บทที่ 2 ตอน ฉุดเจ้าสาวจากเกี้ยว/2
"นายท่าน เจ้าสาวโดนฉุดไปแล้ว !"
เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งในขบวนดังขึ้น หยวนจงเหลียงรีบขี่ม้าไปขัดขวางโจรชั่วไว้ แต่เขากลับถูกอีกฝ่ายซัดมีดสั้นเข้าใส่จนร่วงตกจากม้า ดาบในมือคนร้ายจ่อที่คอ ขณะกระชากตัวเจ้าสาวมา แล้วดึงผ้าคลุมหน้าของนางออก
"หยวนจงเหลียง เจ้าเคยแย่งชิงเจ้าสาวของพี่ชายข้า ทำลายเฉียนเอ๋อจนนางคิดสั้น วันนี้ข้าจะล้างแค้นแทนนางเอง"
ฟึบ อ๊าก !
ตวัดดาบทีเดียว คอของหยวนจงเหลียงก็ขาดกระเด็น เลือดพุ่งกระจาย สิ้นใจในทันที
หลิวซืออินตกใจจนเข่าทรุด เลือดของหยวนจงเหลียงกระเซ็นเปื้อนชุดเจ้าสาวของนาง
"เจ้าบ่าวของเจ้าตายแล้ว จะตายตามมันไป หรือตามข้ามา"
เสียงของโจรชั่วดังขึ้น หลิวซืออินหันไปมองเห็นชายร่างสูงใหญ่ใบหน้าพันทับด้วยผ้าสีดำ เห็นเพียงดวงตาคมกริบกำลังจ้องมองนาง
"อย่านะ กรี้ดดด !"
หลิวซืออินกรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่ทุกอย่างรอบกายจะดำมืด พร้อมกับอนุสติสุดท้ายของนางได้ดับลงไป
หลิวซืออินรู้สึกตัวขึ้นมาท่ามกลางความมืด พยายามขยับลุกขึ้นแต่มือถูกมัดไว้แน่น ปากกับดวงตาก็มีผ้ามัดไว้เช่นกัน นางนอนอยู่บนพื้นรู้สึกถึงการโครงเครงไปมา พยายามออกแรงดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ช่างยากเย็นเหลือเกิน ร่างกายขยับได้เล็กน้อยเพราะถูกพันธนาการไว้จนดิ้นไม่หลุด ยิ่งออกแรงยิ่งถูกเชือกที่มัดไว้บาดข้อมือจนแสบไปหมด
นางจึงนอนนิ่งๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามตั้งสติตัวเอง นึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านั้น
ภาพในความทรงจำเสี้ยวนาทีสุดท้ายก่อนสิ้นสติค่อยๆ วาบผ่านมาในหัว
"เจ้าบ่าวของเจ้าตายแล้ว จะตายตามมันไป หรือตามข้ามา"
ประโยคนี้ของเจ้าโจร ทำให้ความกลัวพุ่งวาบเข้ามา ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น
นางถูกโจร ฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว!
หลิวซืออินพยายามสงบอารมณ์ ข่มความหวาดกลัวลงทีละน้อย ท่านย่าเคยสอนว่า อย่าให้ความหวาดกลัวมาทำให้ตัวเองขลาดเขลา
หลิวซืออินสูดลมหายใจแรงๆ นิ่งเงียบเงี่ยหูฟังเสียงรอบๆ กาย
เสียงน้ำไหล... เสียงลม... พื้นโครงเครง...
นางคงถูกพาขึ้นมาบนเรือและเรือกำลังไปที่ไหนสักแห่ง...
แกร๊ก...
เสียงเปิดประตูดังแว่วมา หลิวซืออินนอนตัวแข็งทื่อ หายใจเข้าออกแผ่วเบา ความหวาดกลัวถาโถมเข้ามาอีกระรอก นางพยายามตั้งสติแม้ว่าจะกลัวมาก แต่จะหนีอย่างไร เมื่อถูกมัดมือไว้แบบนี้ ได้แต่นอนรอชะตากรรม ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แกร๊ก...
เสียงประตูปิดลง พร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เสียงฝีเท้าหยุดลงเมื่ออีกฝ่ายเดินมาหยุดใกล้ๆ เขายอบตัวลงพร้อมกับยื่นปลายนิ้วสากหนาไล้ไปมาบนแก้มนุ่ม
หลิวซืออินกลั้นหายใจ ขนลุกเกรียวด้วยความกลัวปนขยะแขยง พยายามไม่ขยับ กลัวอีกฝ่ายรู้ว่านางรู้สึกตัวแล้ว ภาพของโจรชั่วใช้ดาบฟันคอหยวนจงเหลียงยังอยู่ในหัว
ปลายนิ้วแตะไล้ไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนไปปลดผ้าที่คาดปากนางออก
“ท่าทางเจ้า ดูเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออก ใช่หรือไม่”
คนพูดดึงผ้าออกจากปากของนาง ขณะมองร่างงามในชุดเจ้าสาวสีแดงด้วยสายตาเรียบนิ่ง นางคงกลัวมากนอนตัวแข็ง อีกทั้งยังกลั้นหายใจ แกล้งเป็นสลบไม่ฟื้นอย่างนั้นหรือ...
“เจ้า...”
หลิวซืออินเลิกแกล้งนอนนิ่ง เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่านางฟื้นแล้ว
“เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าสาวคนงาม...”
คำพูดดูเหมือนเย้าหยอก แต่เสียงเขาแข็งกร้าว ทำเอาคนฟังห่อไหล่ ตัวสั่นเทาไปหมด
“เจ้าฆ่าหยวนจงเหลียงไปแล้ว เหตุใดถึงไม่ยอมปล่อยข้า”
อีกฝ่ายยังเงียบไม่ยอมตอบ ได้ยินเสียงถอนหายใจแรง พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาบีบไหล่แล้วดึงตัวนางให้ลุกขึ้นนั่ง
หลิวซืออินขยับถอยหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาไม่ยอมให้นางออกห่างบีบไหล่ไว้แน่น แรงบีบทำให้นางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย... ข้าเจ็บนะ”
เสียงร้องทำให้เขาคลายมือออกเล็กน้อยแต่ไม่ยอมปล่อย ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดใกล้แก้มนวล
"อย่ามาใกล้ข้า"
หลิวซืออินเบี่ยงหน้าหนีอย่างรังเกียจ นั่นดูเหมือนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ มือหนาละจากไหล่มาบีบปลายคางของนางไว้แน่น ราวกับคีมเหล็ก
“อย่าอวดดีกับข้า”
เขาเอ่ย ด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก กลิ่นลมหายใจบ่งบอกว่าเขาดื่มสุรามา และคงเมามายมิใช่น้อย
“ข้าไม่เคยทำผิดอันใดต่อเจ้า อย่าทำอะไรข้าเลย ไว้ชีวิตข้าเถอะ”
หลิวซืออินอ้อนวอนเสียงสั่น หวังให้เขาเห็นใจ แต่ความหวังของนางก็หมดสิ้นลง เมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาหา แล้วปิดริมฝีปากนางด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวอย่างดุดัน
หลิวซืออินตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ก่อนจะเบี่ยงหน้าหนี พยายามขัดขืนดิ้นรนต่อต้าน การกระทำอันป่าเถื่อนนั้น
ยิ่งดิ้นยิ่งนางก็ถูกเขาบดขยี้ริมฝีปากหนักหน่วงขึ้น หลิวซืออินหมดแรงจวนเจียนจะขาดใจตายกับจุมพิตดุดันนั้น เขาก็ผละออกห่างให้นางได้หายใจ ไม่ทันจะโล่งอกเขาก็ประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้อ่อนโยนลง ค่อยๆ บดเคล้าอย่างนุ่มนวล คล้ายจะปลุกปั่นให้นางหัวหมุน ความรู้สึกแปลกๆ ผุดขึ้นในท้อง
