บทที่ 6 6

6

คาลิเอโปก้าวเท้าลงมาจากรถยนต์คันหรูทันทีหน้าโรงแรมสกายบีช โรงแรมสุดหรูของเพื่อนสนิทนามว่าภูริภัทร เดิมทีโรงแรมแห่งนี้ชื่อว่ารีสอร์ตสกายบีช แต่ตอนหลังแต่งเติมปลูกสร้างให้ยิ่งใหญ่ขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อนำหน้าจากรีสอร์ตมาเป็นโรงแรมสกายบีชจนถึงปัจจุบัน เขาเดินทางมาที่นี่ก่อนระยะเวลากำหนดที่จะต้องมารำลึกถึงความหลังที่ยังคงฝังแน่นในหัวใจทุกปี แต่เนื่องจากปีนี้เขามีโครงการใหญ่ที่จะทำร่วมกับภูริภัทร จึงจำเป็นต้องเดินทางมาก่อนกำหนด

“สเตฟี่ฉันอยากได้เหล้า เอาเข้าไปในห้องนอนนะ” ประโยคแรกที่คาลิเอโปเอ่ยเมื่อเข้ามาในห้องพักประจำของเขา สเตฟี่ค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นการรับคำสั่ง ก่อนจะเดินออกไปสั่งเครื่องดื่มให้เจ้านายหนุ่ม ดั่งเช่นทุกครั้งที่เจ้านายเดินทางมาที่นี่

คาลิเอโปมองไปรอบๆ ห้องอย่างสะเทือนใจ ไม่ว่าเขาจะมองไปทางไหนก็จะเห็นภาพของวรัญชิญาอยู่ตรงจุดนั้นเสมอ ทุกอิริยาบถของเธอคือความทรงจำที่ฝังแน่นไม่มีวันหลุดออกไปจากสมองของเขาได้เลย ชายหนุ่มหยิบสร้อยทองคำขาวที่มีแหวนเพชรวงหนึ่งคล้องอยู่ที่คอขั้นมาพินิจมอง ของสำคัญที่เป็นตัวแทนของวรัญชิญาที่ติดตัวเขาตลอดเวลา ไม่เคยถอดออกจากร่างกายเลยแม้แต่ครั้งเดียว คล้ายกับว่าวรัญชิญาอยู่ข้างกายเขาทุกนาที ทั้งยามหลับและยามตื่น ไม่มีใครรู้ว่าแหวนเพชรวงนี้เขาได้สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อขอหญิงสาวที่เขารักมากที่สุดแต่งงาน แต่ทว่าเขาไม่มีโอกาสได้ใช้มันเพราะผู้หญิงคนนั้นจากเขาไปตลอดกาล

ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในห้องนอนที่เขาเคยมีความสุขกับอดีตคนรักที่ตายจาก ความทรงจำ ความสุข ความรัญจวนใจก่อเกิดขึ้นทุกครั้งที่มองมายังเตียงนี้ เขาได้ใช้สิทธิพิเศษซื้อห้องพักห้องนี้แบบถาวร จะไม่มีใครมาพักที่ห้องนี้นอกจากเขา แม้ว่าจะต้องเสียเงินให้กับภูริภัทรนับสิบล้านบาทก็ตาม คาลิเอโปยอมเพื่อความทรงจำแห่งรัก

เขามาหยุดมองที่เตียงนอนสีขาวเรียบตึง ภาพของหญิงสาวบางคนซ้อนทับความทรงจำที่ยังตราตรึงเพียงเสี้ยววินาที ภาพของสตรีนางหนึ่งที่มีชื่อว่า ญาดา หญิงสาวที่เขาพร่าผลาญพรหมจรรย์เพราะการขาดสติเนื่องจากถูกพิษของแอลกอฮอล์เข้าครอบงำ เขาไม่รู้สึกผิดที่ทำลายความสาวของหญิงคนนั้น แต่รู้สึกผิดที่ตนเองทรยศต่อความรักและความซื่อสัตย์ที่ตนเองมีให้วรัญชิญาต่างหาก

“ฉันขอโทษแอปเปิล” ชายหนุ่มพูดย้ำคำนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปี นับตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้น หญิงสาวคนนั้นจากเขาไปโดยไม่รับเงินค่าความสาวของเธอ แต่กลับทิ้งป้ายชื่อไว้ให้เขาดูต่างหน้า ซึ่งชายหนุ่มเองไม่รู้ว่าเธอตั้งใจหรือว่าบังเอิญทำตก และเขาไม่อยากรับรู้ด้วย

“เบียร์มาแล้วครับ” สเตฟี่ยกถาดที่วางขวดเบียร์สองขวดที่แช่อยู่ในถังน้ำแข็งลงบนโต๊ะหัวเตียง คาลิเอโปปรายตามองเพียงนิด อารมณ์ขุ่นมัวเกิดขึ้นทันทีที่เห็นว่าของที่เขาต้องการนั้นหาใช่บรั่นดีไม่

“ฉันจำได้ว่าฉันสั่งว่า อยากได้เหล้า ไม่ใช่เบียร์” คาลิเอโปพูดเสียงเน้นหนัก

“ผมทราบครับ แต่ผมเห็นว่าพรุ่งนี้เจ้านายต้องเข้าประชุมแต่เช้า หากดื่มเหล้าเข้าไปอาจจะตื่นไม่ไหวหรือถ้าตื่นไหวอาจแฮงค์ก็ได้ ผมเลยคิดว่าดื่มเบียร์น่าจะดีกว่าครับ” สเตฟี่ให้เหตุผล ทว่าหากเขาเลือกได้ก็ไม่อยากให้เจ้านายดื่มอะไรทั้งนั้น นอกจากน้ำเปล่าที่ดีต่อสุขภาพที่สุด

อารมณ์ของคาลิเอโปจึงสงบลง จริงสิพรุ่งนี้เขาต้องประชุมตอนแปดโมงครึ่ง จะไปสายก็ไม่ดี ไม่ไปก็ไม่ได้ หากดื่มสุราจนขาดสติดั่งเช่นทุกครั้ง มีหวังลุกไม่ขึ้นแน่

“ขอบใจ ออกไปพักผ่อนได้แล้ว ฉันอยากอยู่คนเดียว” ลูกน้องหนุ่มเดินออกไปจากห้องทันที รู้ดีว่าเวลานี้คือเวลาส่วนตัวของเจ้านาย เวลาที่รำลึกถึงอดีตที่ไม่เคยลบเลือนจากใจ

เบียร์ในขวดไหลผ่านเข้าไปในลำคอของคาลิเอโปอย่างต่อเนื่อง อาจพูดได้ว่า เขากระดกดื่มแบบไม่พัก ดื่มทีเดียวหมดขวด พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาทางหางตา ความอ่อนแอของเขาเกิดขึ้นทุกครั้งที่เดินทางมายังสถานที่แห่งรัก ความทรงจำต่างๆ ไหลย้อนเข้ามาในสมอง ความสุขที่ผ่านมาแทรกซึมเข้ามาในความรู้สึก

“ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน...แอปเปิล เมื่อไหร่เธอจะมารับฉันไปอยู่ด้วยเสียที ฉันคิดถึงเธอ”

เขารำพึงรำพันถึงวรัญชิญาผู้หญิงคนสุดท้ายที่จะมอบความรักให้ เปลือกตาที่แสนหนักอึ้งของเขาเริ่มปิด เมื่อเบียร์หยดสุดท้ายไหลผ่านลำคอหนาลงไปสู่ท้องที่ไม่มีอาหารตกถึงท้อง ทุกอย่างดูดำมืดเหมือนหัวใจของเขา...หัวใจที่มีแต่ความมืดมิดตั้งแต่วันนั้น วันที่วรัญชิญาจากโลกใบนี้ไป

ภมรเดินออกจากลิฟต์อย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาตั้งใจทำตามแผน ขโมยทรัพย์สินของลูกค้าในห้องพักที่ตนมีหน้าที่เข้าไปทำความสะอาด ห้องพักเป้าหมายคือ ห้องพักชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมาเที่ยวกับครอบครัว และพักอยู่โรงแรมแห่งนี้นานเจ็ดวัน สามวันที่เขาทำความสะอาดห้องพักห้องนี้ มันจะรกจากความซนของลูกสาวและลูกชายคนพัก เขาคิดว่าหากของหายสักสองสามชิ้นคงไม่มีใครสงสัย คงกล่าวโทษลูกทั้งสองคนที่ซน รื้อข้าวของจนหาไม่เจอ

นอกจากพนักงานทุกคนของโรงแรมจะต้องตอกบัตรเข้างาน ยังต้องมาเซ็นชื่อในแผนกแม่บ้านเพื่อรับมอบหมายหน้าที่จากหัวหน้าแผนก ซึ่งปกติแล้วใครทำงานหน้าที่ใดก็หน้าที่นั้น แต่หากใครหยุดก็จะมีคนทำหน้าที่นั้นแทน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป