บทที่ 4 พานพบอีกครา 1

เวลาล่วงเลยจนถึงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่า หลี่เค่อหมายใช้วันเกิดครบรอบอายุห้าสิบปีของมารดาเปิดตัวหลี่จื่อเหยา เขาจัดทำเทียบเชิญส่งไปยังตระกูลผู้ดีทั้งหลาย รวมไปถึงพ่อค้าวาณิชที่มีลูกชายถึงวัยแต่งงาน เขามั่นใจว่าน้องสาวคนงามจะเป็นที่ต้องตาต้องใจบรรดาคุณชาย เหล่านั้นอย่างแน่นอน

สำหรับตระกูลหลี่นั้นถือเป็นตระกูลที่มีคนนับหน้าถือตาพอสมควร ด้วยทำการค้าภายในเมืองหลวงมายาวนาน อีกทั้งนายท่านรุ่นก่อนก็เป็นคนกว้างขวาง และมีมิตรสหายมาก ทำให้แขกเหรื่อพากันมาร่วมอวยพรให้ฮูหยินผู้เฒ่าอย่างหนาตา ซึ่งล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในแคว้นหานทั้งสิ้น

นอกจากคำอวยพร บรรดาสหายเก่าและเศรษฐีทั้งหลายต่างมอบของขวัญล้ำค่าแก่ฮูหยินผู้เฒ่าอีกด้วย หลี่เค่อตาเป็นประกายเมื่อเห็นรายการของกำนัล รู้สึกว่าคุ้มค่ายิ่งที่ลงทุนลงแรงกับวันนี้ไปมาก

อีกด้านหนึ่ง

หลี่จื่อเหยานั่งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง นัยน์ตาสีน้ำตาลมองภาพหญิงสาว งดงามที่สะท้อนอยู่ในกระจกทองเหลือง ในขณะที่สาวใช้ประจำตัวกำลังเกล้าผมเป็นทรงเมฆลอยให้อย่างใส่ใจ

นิ้วยาวสวยดุจลำเทียนวาดไล้บนรูปหน้าแผ่วเบา ก่อนจะหยิบกระดาษสีแดงในกล่องเครื่องประทินโฉมขึ้นมา ริมฝีปากรูปกระจับเม้มลงบนชาดที่แต้มอยู่ทำให้ปรากฏกลีบบุปผาสีกุหลาบเย้ายวนขึ้นทันใด

เมื่อประทินโฉมเสร็จสิ้น ดรุณีวัยแรกแย้มก็กลายร่างเป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงาม อาภรณ์สีแดงเพลิงขับเน้นให้ผิวขาวราวหิมะเด่นเป็นประกายท่ามกลางแสงจากเทียนไข

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลี่เค่อยอมจ่ายไม่อั้นเพื่อจ้างแม่สื่อผู้มีชื่อเสียงของเมืองหลวงมาดูแลอบรมน้องสาว

ทันทีที่พบหน้าฟงเซียงเซียง คุณหนูหลี่ก็ตกตะลึงในความงดงามของอีกฝ่าย

เดิมทีหลี่จื่อเหยาคิดว่า คนที่เป็นแม่สื่อจะต้องเป็นหญิงมีอายุผู้มากประสบการณ์ แต่แม่สื่อฟงนั้นยังสาว ซ้ำมีรูปโฉมงดงามยั่วยวนบุรุษเป็นอย่างยิ่ง ตรงกันข้ามผู้เป็นแม่สื่อที่มองว่าต้องยกเครื่องคุณหนูสกุลหลี่ใหม่ทั้งตัว

ถึงแม้จะมีหน้าตาสะสวยเป็นทุน แต่หลี่จื่อเหยากลับไร้ซึ่งเสน่ห์และแรงดึงดูดแบบที่สตรีพึงมีอย่างสิ้นเชิง หากต้องการหาสามีที่ดีตามที่แบบฉบับที่นายท่านหลี่สั่งการไว้แล้วล่ะก็ สภาพของหญิงสาววัยสิบหกตรงหน้านาง คงหาได้เพียงพ่อค้าวาณิชระดับธรรมดามาเป็นคู่ ยากที่ คุณชายตระกูลดีที่พบเจอหญิงงามมาแล้วมากมายจะเหลียวมอง

ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าเห็นว่าลูกชายจ้างแม่สื่อดังมาดูแลบุตรสาวแล้ว จึงสั่งสอนเน้นย้ำเพียงเรื่องการดูแลบ้านเรือนในฐานะนายหญิงให้เพิ่มเติมเท่านั้น สำหรับเรื่องอื่นๆ นางยกให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ

ฟงเซียงเซียงค่อยๆ จับคุณหนูหลี่ลอกคราบเด็กสาวกะโปโลออกไปจนสิ้น

หลี่จื่อเหยาถูกขัดสีฉวีวรรณตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ได้เรียนรู้การดูแลร่างกายให้หอมหวนแบบผู้สูงศักดิ์ รวมไปถึงอากัปกิริยาและจริตจะก้านที่ผู้หญิงควรจะมี แม่สื่อฟงสอนนางหลายอย่างเกี่ยวกับความชอบของบุรุษ ซึ่งทำให้หญิงสาววัยสิบหกปีตกอกตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็เชื่อฟังโดยดี เพราะสิ่งต่างๆ ที่แม่สื่อฟงพร่ำบอกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นสะท้อนอยู่ในร่างงามระหงยั่วยวนใจของผู้เป็นอาจารย์

เวลาผ่านไปสามเดือน

หลี่จื่อเหยาพบว่าตนเองนั้นกลายเป็นตุ๊กตากระเบื้องราคาแพงระยับไปเสียแล้ว นางแทบไม่เหลือเค้าของเด็กสาวคนเดิม

ฟงเซียงเซียงยิ้มจนแก้มปริเมื่อได้รับค่าจ้างมหาศาลรวมไปถึงคำชมไม่ขาดปากจากหลี่เค่อ นางจึงแนะนำให้เขาเลือกวันดีๆ ถือโอกาสเปิดตัวหลี่จื่อเหยาอย่างเป็นทางการ เพื่อให้บรรดาคุณชายที่ถึงวัยออกเรือนได้ยลโฉมคุณหนูหลี่ผู้งดงามเพรียบพร้อม

ซึ่งบรรจวบเหมาะกับอีกไม่นานจะถึงวันเกิดครบรอบห้าสิบปีของฮูหยินผู้เฒ่าพอดิบพอดี หลี่เค่อจึงถือโอกาสนี้ลงทุนจัดงานฉลองยิ่งใหญ่ให้มารดาเสียเลย

ถือว่ายิงเกาทัณฑ์ดอกเดียว ได้นกถึงสองตัว

เขาส่งเทียบเชิญงานเลี้ยงออกไปให้กลุ่มเป้าหมายโดยมิรั้งรอ

หลี่จื่อเหยาหันซ้ายขวา หมุนตัวเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของตนเองอีกครั้ง ก่อนจะสั่งให้เสี่ยวจูไปหยิบพิณ แล้วเดินตามนางออกไปยังบริเวณจัดงานเลี้ยง

ร่างงามระหงเยื้องกรายไปตามทางเดินที่ทอดยาว ทุกย่างก้าวมั่นคง สง่างามยิ่ง

ในที่สุดคุณหนูตระกูลหลี่ก็ปรากฏสู่สายตาแขกเหรื่อ

ทุกคนต่างจับจ้องโฉมสะคราญในชุดสีแดงเพลิงไม่วางตา บรรดาคุณชายทั้งหลายที่ติดตามบิดามาด้วย ต่างตกตะลึงรูปโฉมของคุณหนูหลี่แทบทุกคน

หลี่เค่อที่คอยเฝ้าดูสถานการณ์ยิ้มกริ่ม ชื่นชมหลี่จื่อเหยาที่สามารถสะกดสายตาผู้คนได้เพียงแค่เดินผ่าน ไม่เสียแรงที่เขาทุ่มทุนอย่างมหาศาลเพื่อจ้างแม่สื่อฟง

เมื่อทุกอย่างเป็นไปดังที่คาดการณ์เอาไว้ หลังจากนี้ก็เหลือก็เพียงเผยความประสงค์เป็นนัยๆ เวลาที่สนทนากับเหล่าเศรษฐีว่า เขากำลังคิดเรื่องหมั้นหมายให้น้องสาว แต่ยังไม่พบคนที่เหมาะสม เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

รอยยิ้มยินดีประดับอยู่บนใบหน้าหลี่เค่อตลอดเวลา เพราะดูจากสายตาราวหมาป่าหิวของคุณชายทั้งหลาย เขาก็มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากจบงาน ในวันนี้ คงมีแม่สื่อเข้าออกบ้านตระกูลหลี่เป็นว่าเล่น

คนหนึ่งกำลังสมใจ แต่อีกคนกำลังกระอักกระอ่วน

ไม่ว่าหลี่จื่อเหยาจะขยับทำอะไรก็เป็นที่จับจ้องของบรรดาหมาป่าหิวโซไปเสียทุกสิ่ง

พอมากเข้า นางก็เริ่มรู้สึกเกร็ง

ถึงแม้จะร่ำเรียนกิริยามารยาทใหม่ทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าหากเพียงหายใจก็มีชายแปลกหน้าส่งสายตาปรารถนามาให้ นางก็แทบจะทำอันใดไม่ถูกเช่นกัน

‘เห็นทีข้าต้องหลบออกไปสูดอากาศเสียหน่อย แล้วค่อยกลับมานั่งปั้นหน้า ให้พวกเขาชื่นชมต่อ’

คิดได้ดังนั้น หลี่จื่อเหยาจึงหันไปสั่งให้เสี่ยวจูยืนรอนางอยู่ตรงนี้ก่อน หากใกล้เวลาการแสดงเริ่มค่อยไปตามตนที่สวนทางด้านหลัง

เมื่อสั่งความกับสาวใช้คนสนิทเป็นที่เรียบร้อย นางก็ลุกขึ้นแล้วเดินนวยนาดจากไป บรรดาคุณชายทั้งหลายต่างทอดสายตาตามร่างอรชรไปจนลับตา

เพียงออกห่างจากงานเลี้ยงมาได้ หลี่จื่อเหยาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความรู้สึกเหมือนอึดอัดประหนึ่งขาดอากาศหายใจเมื่อครู่จางหายไปแล้ว

นางสาวเท้าเดินต่อไป แล้วหยุดยืนที่ริมสระภายในสวน ภาพดวงจันทร์สุกใสสะท้อนอยู่บนพื้นผิวอันราบเรียบให้ความรู้สึกสงบยิ่งนัก

ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น หลี่จื่อเหยาพยายามไม่คิดมากเกี่ยวกับความประสงค์ของพี่ชายและมารดา หากพวกเขาต้องการให้นางแต่งออกไปกับผู้ใด นางก็จะไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย

ทว่าในห้วงคำนึงกลับไม่สามารถสลัดภาพดวงตาสีดำดุจน้ำหมึกของชายแปลกหน้าที่ช่วยชีวิตนางไว้ได้เลย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป