บทที่ 6 ผู้ชายจะง้อกัน

ขุนน้ำ(เล่า)

ผมยั้งปากตัวเองไม่ทันเลยถามกลับด้วยเสียง เขียวๆ ทั้งที่หัวใจพองฟูมาก เพราะทิวาเป็นฝ่ายมาขอคืนดีก่อน

คุกเข่าสิโว้ย เอาแหวนออกมาด้วย จากนั้นก็พูดหวานๆ กับกูว่า “Will you marry with me?”

ผมหลับตาพริ้ม สนุกกับความคิดพิลึกของตนเอง กระทั่งทิวากระแอมไอเตือนสติ ผมเลยทำเป็นหงุดหงิดใส่ พร้อมกัดฟันเสียงดังกรอดๆ

เพื่อนผู้หญิงอีกสองคนที่นั่งอยู่เงยหน้ามองทิวาแป๊บหนึ่ง เหมือนจะถามกันว่าแล้วชะนีสองตัวไม่เกี่ยวใช่ไหม ผู้ชายจะง้อกัน พวกฉันจะ

ได้ใส่เกียร์หมาถอย

“ก็เดินที่สวนไง มีไอศกรีมโบราณกินด้วยเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” มันบอกและยิ้มกว้าง

แม้จะดูคล้ายฝืนทำ แต่ผมยอมรับว่าน่ารักมาก ถึงในใจนั้นลิงโลดแต่ผมก็เก๊กหน้าเครียดจัดเพื่อให้สมจริง ก่อนตอบกลับ

“กูคุยงานอยู่ มึงกรุณาแหกตาดูหน่อย”

คิ้วหนาๆ ของทิวาเลิกสูง ดวงตาคมเรียวมองกีกี้กับจักจั่นอย่างขอความคิดเห็น ไม่ใช่สิ กำลังใช้สายตาขับไล่เพื่อนทั้งสองคนมากกว่า

“ขุนไปเถอะ งานนี้เอาไว้คุยวันหลังก็ได้ ยังไงก็ไม่มีใครอยากทำหรอก ขี้คร้านพอไปถึงแล้วเจองานหนักๆ ทุกคนก็หมดแรงแล้ว”

จักจั่นว่าพร้อมทำมือไล่ผมไปให้พ้นๆ เธอคงสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างจากทิวา

“อ้าว ตะกี้ยังบอกจะวางแผนให้เสร็จไง” ผมท้วงสาวๆ ทั้งสองคน

“อย่าร่ำไร”

จากคำพูดออดอ้อน และเสียงทุ้มน่าฟังกลายเป็นเสียงดุเข้มแบบออกคำสั่ง

ผมหันมองทิวาอีกแวบหนึ่ง บอกตามตรงใจเต้นแรงมาก มันวางสีหน้าขรึมก็จริง แต่มองแล้วเหมือนกำลังอ่อยผม

พอสำรวจมันอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมก็ตายสงบศพสีชมพูอยู่ตรงนั้น

ทิวาใส่ชุดได้ยั่วยวนความหื่นของผม กางเกงขาสั้นอวดช่วงขายาวกำยำ เสื้อยืดก็ไม่รู้จักใส่ตัวมันที่ใหญ่กว่านี้ นอกจากเป็นแขนกุด ยังรัด

ลำตัวจนดูเหมือนพวกซูเปอร์ฮีโร่

“เอางี้ พวกเราไม่ทำแล้วเว้ย เดี๋ยวมีผู้ชายพาไปเที่ยว”

จู่ๆ สองสาวพยักหน้าพร้อมกันราวนัดหมายไว้ และรีบเก็บข้าวของอย่างไว

“เป็นแผนพวกเธอใช่ไหม ได้...เดี๋ยวเราเอาคืนแน่” ผมเอ่ยจบก็ถอนหายใจแรงๆ หลายเฮือกให้เพื่อนผู้หญิงทั้งสองคน

เมื่อสองสาวผุดลุกจากม้านั่งไป ผมจึงลุกขึ้นยืนเผชิญหน้าทิวาและชี้มาที่ชุดของตัวเอง ผมยังใส่ชุดนักศึกษาเสียเต็มยศ ส่วนทิวาอยู่ในชุดสุดหวิว ซึ่งกำลังเรียกเลือดกำเดาของผมให้ไหลจนหมดตัว!

“มึงน่ารักแล้ว ใส่ชุดอะไรเดินเล่นก็ได้”

ผมไม่ได้หูฝาดแน่ๆ นี่ทิวามันหยอดคำหวานเป็นกับเขาด้วย

เชี่ยเอ๊ย...พูดแบบนี้ ใจกูบางไปหมดแล้ว!!

สวนสาธารณะดังกล่าว อยู่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยราวๆ ครึ่งกิโลเมตร บรรยากาศร่มรื่น ผู้คนไม่พลุกพล่านสักเท่าไหร่ ด้วยส่วนมากชอบไปอยู่ศูนย์กีฬามากกว่า

“มึงไปที่สวนนั่นบ่อยเหรอ” ผมถาม

“อื้อฮึ เวลาที่มึงไม่ชวนไปไหน กูก็ไปที่นั่นประจำ” ทิวาหวานอยู่ประเดี๋ยวก็กวนโมโหผมอีก สรุปผมเป็นคนบงการชีวิตมันใช่ไหม

เราเดินมาจนถึงจักรยาน มันเป็นจักรยานแม่บ้านคันโตพอสมควร แต่เมื่อผู้ชายตัวสูงสองคนนั่งด้วยกันจึงดูตลก และหลายคนก็มองมาด้วยสายตาแปลกๆ

“มึงอายเหรอ ลงเดินก็ได้นะ แต่กูจะปั่น” มันบอกอย่างเห็นแก่ตัวมาก

“เปล่า แค่กลัวยางแตก” ผมว่าแล้วก็หัวเราะ

“ไอ้สาด มึงว่ากูอ้วน”

“แหะๆ มึงไม่ได้อ้วน มึงหุ่นดีจะตาย แบบนี้ละสวรรค์ของสาวๆ ดูดี และรวยมาก” ผมแซวทิวา

“ขอบใจ กูรวยจริงๆ รวยมากๆ มึงก็รู้”

คำว่ารวยของมัน ออกจะสองแง่สองง่ามไปหน่อย และหากผมฟังไม่ผิด มันจงใจเปลี่ยน ร.เรือ ให้เป็น ค.ควายด้วย

เมื่อไปถึงสวนด้านใน เราก็เดินเล่นชมต้นไม้ ชมดอกไม้ไปเรื่อยเปื่อย

“ถ้าพาสาวมาเดินเล่น คงจะแฮปปี้กว่านี้” ผมเปรยเพราะรู้สึกเขินยังไงไม่รู้

“ใช่...อาทิตย์ก่อน กูได้ข่าวว่ามีรุ่นพี่กับเด็กปีหนึ่งสถาปัตย์ฯ มาจู๋จี๋กันแถวนี้ แถมมีคลิปหลุดอีกต่างหาก”

“มึงก็พูดเว่อร์ไป ใครจะมาทำเรื่องอนาจารที่นี่ โรงแรมก็มี”

ผมฟังแล้วก็ใจเต้นตึกตักแต่ปากพูดไปอีกอย่าง “ฮ่าๆ ๆ มึงไม่รู้อะไร เรื่องเอาต์ดอร์น่ะ มันช่วยทำให้ถึงจุดสุดยอดยิ่งกว่าในที่ลับๆ” ทิวาลงท้ายเสียงหนักแน่น ก่อนเดินนำหน้าผมไป

“เดี๋ยวกูวิ่งสัก 5 รอบ มึงจะถีบรถจักรยานตามมาก็ได้” มันบอกผม

“เอางั้นหรือ”

ผมไม่ค่อยเห็นด้วย แค่มองไปข้างหน้าก็รู้สึกเหนื่อย เมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อยเพราะมีเรื่องให้เครียด เรื่องบ้าบอพวกนั้นล้วนมาจากทิวานั่นแหละ

สุดท้ายผมเลยเลือกปั่นจักรยานตามก้นของทิวาไป

แน่นอนว่าผมไม่ได้บ้าผู้ชาย แต่ก้นแน่นๆ ที่อยู่ตรงหน้าใต้ร่มผ้าสีดำมันวาวช่างดึงดูดสายตาผมเสียจริง ทิวาคงไม่รู้ตัวว่ามีเสน่ห์แค่ไหน

“เหลืออีกกี่รอบ กูไม่ไหวแล้ว”

ผมร้องโอดโอย หลังจากปั่นจักรยานขึ้นเนินและลงเนินหลายหน

“อีก 3 รอบ”

มันว่าแล้วก็บุ้ยใบ้ให้ผมไปซื้อน้ำดื่มให้ และผมทำตามอย่างว่าง่าย โดยปล่อยให้มันวิ่งออกกำลังกายให้หนำใจ

ผมซื้อน้ำเปล่าสำหรับทิวา ส่วนตัวเองเลือกอะไรที่มันซ่าๆ และเย็นๆ ก่อนหย่อนก้นผมนั่งเล่นที่ม้านั่งแถวนั้น สักพักจึงพบว่ามีสายตาใครคนหนึ่งมองมาที่ผม!!

สายตานั้นมีพลังมากพอให้ผมรู้สึกเสียวต้นคอวาบๆ ผมรีบติดกระดุมเสื้อจนถึงคอ ด้วยรู้สึกเหมือนถูกคุกคามทางเพศ และขาที่เคยนั่งอ้ากว้างพลันหุบฉับ

ใครคนนั้นเหมือนรู้ตัวว่าจ้องผมนานเกินไป จึงเสมองไปทางอื่น คราวนี้ผมภาวนาให้ทิวาวิ่งมาถึงที่นี่เสียที ไม่ได้ปอดแหกกลัวถูกทำมิดี

มิร้าย แต่ผมเริ่มปวดฉี่ หากมีมันเป็นเพื่อนผมคงอุ่นใจ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป