บทที่ 4 วิญญาณเฮี้ยนของขุนแสนคำ (๓)

ผีขุนแสนคำยอมปล่อยมือผีที่ยืมมือมาจนร่างที่ลอยกลางอากาศหล่นตุบลงทับกับเศษซากของศพเหล่าทหาร มันคือภาพลวงตาที่สร้างโดยพลังวิญญาณเฮี้ยนของขุนแสนคำ ยิ่งตายทั้งที่สั่งสมอาคมก็ยิ่งมีพลังและบริวารมาก ผีที่เคยจับมาเป็นบริวารสมัยยังมีชีวิต ยังคงจงรักภักดีทำงานกับเขาต่อไปแม้แต่นายของมันจะตายไปแล้วก็ตาม

ร่างระหงนั้นอยู่ในชุดรัดอกที่เปรอะเลือด นุ่งซิ่นงามที่เมื่อขยับตัว ซิ่นก็เลิกขึ้นเห็นเรียวขาขาวเนียน ผีชายฉกรรจ์ฉีกยิ้ม พลางดึงมีดที่ปักอยู่ตรงอกออกมาจนเลือดกระเซ็นเปรอะแผงอกหนาที่ลงยันต์อักขระอาคม ใช้ปลายคมดาบอาบเลือดตนเองเชยคางสาวเจ้าที่ไอค่อกแค่กด้วยแรงบีบคอทำให้ขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง

‘จงยินดีปรีดาเสียเถิด ผีเร่ร่อนที่มิรู้แม้แต่เพศแลรอวันสูบลงนรกอย่างมึง จักมีผัวเป็นผีต่างระดับที่มีกำลังวังชามากอย่างกู ดูอย่างไรมึงก็ได้ประโยชน์เห็นๆ จริงไหม’

สีหน้าของนางสาวบีที่ส่งผ่านร่างกายนางบัวงามซีดขาว เธอเข้าใจว่าเมื่อคนเราตายกลายเป็นผี ถ้าเป็นคนธรรมดาที่มีห่วงจะกลายเป็นแค่วิญญาณเร่ร่อนรอคนทำบุญส่งไปเกิด ไม่ก็นับวันรอลงนรกไปโดนลงฑัณฑ์ต่อไป ภาพที่ผีเฮี้ยนตรงหน้าที่มีพลังวังชามากมองเธอ ไม่ได้มองเธอเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่มีสิทธิ์ร้องเรียกความยุติธรรมให้ตัวเอง ไม่สนใจว่าก่อนจะกลายเป็นวิญญาณเธอคือหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ไม่ควรโดนข่มเหงอย่างทารุณมาก่อน ในเมื่อภูตผีวิญญาณในโลกหลังความตายมันไม่มีเพศ เขามองเห็นเธอเป็นแค่ดวงวิญญาณอ่อนแอที่ไม่มีแม้แต่แรงอาฆาตที่จะปกป้องตัวเองตนหนึ่งเท่านั้น

โหดร้าย... โหดร้ายมาก!

ยอนจิน ตั้งแต่นี้ฝันของฉันคือเธอ

จะกลายเป็นผีที่เอาชนะไอ้ขุนแสนคำนี่ให้ได้เลยคอยดูสิ!

“กะ... ก็ได้ ถ้าพี่ต้องการอย่างนั้น” แววตาที่สบกลับมานั้นมีแววชิงชังปนอยู่พร้อมกับอารมณ์อยากเอาชนะ ผีขุนแสนคำนึกชอบใจในความใจสู้ของวิญญาณเร่ร่อนตนนี้ เลยใช้ดาบยกร่างนางขึ้นยืน

‘งั้นไปสู่รังกระดูกของกูเสีย จักทำให้มึงมิมีหน้าไปคบหาชู้สู่ชายที่ไหนอีกเลย’

และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของอดีตนางสาวบีลูกสาวหมอผีอันดับหนึ่ง ที่กลับกลายเป็นผีเร่ร่อนที่บังเอิญย้อนภพมาเกิดใหม่ในกายหยาบของหญิงชั่วกลางชนวนยุคกรุงศรีอโยธยา ที่ต้องกลายมาเป็นทาสสวาทแบบผีๆ ให้อดีตผัวของกายหยาบคนนั้นไปโดยไม่มีทางเลือก

โคตรของโคตรซวย!

ขุนแสนคำพาหญิงสาวไปที่รังกระดูกดังว่า บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน ฝุ่นและไอควันรายล้อม ไม่ได้มีอารมณ์น่าเสพสมแบบที่พ่อผีฉกรรจ์ตรงหน้าพยายามจะหว่านล้อม (หรือบังคับ) ตรงไหน นางสาวบีที่อยู่ในร่างนางบัวงามเหลียวมองไปรอบๆ พบแต่กองกระดูกมากมายถูกดัดแปลงเป็นฟูกนอน ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าหรือสถานที่รกร้าง

คงไม่ใช่ครั้งแรกจะให้โล้สำเภากันกลางป่าช้าใช่ไหม?

