บทที่ 5 5
“ก็ดีนะ ไปทำงานห่างๆ บ้าน แกจะได้ไม่โดนพ่อซ้อม” ญาดาเห็นด้วย
“นั่นก็เป็นอีกเหตุผลนึง แต่เหตุผลสำคัญคือ เงินมากกว่าที่เก่าแล้วฉันก็มีไว้ใช้ส่วนตัวด้วย”
“แล้วพ่อแกยอมเหรอ”
“ฉันอยู่บ้านหรือไม่อยู่พ่อไม่สนฉันหรอก พ่อสนแต่เงินของฉัน ฉันจะไปไหนมาไหนพ่อไม่เคยถาม ขอแค่สิ้นเดือนมีเงินให้ก็แค่นั้น” น้ำจันทร์เป็นลูกที่ทำงานงกๆ หาเงินเข้าบ้าน ทว่าคนเป็นพ่อกลับไม่สนใจ บางครั้งเธอก็อดน้อยใจพ่อไม่ได้
“ฉันว่า ฉันเลี้ยงขนมจีนแกดีกว่า ถือว่าเลี้ยงส่งแกไง”
“ไม่อ่ะ ไม่เอา ฉันอยากเลี้ยงแก อย่างที่บอกไปไงว่า แกเลี้ยงฉันหลายครั้งแล้ว ให้ฉันเลี้ยงแกบ้าง เงินฉันคงไม่หมดตูดหรอก” น้ำจันทร์ยืนตามความตั้งใจเดิม “ไม่ต้องเถียงกันแล้ว เอาตามนี้แหละ ฉันเลี้ยงแกเองเพราะถ้าแกไม่ให้ฉันเลี้ยง ฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเลี้ยงแกเมื่อไหร่ เพราะอีกนานกว่าฉันจะกลับบ้าน”
ญาดาไม่ค้าน ทั้งสองจึงพากันเดินไปยังร้านขนมจีนเปิดใหม่ ที่วันนี้มีลูกค้าค่อนข้างแน่นร้าน สองสาวเพื่อนรักกินไปคุยกันไปอย่างออกรส รอยยิ้มแห่งความสุขกระจ่างเต็มใบหน้า ความสุขที่อาจพูดได้ว่า อยู่คู่กับญาดากับน้ำจันทร์สั้นลง
<><><><><><>
“ไงวะไอ้ต้อม นึกว่ามึงจะไม่รอดซะแล้ว” มานะชายหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดปีเพื่อนสนิทของภมรพูดขึ้นก่อนที่ร่างของเพื่อนจะเดินเข้ามาสมทบในห้องเช่าของตนเอง ภมรทำหน้าเซ็งๆ กระแทกตัวลงนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวอย่างไม่สบอารมณ์
“พวกมึงดูต้นทางให้กูยังไงวะ แทนที่จะส่งสัญญาณให้รู้ก่อนล่วงหน้าว่าเจ้าหน้าที่ตามดูกูอยู่ เสือกมาบอกตอนที่กูกำลังจะเดินออกจากห้าง แล้วอย่างนี้กูจะทิ้งหลักฐานได้ยังไง” ภมรพูดอย่างหงุดหงิดใจ ของที่ตั้งใจจะลักทรัพย์ก็ไม่ได้ แถมยังถูกเจ้าหน้าที่ของห้างจับได้อีก ซ้ำร้ายยังถูกพี่สาวตัวดีบ่นอีกต่างหาก
“ก็มันจวนตัวนี่หว่า ดีนะที่พวกกูหนีออกมาได้ก่อน ยังมีของติดไม้ติดมือออกมาบ้าง ไม่งั้นไม่มีเงินไปให้เสี่ยเหลิม มันต้องส่งลูกน้องมากระทืบพวกเราจมดินแน่เลย อีกอย่างนะพี่สาวแสนสวยของมึงต้องช่วยมึงอยู่แล้วจะกลัวอะไรวะ” พวกเพื่อนๆ จอมเกเรของภมรรู้ดีว่าญาดาต้องหาทางช่วยเหลือภมรอย่างแน่นอน พวกมันจึงหนีเอาตัวรอดกันก่อนเนื่องจากพวกมันหามีญาติพี่น้องที่ไหนมาช่วยเหลือได้ไม่
“ช่างมันเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้ว แล้วนี่ของที่พวกมึงได้มาเอาไปปล่อยได้เท่าไหร่กันวะ” ภมรมองของที่กองอยู่ที่พื้น สิ่งของต่างๆ ที่ขโมยมาจากห้างสรรพสินค้านั้นแต่ละอย่างเอาไปขายต่อไม่ได้เงินตามเป้าเลยสักชิ้น
“คิดๆ ดูแล้วก็ประมาณพันห้า” มานะตอบ
“พันห้า!!...พันห้ามันยังไม่ถึงเสี้ยวที่พวกเราติดเงินไอ้เสี่ยเหลิมเลยนะเว้ย แล้วจะเอายังไงดีเนี่ย หาเงินให้มันไม่ทันกำหนด มีหวังพวกเราถูกกระทืบจมธรณีแถมยังถูกฆ่าหมกป่าแน่เลย”
ภมรพูดเองก็เสียวสันหลังไปด้วย ลูกน้องของเสี่ยเหลิมแต่ละคนมือหนักเท้าหนักดั่งช้างสาร เขายังจำทั้งมือทั้งเท้าของคนเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีว่ามันเจ็บมากแค่ไหน ตอนนี้มีหนึ่งพันห้าร้อยบาท ยังเหลืออีกสองหมื่นแปดพันห้าร้อยบาทแล้วจะไปหามาจากที่ไหน
“เอาพี่สาวมึงไปให้เสี่ยเหลิมกินก็ได้นี่หว่า สวยๆ อย่างพี่เปิ้ลคงจะชดใช้หนี้ได้ และอาจจะได้เงินติดไม้ติดมือมาเล่นยา ไปเที่ยวสาวๆ ได้อีกนะโว้ย” มานะออกความคิดเห็นอีกครั้ง ซึ่งความคิดเห็นนี้เขาบอกภมรหลายครั้งแล้ว เพียงแต่ว่าภมรยังลังเลที่จะหลอกพี่สาวไปให้เสี่ยเหลิม รอให้เขาจนตรอกสุดๆ ก่อน วิธีนี้จะเป็นวิธีสุดท้ายที่เขาจะทำ
“กูบอกแล้วไงว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีสุดท้ายที่กูจะทำ ตอนแรกกูจะขอพี่เปิ้ลดีๆ ว่ากูติดเงินเสี่ยเหลิม ไม่แน่พี่เปิ้ลอาจจะให้เงินกูไปใช้หนี้แทนก็ได้ แต่วันนี้ที่กูโดนจับพี่เปิ้ลจ่ายค่าปรับให้กูเกือบสามหมื่น เงินเก็บของพี่เปิ้ลคงไม่เหลือแล้วแหละ กูจะลองหาวิธีอื่นดูก่อนก็แล้วกัน ถ้าเผื่อไม่ได้ค่อยหลอกพี่เปิ้ลไปให้เสี่ยเหลิมมัน”
ภมรให้เหตุผลกับเพื่อนแสนชั่วที่ไม่เคยชักนำให้เขาไปในทางที่ดีเลย มีแต่ลากให้ตกต่ำ ทั้งยาเสพติด การพนัน การลักเล็กขโมยน้อยที่ตอนนี้ติดเป็นนิสัยเขาไปแล้ว
“มึงก็รีบหาทางนะโว้ย เหลือเวลาอีกสองวันเท่านั้นเอง มึงก็รีบๆ หน่อยก็แล้วกัน กูก็จะช่วยหาอีกแรงหนึ่ง แต่ไม่รู้จะได้มากน้อยแค่ไหน พักนี้ตำรวจยิ่งจ้องๆ พวกกูอยู่ด้วย”
มานะพูดเสริมพร้อมกับหันไปสนใจกับยานรกที่เพื่อนๆ กำลังเสพกันอยู่ ก่อนจะส่งมวนยาสูบที่ยัดสารเสพติดชนิดหนึ่งจุดไฟที่ปลายมวน ส่งให้ภมรที่รับมาสูบ
“จริงสิไอ้ต้อม มึงทำงานเป็นพนักงานของโรงแรมสกายบีชไม่ใช่เหรอวะ มึงก็แค่ขโมยของของคนที่เข้ามาพักในห้องที่มึงไปทำความสะอาดหรือไม่ก็ห้องอื่นๆ แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง”
อนันต์น้องชายของน้ำจันทร์ที่นั่งเสพยาอยู่เงยหน้ามาพูดกับภมรที่ตอนนี้มีใบหน้าเคลิ้มฝัน สมองที่มีแต่เรื่องชั่วๆ ของภมรบังเกิดความคิดบางอย่างที่สอดคล้องกับคำพูดของอนันต์พอดี
“เออ ใช่ ทำไมกูคิดวิธีนี้ไม่ได้วะ ถ้ากูนึกขึ้นได้ตั้งแต่แรกกูก็จะได้ไม่ต้องถูกจับด้วย ไอ้นัน มึงก็เพิ่งมาฉลาดตอนนี้นะมึง ถ้ามึงไม่พูดแผนนี้ขึ้นมา กูจะให้พี่น้ำจันทร์ไปเป็นเมียไอ้เสี่ยเหลิมพร้อมกับพี่เปิ้ลเลย สนิทกันดีนัก อยากรู้นักว่าเวลามีผัวคนเดียวกันจะรักกันเหมือนเดิมหรือเปล่า”
“ตามสบาย รำคาญพี่น้ำจันทร์เหมือนกัน บ่นได้ทุกวี่ทุกวันรำคาญฉิบหาย นี่จะไปกรุงเทพมะรืนนี้แล้ว ไปได้ก็ดี กูจะได้สบายหู มึงก็รีบๆ ไปขโมยของของลูกค้าพรุ่งนี้เลยนะโว้ย ถ้าเผื่อไม่ได้จะได้หลอกพี่สาวมึงกับพี่สาวกูไปให้ไอ้เสี่ยเหลิมมัน ต้องหลอกก่อนที่พี่น้ำจันทร์จะไปกรุงเทพ ไม่งั้นพี่สาวมึงต้องไปเป็นอีหนูของเสี่ยเหลิมคนเดียวนะโว้ย” อนันต์พูดอย่างไม่เห็นว่าน้ำจันทร์เป็นพี่สาวด้วยซ้ำ แต่เป็นตู้เอทีเอ็มไว้คอยรีดไถมากกว่า อย่างอื่นนั้นเขาหาได้สนใจไม่
“เอาตามอย่างที่มึงแนะนำกูก็แล้วกัน พรุ่งนี้มีแขกวีไอพีมาพักด้วย ได้ข่าวว่ารวยน่าดูเลย งานนี้คงได้ไม่น้อยแน่ๆ มาฉลองกันล่วงหน้าดีกว่าโว้ย” ทั้งหมดส่งเสียงร้องเฮรับคำพูดของภมร อีกคนเดินไปหยิบขวดสุราที่ยังมีเหลืออยู่รินใส่แก้วและส่งให้กับทุกคนดื่มฉลองในความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมกับเสพความสุขจากยานรกไปด้วย
