน้า น้ำตาลอ่อน... น้ำตาลเข้ม... หรือชมพู๊ชมพู แอร๊ยยยยย ซี้ดดดดดด” บิ้วตี้พูดด้วยสีหน้าหื่นกระหายน้ำลายหก ส่งเสียงซี้ดซาด
อีบิ้ว มึงแน่นะว่าพูดถึงสีผมไม่ใช่สีนม!!
“.......”
“พี่อยากเห๊นนนน อยากเห็นง๊าาาา”
ความอดทนของคนที่ถูกลวนลามลดต่ำลงฮวบฮาบ ก่อนที่จะยันกายหมายลุกขึ้น ไม่ตงไม่ตัดแม่งแล้ว!!
“อ๊ะ!!! จะไปไหนคะ!!” ชายหนุ่มไม่พูดอะไร ก้าวเท้าลงจากเตียงสระผม มุ่งหมายจะเดินออกจากร้านอย่างหมดสิ้นความอดทน
“ถ้าน้องทำผมร้านพี่ พี่ลดให้ 80% เลยนะ!!!”
ตุ้บ!
เลี้ยวกลับมานอนตามเดิม.........
เจ้าของร้านกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความพออกพอใจ ในขณะที่คนเป็นลูกค้ากัดฟันกรอดๆ จนฟันแทบหัก หากไม่ติดว่ามันประหยัดค่าใช้จ่าย กูจะไม่มานอนเตียงให้อีเจ๊นี่มันลวนลามเลยแม่ง!!
บิ้วตี้ยอมเดินผละออก แล้วหยิบผ้ายางกันเปียกมาคลุมให้ และมันคงจะไม่เป็นอะไรถ้าหากว่าคนที่เป็นช่างทำผมมาคลุมจากด้านบนเช่นคนปกติทั่วไป.....
หากแต่นี่แม่งปีนมาจากปลายเท้า ในท่วงท่าของนางแมวยั่วสวาท แต่สำหรับคนมองนึกว่าผีจูออน!!
คนเป็นลูกค้ายกเท้าขึ้นเตรียมยันเต็มที่ ทำให้ท่วงท่าอยู่ในขั้นวิกฤติ เมื่อใบหน้าของคนที่ปีนขึ้นเตียงมา อยู่ระหว่างของใหญ่กึ่งกลางกายพอดิบพอดี ทำให้บิ้วตี้มองด้วยความตาวาว ในขณะที่ลูกค้าผู้โชคร้ายชะงักแสดงสีหน้าซีดเผือด
“หู๋วววววววว” เสียงครางเบาๆ นั้นทำให้คนถูกลวนลามตัวสั่น ทั้งหวาดกลัวทั้งโมโห ยกเท้าขึ้นสูงเตรียมยันอีกหน หากแต่อีกฝ่ายกลับส่งเสียงขึ้นมาก่อน
“อะๆๆ ยันมาเจ๊กัดนะคะสุดหล่อ~~~”
กึก!
“ออกไป” กัดฟันพูดขั้นสุด
“บอกพี่มาก่อนสิคะ ชื่ออะไรหรอ~~”
“.......”
“ตกลงชื่ออะไรจ๊ะสุดหล่อ~~” ถามพร้อมกับทำหน้าหื่นกระหาย จนหน้าแทบจะมุดเข้าไปหาเป้าตุงๆ อยู่แล้ว
“.......”
“ชื่ออะไรคะ หืม หื้มมมมม” ลากเสียงยาวไม่พอ ยังทำจมูกฟุดฟิด แอบสูดดมกลิ่นกายบุรุษเพศอย่างพลั้งเผลอ
ฮ้าาาาาา ฉดฉื้นนนนนนนน
นั่นๆๆๆๆๆ อิจฉากูละสิอีดิ๊ววววววว
“วิน” กัดฟันแน่น เส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ
“หืมมมม น้องวิน~~~~~ คิกคิก น่ารักดีน้า” บิ้วตี้พูดพร้อมกับหัวเราะไปพลาง ยอมผละออกจากเป้าใหญ่ๆ ตุงๆ ของคนเป็นลูกค้า วินกลั้นลมหายใจมองจ้องเขม็ง แล้วก็ยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีก
แทนที่มึงจะขยับออก มึงจะขยับขึ้นมาทำไม!!!
วินได้แต่ตะโกนดังลั่นอยู่ในใจ ขณะที่สายตาคมกริบมองจ้องคนที่ขยับตัวคลานเข้ามาหา ใช้สองมือโอบรอบลำคอแกร่ง ทำท่าทางเหมือนจะเข้ามาติดผ้ายางให้ จึงดูเหมือนกับการโอบกอด และมันก็ยิ่งหนักขึ้น เมื่อคนเป็นเจ้าของร้าน พยายามเอานมแบนๆ ของตัวเอง ถูไถกับใบหน้าของวินไปมา
“ถูไถ~ ถูไถ~” เสียงพูดพึมพำข้างหู ทำให้วินหมดสิ้นความอดทนในทันที
ผึ่ง!!!!
เส้นความอดทนของวินขาดผึ่ง และทันทีที่มันขาด วินก็ทำสิ่งที่ทุกคนต้องตกตะลึงตาค้าง
โป๊ก!!!!
“อ๊ายยยยยยยยยยย!!!! แค่กๆ นุ้งวิ๊นนนนนนนนน”
“หึ!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังไปทั่วร้านเสริมสวยที่พึ่งเปิดได้ไม่นานนัก นั่นก็เพราะวินใช้เข่าของตัวเอง กระแทกกล่องดวงใจของอีเจ๊นั่นไปเต็มๆ แรง ไม่ถนอมน้ำใจกันเลยสักนิด จนทำให้คนโดนหน้าแดงหน้าเขียว นอนกุมเป้าตัวเองน้ำตาไหลพราก
หน้าตาดีซะเปล่า แต่ร่านฉิบ!!!
คิดพลางเขวี้ยงผ้ายางที่อีกคนติดเอาไว้ให้ลงพื้นอย่างไม่ไยดี หันมาชี้หน้าคนเป็นเจ้าของร้านที่กำลังนอนสะอึกสะอื้นน้ำตาไหลอยู่บนเตียง
“เจอมึงรอบหน้า กูเอามึงตายแน่!!!” ชี้หน้าคาดโทษ ทำท่าปาดคออย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะตบเท้าเดินออกจากร้านไป ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกๆ คน......