เธอรู้สึกหวั่นๆ ถ้าครั้งแรกเป็นที่นี่คงได้อารมณ์ตลกร้ายไม่หยอก ประสบการณ์สุดแหวกแนวตั้งแต่เกิดมาครบยี่สิบห้าปีของสาวซิงนางหนึ่ง

พลั่ก

“กรี๊ด!!”

ไม่ต้องใช้มือตัวเองให้เปลืองแรงเปล่า ผีขุนแสนคำเหวี่ยงกายหยาบของนางบัวงามไปบนฟูกนอนด้วยมือที่มองไม่เห็น แสดงอภินิหารหายตัวมาโผล่ตรงหน้าพร้อมกับขึ้นคร่อมทับกายสาว กลิ่นคาวเลือดจากบาดแผลสมจริงยิ่งกว่าซีจีจากค่ายหนังมาเวล

นี่เขาคิดว่าตัวเองอยู่ในหนังแอ็คชั่นหรือไง?

“พร้อมตกเป็นของผีหรือไม่ น้องบัวงาม” ผีชายหนุ่มตรงหน้าเพรียกหาชื่อของเมียที่ทั้งรักทั้งชังออกมา สลับสรรพนามแทนสถานะตนเองที่ตายไปแล้วพร้อมกับหักคอกรอบแกรบหัวเราะชั่ว ถึงจิตจะไม่ใช่แต่อย่างไรกายหยาบที่คร่อมทับก็ยังเป็นหน้าค่าตาของเมียเขา ทั้งคิดถึงคะนึงหา แต่ก็คลั่งแค้นเสียเหลือเกิน

อยากจะฉีกทึ้งร่างนั้นจนขาดกระจุยกระจาย แต่ในเดียวกันก็ถวิลหาอยากถนอมกายสวยงามนี้เอาไว้

นางบัวงามถือเป็นลูกหลวงที่ขึ้นชื่อเรื่องความงาม กว่าจะเกี้ยวพาราสีมาเป็นเมียนั้น เลือดตาแทบกระเด็น จะทำลายร่ายกายที่ราวกับนางสวรรค์เร็วๆนี้ ก็คงน่าเสียดาย

“ดะ... เดี๋ยวก่อน” ฝ่ามือเล็กยกประชิดคางแกร่งเมื่อผีหนุ่มโน้มหน้ามาใกล้ กลิ่นน้ำเลือดน้ำหนองยิ่งสาดซัดซ้ำทำเอาอยากอาเจียนและไม่มีอารมณ์สวีทหวานอะไรทั้งนั้น นางสาวบีแสดงสีหน้าพะอืดพะอมออกมาอย่างปิดไม่มิด “พี่พอดับกลิ่นแผลพี่ได้ไหม เหม็นจนเน่าเลยอ่ะพี่”

“กูตายอย่างโหดเหี้ยมเลยมาเช่นนี้ หรือจักให้กูแปลงตนให้รูปงามดังเก่าเล่า”

“ถ้าพี่จะให้ฉันเสียพรหมจรรย์ ข้อแม้คือบรรยากาศก็สำคัญจ้า” อะไรคือมั่นหน้าว่าตัวเองตอนมีชีวิตรูปหล่อ? ตลกชิบ นางสาวบีหยุดเบ้หน้าไม่ได้เลย กลิ่นเลือดคาวคลุ้งยิ่งกว่า บาดแผลนั้นลึกฉกรรจ์มากจนเห็นกล้ามเนื้อสีเข้มด้านในเต้นตุบๆ อีแบบนี้ใครจะไปอีโรติกด้วยลง “อึก...! ฉันเอียนกลิ่นเลือดพี่จนจะอ้วกแล้ว”

“น่ารำคาญเสียจริง” ผีหนุ่มสะบัดหน้าออกจากร่างกายอ้อนแอ้นที่ปิดจมูกรังเกียจทำท่าจะอาเจียนออกมาให้ได้ชวนให้หมดอารมณ์ พลางสบถเสียงต่ำอย่างหงุดหงิด เขาบริกรรมคาถา พึมพำขมุกขมัวให้รอยแผลฉกรรจ์หายไป แปลงกายลวงตาเป็นผีหนุ่มรูปงามดังที่ปากเคยว่า พอไม่มีแผลโหดๆ ก็คือชายกำยำหน้าตาดีผู้หนึ่งนี่เอง

แบบนี้ค่อยเป็นผู้เป็นคนขึ้นหน่อย

หล่อจริงว่ะ ผัวหล่อล่ำขนาดนี้นางบัวงามนอกใจได้ลงได้ยังไงกันนะ เป็นอีบีนะจะรวบเช้าเหมาเย็น เอาให้ไม่มีเวลาได้ออกไปสู้รบปรบมือที่ไหนเลย

“โอเคจ้ะ ลุคนี้ดี” ว่าพลางล้มตัวทอดกายลงนอนที่เดิม ไม่รู้สึกอยากอาเจียนอีกต่อไปแล้วเพราะพอพ่อผีเฮี้ยนแปลงกายมาหล่อกลิ่นเลือดกลิ่นน้ำหนองก็หายไป อย่างไรอายุอานามก็ปาไปยี่สิบห้าแต่ยังไม่มีผัว ถึงเสียตัวให้ผีแต่ถ้าผีมันหล่อ ใครจะปฏิเสธได้ลง

ยังไงมันก็ผีเหมือนๆ กัน เธอเองก็ตายไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ฉันพร้อมแล้วจ้ะ เริ่มเลยไหม... อึก!” ผีขุนแสนคำไม่พูดพร่ำทำเพลงหรือรอพิธีรีตอง เขาโถมตัวเข้าใส่ร่างกายของนางบัวงามทันที ซุกไซร้อย่างรุนแรงตามซอกคอขาวจนหญิงสาวรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียวซ่าน ก็เล่นทั้งกัดทั้งขบทั้งเคล้น ดุดันไม่เบามือกันเลยสักนิด

ผู้ชายสมัยก่อนมันป่าเถื่อนขนาดนี้เลยเหรอ

แต่ชอบนะ เอาอีก!

“อื้อ! จะ... เจ็บนะ” เสียงหวานสั่นไหวเมื่อผีชายหนุ่มเริ่มฉีกทึ้งผ้ารัดอกออกอย่างเดือดดาลจนเศษผ้าบาดผิวขาวนวลจนเป็นจ้ำ หน้าอกอวบใหญ่สล้างออกมาสัมผัสอากาศภายนอก ปทุมถันสีชมพูอ่อนชูชันรับกับไรขนอ่อนที่ลุกชันเพราะความเหน็บหนาว ถึงมันจะวังเวงกลางป่าช้าแต่ก็แอบเร้าใจดี นางสาวบีรู้สึกเหมือนตัวเองได้พบประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิต

แบบแอดเวนเจอร์หน่อยๆ เซอร์ไวเวิลนิดๆ

แต่จะเรียกว่าใช้ชีวิตก็ไม่ได้เพราะเธอขิตไปในโลกเก่าแล้ว ต้องเรียกว่า ประสบการณ์ใหม่ในการใช้ร่างที่มาสิง จะถูกกว่า

เรียวปากหยักขบเม้มดูดดึงปลายถันอย่างดุเดือด หญิงสาวรู้สึกได้ถึงสัมผัสใหม่ที่แล่นแปลบมาถึงปลายสมองส่วนกลาง เธอรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียววูบวาบ เหมือนอยากจะปัสสาวะออกมาจนน้ำปริ่มนิดๆ เกร็งเท้าไปหมดเพราะเขาเล่นหน้าอกของนางบัวงามที่เชื่อมประสาทสัมผัสทุกอณูไปถึงดวงจิตในร่างด้วย

“อ๊ะ อ้า พี่อย่าดูดแรงสิ อึ๊ก!” เสียงหวานครางฮือเมื่อคนเหนือร่างไม่เคยคิดจะถนอมร่างกายอ้อนแอ้นนี้เลยสักนิด ดุดันเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังกระหายเนื้ออย่างไรอย่างนั้น

ทั้งๆ ที่เป็นแค่ผีเฮี้ยนตนหนึ่งแท้ๆ!

“นิ่งไปบัวงาม เป็นของพี่เถิดแล้วเจ้าจักมิเสียใจในภายหลัง”

ไม่เสียใจหรอกจ้าพ่อผีหล่อ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ น้อมรับด้วยความยินดี ยังไงก็ตายไปแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดปะ นางสาวบีคิดในใจอย่างอวดเก่ง พลางแอ่นอกขึ้นแล้วแหงนคอครางครืนอย่างวาบหวามเมื่อยิ่งปรามเหมือนยิ่งยุ ผีหนุ่มดูดทรวงอกสาวจนแดงแจ๋ รอบขบกัดเต็มตัว สภาพดูไม่จืดเลยทีเดียว

“อ้ะ... อื้อ พี่ผี เบา เบาหน่อย!” เมื่อถูกรุกดูดดึงปลายถัน ด้านล่างเองก็ไม่ปราณีเช่นกัน ผีหนุ่มถกผ้าซิ่นสวยลงแบบไม่ถนอมราคาซิ่นที่น่าจะแรงพอตัว ดูจากเนื้อผ้าและสีลายผ้าที่ถูกถักทออย่างประณีต เรียวขาขาวจัดเปลือยเปล่านั้นถูกจับแหกแบบไม่อายผีฟ้าหน้าไหนในป่าช้า (เสมือนจริง) แห่งนี้ ที่ถึงแม้จะไม่ใช่ร่างกายของตัวเอง แต่ท่าแหกแข้งขาชี้ฟ้าแบบนี้ ก็ทำให้นางสาวบีอายหน้าแดงก่ำจนต้องเอามือมาปิดหน้าตัวเอง

“กรี๊ด!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป