บทที่ 10 ปลาอ้วนตัวใหม่

ตามกฎหมายของแคว้นหาน หากต้องการสู่ขอหญิงสาวจากตระกูลใด ต้องมีของกำนัลมามอบให้ ถ้าถูกปฏิเสธจะไม่สามารถเรียกร้องขอคืนได้ ดังนั้นการสู่ขอจึงเป็นเรื่องที่ทุกตระกูลต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้มีโอกาสจะลงทุนอย่างสูญเปล่าก็ตามที แต่ชาวแคว้นหานกลับมีความเชื่อว่ายิ่งให้ของล้ำค่ามากเท่าใด ก็แสดงว่าจริงใจต่อหญิงสาวมากเท่านั้น

หลังจากวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่า บ้านสกุลหลี่ก็มีแม่สื่อมาเยือนไม่ขาดสาย และแน่นอนว่าพวกนางย่อมถือของล้ำค่ามาด้วย ทำให้หลี่เค่ออารมณ์ดีติดต่อกันมาสามวันแล้ว

แรกเริ่มเดิมทีนายท่านหลี่หวังว่าจะมีผู้สนใจเป็นเจ้าบ่าวของน้องสาวประมาณห้าหกคน แต่ผู้ที่ต้องการได้หลี่จื่อเหยาไปเป็นภรรยานั้นมีมากเกินความคาดหมาย นับจากวันเกิดมารดา ก็มีแม่สื่อมาดำเนินการสู่ขอนางมากถึงยี่สิบห้าคน เช่นนี้ย่อมหมายความว่าตระกูลหลี่ได้ของล้ำค่ามากถึงยี่สิบห้าชิ้น

ช่างบรรจวบเหมาะยิ่งนัก

หลี่เค่อได้ถอนทุนคืนจากการจ้างแม่สื่อฟง รวมไปถึงค่าเครื่องประทินผิวอย่างดีสำหรับดูแลความงาม และผิวพรรณของหลี่จื่อเหยาด้วย

แม้จะฉวยโอกาสในการหาทรัพย์สินเข้าคลังของตระกูล แต่ความจริงเขาก็รักหลี่จื่อเหยามากเช่นกัน เมื่อรู้ว่านางมีใจให้มู่หรงอี้หวายจึงไม่ขัดข้อง เพราะนอกจากจะร่ำรวยแล้ว คุณชายมู่หรงก็ไม่เคยมีข่าวลือในเรื่องเสื่อมเสียแม้แต่น้อย นับเป็นโชควาสนาของน้องสาวผู้เรียบร้อยน่ารัก

ท้องฟ้ามืดลงทุกขณะ ใกล้พ้นยามอิ่ว[1] หลี่เค่อยังคงรอคอยแม่สื่อที่ตระกูลมู่หรงจะส่งมา แต่กลับมีเพียงแม่สื่อของร้านขายผ้าเข้ามาอีกเพียงหนึ่งคนเท่านั้น จวบจนเลยเวลาปิดร้านแล้ว แต่ประตูด้านหน้ายังคงเปิดอยู่เพื่อรอต้อนรับแม่สื่อจากตระกูลมู่หรง

หลี่เค่อหวังว่านางจะมาก่อนถึงยามวิกาลซึ่งไม่อนุญาตให้ใครอยู่นอกเคหสถาน ผู้นำตระกลูหลี่เริ่มนั่งไม่ติดด้วยรู้สึกกระวนกระวายใจ

ครั้นเห็นสีหน้าของผู้เป็นนายบรรดาบ่าวรับใช้ก็ไม่กล้าเข้าใกล้แม้สักคน ยิ่งเวลาล่วงเลยผ่านพ้นไปมากเท่าใดโทสะของนายท่านหลี่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะคิดไม่ถึงว่า คุณชายมู่หรงจะเป็นคนไม่รักษาคำสัญญา จนกระทั่งความเคลือบแคลงสงสัยบังเกิดขึ้นในใจ จะเป็นไปได้หรือไม่ว่ามู่หรงอี้หวายเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน จึงไม่ยอมส่งแม่สื่อมาตามนัดเช่นนี้

แต่แล้วมุมปากของหลี่เค่อก็ปรากฏรอยยิ้ม เขาเกือบลืมไปเสียสนิทว่า มีสัญญาแต่งงานอยู่ในมือ ถึงแม้จะรู้สึกเสียดายหากมู่หรงอี้หวายคิดบิดพลิ้ว แต่อย่างไรเสียเขาก็มิได้ขาดทุน หากอีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงผิดสัญญา นอกจากตระกูลหลี่จะได้ค่าปรับมหาศาลแล้ว หลี่จื่อเหยาก็ยังสามารถเลือกเจ้าบ่าวคนใหม่ได้

หลี่เค่อถอนหายใจโล่งอก ด้วยตลอดสามวันมานี้เขายังไม่ได้ปฏิเสธตระกูลใดอย่างเป็นทางการ เพียงตอบกับแม่สื่อเหล่านั้นว่าจะขอพิจารณาดูก่อน เนื่องจากมีคุณชายหลายคนเข้ามาติดต่อพร้อมกัน จึงต้องขอเวลาคัดเลือก

หากมู่หรงอี้หวายไม่เห็นว่าหลี่จื่อเหยาเหมาะสมคู่ควร ก็ยังมีบุรุษ อีกมากมายที่มีคุณสมบัติดีพอที่จะเป็นเขยตระกูลหลี่

เมื่อเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องรอ หลี่เค่อจึงสั่งบ่าวให้ปิดประตูร้าน จากนั้นก็นำของกำนัลต่างๆ ไปเก็บเข้าคลังด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข หลังจากชื่นชมจนเป็นที่พอใจแล้ว เขาก็สาวเท้ากลับไปยังห้องทำงาน

บนโต๊ะไม้สนเก่าแก่ขัดมันมีรายชื่อตระกูลเศรษฐีที่ถูกคัดแยกไว้ แล้วกองอยู่ คืนนี้หลี่เค่อตั้งใจจะพิจารณาบุรุษที่ร่ำรวยและหน้าตาหล่อเหลาเอาไว้ แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยอธิบายให้น้องสาวเข้าใจสถานการณ์อีกครั้ง หากหลี่จื่อเหยารู้ว่าไม่มีวาสนากับคุณชายมู่หรงแล้ว ก็คงจะเสียใจไม่น้อย ดังนั้นเพื่อความสบายใจของน้องสาวสุดที่รัก พรุ่งนี้เขาจะให้นางเป็นผู้เลือกเจ้าบ่าวคนใหม่ด้วยตนเองอีกครั้ง

อีกด้านหนึ่งของบ้านสกุลหลี่ หลี่จื่อเหยานั่งรอข่าวอยู่ในเรือนของตนอย่างสงบ จนกระทั่งเสี่ยวจูที่ไปสืบข่าวกลับเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก นางเดินเข้ามาใกล้นายหญิงแล้วเล่าเรื่อง ที่ทำให้หญิงสาวผู้รอคอยถึงกับชาไปทั้งใจ

ครั้นได้ฟังรายงานว่าตระกูลมู่หรงไม่ได้ส่งแม่สื่อมาตามนัดหมาย ภาพการแสดงออกว่าต้องการนางหนักหนาของมู่หรงอี้หวายก็ผ่านเข้ามาในห้วงคำนึง รวมไปถึงจุมพิตหวานล้ำตราตรึงดั่งสุราผลไม้ สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็สลายหายไปราวกับภาพฝัน

เมื่อรับรู้ว่าความหวังพังทลายไม่มีชิ้นดี ทำให้หลี่จื่อเหยามิอาจอดทนได้อีกต่อไป ดวงตาสุกใสพลันหม่นแสงลง หยาดน้ำตาเริ่มไหลริน นางสะอื้นไห้ด้วยรู้สึกทรมานและปวดร้าว

‘คุณชายมู่หรงช่างใจร้ายนัก เหตุใดท่านต้องหลอกลวงข้าด้วย’

แม้หลี่จื่อเหยาจะเสียใจมากเพียงใด แต่สุดท้ายก็ยังเกลียดเขาไม่ลงอยู่ดี เหตุเพราะนางไม่มีค่าคู่ควร ถึงแม้ตระกูลหลี่จะค้าขายมายาวนาน แต่ถ้าเทียบกับตระกูลมู่หรงก็ยังถือว่าห่างชั้นกันอยู่มาก เป็นไปได้ว่าบิดาของเขาอาจจะไม่ยอมรับสะใภ้ที่ไม่ได้รับความเห็นชอบ นี่คงเป็นเหตุผลที่ไม่มีแม่สื่อมากระมัง

หลี่จื่อเหยานั่งนิ่งทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในใจ แต่ยิ่งคิดมากเท่าใดก็ยิ่งเห็นว่าตนเองช่างโง่งม นางไม่ควรวาดฝันแต่แรก และยิ่งไม่ควรต่อว่าคุณชายมู่หรง เพราะหลี่เค่อเองก็ยังต้องการผูกสัมพันธ์กับเศรษฐีที่ร่ำรวย แล้วมีหรือที่นายท่านใหญ่มู่หรงจะไม่คิดหาสะใภ้ที่คู่ควรให้แก่บุตรชาย

สุดท้ายแล้วก็เป็นนางต่างหากที่ต่ำต้อยเกินไป

‘จริงสินะ ข้าหรือจะมีวาสนาได้แต่งเข้าตระกูลใหญ่โตเช่นนั้น ฝันกลางวัน แท้ๆ’

[1] ยามอิ่ว เวลาประมาณ 17.00-18.59 น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป