บทที่ 10 10
10
“อย่าทำอะไรผมเลยครับ อย่าทำอะไรผมเลย พรุ่งนี้ผมจะไปไถ่แหวนออกมาจากโรงรับจำนำให้ครับ” ภมรร้องขอชีวิตอีกครั้งระหว่างที่ตนเองถูกลากจูง ไปที่รถยนต์ ท่ามกลางสายตาของไทยมุงที่ยืนออดูเหตุการณ์ที่หน้าห้อง หากแต่เสียงอ้อนวอนของเขาหาได้เป็นผลไม่ ในที่สุดร่างของภมรก็ถูกผลักเข้าไปนั่งในรถยนต์ โดยมีร่างของสเตฟี่กับคารอสประกบซ้ายขวากันหนี
“เพื่อนมึงขโมยแหวนของกูไปจำนำ แล้วมันเอาเงินซื้อเหล้า แต่พวกมึงก็เต็มใจกินกันนี่ เพราะฉะนั้นพวกมึงก็ต้องได้รับบทลงโทษเช่นกัน จัดการ”
ลูกน้องของคาลิเอโปทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ระดมทั้งหมัดทั้งเท้าไปที่ร่างของเพื่อนขี้ยาของภมรแทบจะนับจำนวนไม่ได้ ไม่นานร่างของพวกเขาเหล่านั้นก็ลงไปนอนกองที่พื้น กินเลือดของตัวเองที่ไหลซึมออกมาจากมุมปาก ใบหน้าและลำตัวมีรอยฟกช้ำ คาลิเอโปจัดการกับบุคคลที่สมรู้ร่วมคิดไปแล้ว ต่อไปคือหัวขโมยใจกล้าที่จะต้องถูกลงโทษหนักหนาสาหัสกว่าพวกเพื่อนๆ หลายเท่านัก
ญาดาเดินแกมวิ่งมาที่โรงแรมสกายบีชทันทีที่ทราบข่าว ขาทั้งสองข้างที่ก้าวเดินนั้นอ่อนล้าและอ่อนแรงเป็นที่สุด วินาทีแรกที่ได้ยินคำพูดของสุวิมล เธอยอมรับว่าตัวเองนั้นช็อกไปหลายวินาที จนต้นสายเรียกชื่อของเธอหลายครั้งเมื่อเธอเงียบเสียงไป จะไม่ให้เธอเกิดอาการช็อกได้อย่างไร เพราะสถานที่ที่น้องชายไปลักทรัพย์นั้นคือโรงแรมสกายบีช สถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลัง ความเจ็บปวดและความทรงจำอันเลวร้ายมากที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิง ญาดาลาออกจากโรงแรมแห่งนี้ทันทีในวันรุ่งขึ้น ไม่มีใครรู้สาเหตุที่เธอลาออกนอกจากน้ำจันทร์เพียงคนเดียวเท่านั้น และที่สำคัญโรงแรมแห่งนี้เป็นสถานที่ทำงานของภมร น้องชาย
“ทำไมมาช้าจังเปิ้ล” สุวิมลที่มายืนดักรอญาดาที่หน้าโรงแรมเอ่ยถามอย่างร้อนใจ ภมรถูกพาขึ้นไปที่ห้องพักของคาลิเอโปยี่สิบนาที แล้วไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง
“รีบสุดชีวิตแล้วนะ ว่าแต่ต้อมตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ” เธอรีบถามถึงน้องชายตัวดีทันที
“อยู่ที่ห้องวีไอพีสวีต ห้องพักของคุณคาร์ลน่ะ” ร่างทั้งร่างของญาดา แทบจะไม่ไหวติง มีเพียงทรวงอกเท่านั้นที่กระเพื่อมตามจังหวะอัตราการเต้น ของหัวใจที่เร็วถี่ ‘ห้องของคุณคาร์ล’ หมายความว่าเขาเดินทางมาที่นี่อย่างนั้นหรือ เธอรู้มาว่าห้องนี้เป็นห้องพักส่วนตัวของเขา คาลิเอโปจะผูกขาดพักได้แต่เพียงผู้เดียว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าแขกที่ถูกน้องชายลักทรัพย์ไปคือเขา ผู้ชายที่พรากความสาวและเห็นเธอเป็นเพียงเงาของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมเจ้าของทรัพย์สินนั้นต้องเป็นคาลิเอโปด้วย หมายความว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับเขาหรือนี่ เขาจะจำหญิงสาวที่ถูกเขากระชากความสาวได้หรือไม่ แล้วเธอจะทำตัวอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับเขาในเวลาและสถานการณ์เช่นนี้ หญิงสาวคิดไปต่างๆ นานา ฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว
“เปิ้ล เปิ้ล เปิ้ลเป็นอะไร” สุวิมลเรียกเพื่อนสาวหลายครั้ง เพราะเห็นญาดาเอาแต่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาราวกับว่ากำลังช็อกกับคำพูดของเธอ มันก็น่าช็อกอยู่หรอก เพราะหากเป็นเธอคงเป็นลมไปแล้ว
“ปะ เปล่าไม่มีอะไร” ญาดารีบพูดแก้ตัว
“รีบขึ้นไปดูต้อมเถอะ ป่านนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง” สุวิมลเร่งเพื่อนสาว อีกฝ่ายสูดลมหายใจเข้าปอด ก้าวเดินเข้าไปในโรงแรม ให้กำลังใจตัวเองว่าหากเธอท้อและสิ้นหวัง ไม่กล้าเผชิญหน้ากับคาลิเอโป คนที่ตกที่นั่งลำบากมากที่สุดก็คือภมร หญิงสาวได้แต่ภาวนาในใจให้เขาจำเธอไม่ได้
ญาดายืนรวบรวมกำลังใจโดยการสูดลมหายใจเข้าปอดและผ่อนออกมาอย่างช้าๆ หน้าห้องสวีตของทางโรงแรม ก่อนจะเคาะประตูให้สัญญาณบอกให้คนที่อยู่ในห้องรู้ว่ามีแขกมาเยือน แต่ทว่าเวลาผ่านไปนานหลายนาทีก็ยังไม่มีคนมาเปิด หญิงสาวยืนรออย่างใจเย็นแล้วเคาะประตูเรียกอีกครั้ง ประตูก็หาได้เปิดออกไม่ นอกจากเสียงร้องของชายคนหนึ่งที่ดังออกมานอกห้อง แม้ว่าจะไม่ดังมากแต่เธอก็จำเสียงนั้นได้ดี เสียงของภมร
“เปิดประตู เปิดประตูหน่อยค่ะ อย่าทำอะไรน้องชายฉัน เปิดประตูให้ฉันด้วยค่ะ”
มือบางทุบประตูอย่างแรงไม่กลัวว่ามือจะเจ็บ เพราะว่าตอนนี้หัวใจของคนที่เป็นพี่นั้นเจ็บยิ่งกว่า เมื่อได้ยินเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดของน้องชาย ไม่นานบานประตูห้องพักก็ถูกเปิดออก ร่างของญาดารีบแทรกเข้าไปในห้องทันที จุดมุ่งหมายที่เธอวิ่งไปคือร่างของภมรที่บัดนี้กำลังถูกฝ่าเท้าของคาลิเอโปกระแทกที่หน้าท้อง
“อย่าค่ะ อย่าทำอะไรน้องฉันเลยนะคะ” หญิงสาววิ่งมาหาร่างของน้องชายที่ใบหน้าบวมช้ำ มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากและศีรษะ นอนตัวงออยู่ที่พื้น คาลิเอโปก้มมองหญิงสาวที่เอาร่างเข้ามาขวางฝ่าเท้าของเขาเขม็ง ดวงหน้าของเธอคนนี้คุ้นตาเหลือเกิน เหมือนกับว่าเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ญาดารีบหันใบหน้าไปสนใจร่างของน้องชายแทน เพื่อหนีดวงตาคมเข้มที่จ้องมองตน
“เป็นไงบ้างต้อม ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย” ญาดาเอ่ยถามทั้งน้ำตา ไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้น้องชายทำแบบนี้ ทั้งๆ ที่เธอสั่งสอนเสมอว่าให้เลิกทำตัวลักเล็กขโมยน้อยเสียที และห้ามเด็ดขาดที่จะขโมยของของแขกในโรงแรใ เพราะทางโรงแรมจะไม่ยอมความเด็ดขาด เนื่องจากทำให้โรงแรมเสื่อมเสียชื่อเสียง
“พี่เปิ้ล พี่เปิ้ลช่วยผมด้วย ผมเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว พี่เปิ้ลต้องช่วยผมนะ”
