บทที่ 11 11
11
ภมรร้องไห้ราวกับเด็กๆ ตอนนี้เขายอมเป็นเด็กขี้อ้อนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือของคาลิเอโป มีคนเดียวที่จะช่วยเขาได้คือญาดาพี่สาวที่แสนดีเท่านั้น คาลิเอโปได้ยินชื่อเล่นของหญิงสาวตรงหน้า ความสงสัยที่มีในใจถูกเฉลยออกมาทันที ความทรงจำที่มาควบคู่กับความรู้สึกผิดที่มีต่อวรัญชิญากระแทกเข้ามาในสมอง หญิงสาวคนนี้คือญาดา ผู้หญิงที่เขาคิดว่าเป็นเงาของคนที่เขารักสุดหัวใจ
“อย่าทำอะไรน้องชายฉันเลยนะคะ ฉันขอโทษแทนต้อมด้วย เรื่องค่าเสียหายฉันจะชดใช้ให้เองค่ะ”
ญาดาพูดโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย เธอยอมรับว่าตอนนี้หัวใจทั้งดวงกำลังเต้นแรงและเร็วจนจับจังหวะไม่ได้
“รู้ไหมว่าน้องชายของเธอขโมยของอะไรของฉัน มันขโมยแหวนเพชรของแอปเปิลผู้หญิงที่ฉันรักไป มันขโมยของที่ฉันรักและหวงมากที่สุดในชีวิต เธอคิดว่าคำว่าขอโทษมันจะทำให้ฉันหายเจ็บใจเหรอ เธอคิดว่าเงินที่จะชดใช้ให้ฉันมันมีค่ามากพอสำหรับความรู้สึกทางใจที่มันสูญหายไปได้อย่างนั้นเหรอ ไม่มีอะไร มาเทียบได้หรอก นอกจากความตาย”
สองพี่น้องตกใจกับคำพูดของชายหนุ่มมาดเข้มคนนี้ยิ่งนัก หน้าตาและคำพูดของเขานั้นน่ากลัว บ่งบอกถึงความเอาจริงทำได้อย่างที่พูด
“พี่เปิ้ล พี่เปิ้ลช่วยผมด้วยนะ ผมไม่อยากตาย” ภมรกอดร่างของพี่สาวไว้แน่น ราวกับว่าญาดาคือที่พึ่งพิงสุดท้าย หญิงสาวเองทำอะไรไม่ถูก ใจเสียเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าภมรขโมยของรักของหวงของคาลิเอโป มิน่าล่ะเขาถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทำร้ายร่างกายน้องชายเธอมากขนาดนี้ แล้วจะทำอย่างไรดี หญิงสาวครุ่นคิด
“น้องชายของฉันผิดจริง แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาพิพากษาตั้งศาลเตี้ยแบบนี้ คุณเองก็ผิดที่ทำร้ายร่างกายน้องของฉัน ฉันสามารถเอาผิดคุณได้เหมือนกัน” ญาดาทำใจกล้าพูดออกไปอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ในใจหวาดกลัวราชสีห์อย่างเขายิ่งนัก คำพูดของญาดาทำให้ชายหนุ่มขี้โมโหเดือดจัด น้องชายตัวเองผิดแท้ๆ ไม่คิดจะสั่งสอนกลับมาต่อว่าเขาอีก งานนี้สองพี่น้องเจอดีแน่ รู้จักเขาน้อยไปแล้ว
“สเตฟี่ เอาไอ้หัวขโมยคนนี้ไปตัดมือมันทิ้งทั้งสองข้าง แล้วค่อยยิงที่กบาลมัน เอาให้ตายคาที่เลยนะจะได้ไม่เปลืองลูกกระสุนกู มันขโมยของที่มีค่ามากที่สุดของกูไป กูก็จะเอาชีวิตที่ไร้ค่าของมันเช่นกัน เอาตัวมันไปจัดการเดี๋ยวนี้”
คาลิเอโปสั่งงานลูกน้องเสียงดัง ดวงตาสวยหวานของญาดาขยายกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าการขโมยของแค่นี้เขาจะพิพากษาภมรให้ถึงแก่ชีวิต ไม่ได้ เธอยอมไม่ได้ เขาจะมาใช้อำนาจที่มีเหนือกว่าเธอกับน้องแบบนี้ไม่ได้ บ้านเมืองมีกฎหมายไม่ใช่กฎหมู่อย่างที่เขาทำอยู่ในขณะนี้ ถึงแม้จะกลัวอีกฝ่ายมากแค่ไหนแต่ความรักน้องก็มีมากกว่า ทำให้เธอพูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูดออกไป
“คุณคาร์ล คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ จริงอยู่น้องชายของฉันทำผิด แต่ความผิดของเขาไม่ถึงตายนะคะ กะอีกแค่แหวนของคนตายแค่วงเดียว คุณจะมาสั่งชี้เป็นชี้ตายแบบนี้ไม่ได้ คุณทำอย่างนี้ไม่ถูกนะคะ แหวนวงนั้นมีความสำคัญกับคุณมากข้อนั้นเปิ้ลรู้ ต้อมก็มีค่าสำหรับเปิ้ลเช่นกัน แต่คนเป็นมันมีค่ามากกว่าคนตายนะคะ และมีค่ามากกว่าแหวนวงนั้นด้วยซ้ำไป ถึงคุณฆ่าน้องชายฉัน แหวนวงนั้นคุณก็ต้องหาทางเอาคืนมาได้อยู่ดี แล้วน้องชายฉันล่ะ ฉันจะเอาชีวิตของเขาคืนจากใคร คุณเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างสิ คุณเปิ้ล ตายไปนานแล้วคุณสามารถร้องขอชีวิตคนที่คุณรักกลับคืนมาได้หรือเปล่า คำตอบก็คือไม่ได้ คุณมีอำนาจมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่คุณทำไม่ได้คือการเรียกให้คนรักที่ตายจากไปฟื้นขึ้นมา เพราะคุณเปิ้ลตายแล้ว ตายไปจากคุณนานแล้ว”
ญาดาลุกขึ้นพูดตะโกนใส่หน้าของอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่ดังไม่แพ้กัน สเตฟี่ที่กำลังเดินมาที่ร่างของภมรถึงกับชะงักค้างหลับตานิ่งเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังสะกิดแผลเป็นที่อยู่ในใจของเจ้านายหนุ่มให้พุพองขึ้นอีกครั้ง ไม่เพียงแต่แผลเป็นเท่านั้นที่มีเลือดไหลซึมออกมา แรงโทสะที่มี อยู่ทุกสารทิศหล่อหลอมไหลเข้าสู่ร่างกายของคาลิเอโป โดยเฉพาะหัวใจที่มีเปลวเพลิงแห่งความโกรธปะทุเดือดอยู่ เขาแสดงออกถึงความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงออกมาทางแววตาที่แสนกระด้าง มือหนาทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น แน่นเสียจนเส้นเลือดนูนออกมาตามผิวเนื้อ ญาดาเห็นแล้วขนลุกซู่ไปทั้งตัว เสียวสันหลังวาบ เธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่น่าพูดประโยคนั้นออกไปเลย แต่คงช้าเกินไปเสียแล้ว
“ว้าย!! ไม่นะ...อย่า” เธอร้องอย่างตกใจในคราแรกที่ร่างของเธอถูกมือใหญ่ผลักอย่างแรง จนร่างงามลงไปนั่งกองที่พื้น เสียงร้องต่อมานั้นดังกว่า ครั้งแรก เมื่อเขาหยิบปืนที่อยู่ที่เอวออกมา ก่อนจะใส่ที่เก็บเสียงที่ปลายกระบอกปืน เล็งไปที่ศีรษะของภมรที่พยายามวิ่งหนี แต่ไม่ทันฝ่าเท้าของคาลิเอโปที่เหยียบอยู่ที่แผงอกของภมร ปิดกั้นอิสรภาพ ก่อนหยิบยื่นความตายให้
“อย่าค่ะ...อย่าทำน้องฉัน ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ”
ญาดาพนมมือก่อน จะกราบที่เท้าของชายหนุ่มเชื้อสายอิตาเลี่ยนเลือดร้อนที่มองมาที่ร่างของเธอราวกับเศษขยะไม่มีค่า ตวัดสายตามองไปที่ภมรที่พนมมืออยู่ที่อกร้องขอชีวิตเช่นเดียวกัน คำพูดของญาดายังคงวนเวียนในสมองของเขา
“เธอบอกว่าน้องชายของเธอมีค่าสำหรับเธอมาก มีค่ามากกว่าแหวน ของฉัน มีค่ามากกว่าชีวิตของแอปเปิล ฉันก็อยากจะรู้นักว่าผู้ชายคนนี้มีค่ามากสำหรับเธอแค่ไหน ตอบฉันมาหน่อยสิว่าไอ้หัวขโมยคนนี้มีค่าสำหรับเธอมากแค่ไหน”
