บทที่ 7 7
7
“ต้อม วันนี้ไม่ต้องไปทำความสะอาดห้องพักแขกนะ”
“ทำไมล่ะพี่สุ ก็พี่สุบอกผมว่าตลอดเดือนนี้ทั้งเดือนให้ทำความสะอาดห้องพักแขกไง แล้วทำไมวันนี้ให้ผมทำความสะอาดชั้นล่างล่ะ” ชั้นล่างในที่นี้ของภมรหมายถึง ตั้งแต่ชั้น 6 ลงมา ซึ่งจะเป็นห้องจัดเลี้ยง ห้องอาหารต่างๆ ห้องออกกำลังกาย ห้องสปาและส่วนต่างๆ ของโรงแรม
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่จะบอกให้ต้อมไปทำความสะอาดห้องของคุณคาร์ล ห้องวีไอพีสวีตแทนบุญต่างหาก วันนี้บุญลาป่วยมาทำงานไม่ได้ พี่ยังไม่ทันจะพูดจบก็ตีโพยตีพายซะแล้ว”
สุปราณีอดที่จะต่อว่าไม่ได้ ภมรค่อยยิ้มออกนึกว่าวันนี้จะได้ไปทำงานที่ชั้นล่างเสียแล้ว คิดในใจไปทำงานห้องของบุคคลชื่อนี้ก็ดี ตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานที่นี่ได้เกือบหนึ่งปี ได้ยินแต่สมญานามของชายหนุ่มคนนี้ว่าทั้งหล่อทั้งรวยและมีความรักอันมั่นคงต่อคนรักที่เสียชีวิตไปนานหลายปี ร่ำรวยขนาดซื้อห้องนั้นได้นั่นหมายความว่า ต้องมีของมีค่าให้หยิบฉวยแน่นอน
“ผมไม่ได้ว่าพี่สุสุดสวยนี่ครับ แค่ตกใจเท่านั้นเอง” เขารีบแก้ตัวโดยการป้อนคำหวานให้
“รีบไปทำความสะอาดเถอะ คุณคาร์ลจะลงมาจากห้องตอนแปดโมง เพราะต้องเข้าร่วมประชุม”
“ครับพี่สุ” ภมรยิ้มหน้าบานเดินออกไปจากห้องแม่บ้านทันที เดินตรงไปที่ลิฟต์พนักงานที่อยู่ไม่ไกลจากห้องแม่บ้าน เพื่อนำพาตนเองมุ่งตรงสู่ห้องของคาลิเอโปชายหนุ่มที่พนักงานในโรงแรมกล่าวขานกันว่า ผู้ชายที่มั่นคงในรัก
ก่อนจะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักลูกค้า ทุกครั้งแม่บ้านและพ่อบ้านจะมาจัดเตรียมของในรถเข็นที่เรียกกันว่ารถแม่บ้าน รถคันนี้นอกจากจะมีอุปกรณ์ทำความสะอาด ยังมีของจำเป็นที่ต้องเติมในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ยาสีฟัน ชุดแชมพูที่จัดเรียงในกระเป๋าใบเล็ก กระดาษชำระ ผ้าขนหนูทั้งสามขนาด ผืนใหญ่ไว้สำหรับนุ่งห่ม ผ้าผืนกลางไว้สำหรับเช็ดผมหรือเช็ดตัว และผืนเล็กที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้า และมีอื่นๆ อีกหลายรายการ ภมรรอจนกว่าจะถึงแปดโมงสิบนาทีจึงเข็นรถออกจากห้องเก็บของ เพื่อไปทำหน้าที่ตนในห้องชุดของคาลิเอโป
ห้องสวีทห้องนี้ใหญ่มากินพื้นที่ครึ่งชั้น มีห้องนอนสองห้อง ห้องโถงใหญ่ มองไปทางด้านซ้ายจะเป็นห้องกินข้าวและมีห้องครัวเล็กๆ ภมรทำงานอย่างสบายใจ ตอนแรกก็แอบคิดมากว่า จะมีลูกน้องของเจ้าของอยู่ในห้องนี้หรือไม่ พอเข้ามาก็พบว่าไม่มีสักคน
ภมรแม้ว่าคิดลักเล็กขโมยน้อยในห้องนี้ ทว่าเขาก็ทำงานอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทำงานไปด้วยหาของมีค่าไปด้วย ส่วนด้านนอกไม่มีอะไรให้เขาลักทรัพย์ แต่เขาก็คิดว่าในห้องนอนน่าจะมีของที่แปลงเป็นเงินได้บ้าง
“อะไรวะ ไม่มีอะไรให้ขโมยเลย” ภมรบ่นอย่างหัวเสีย ในห้องนอนไม่มีอะไรให้เขาหยิบฉวย มีแต่ตู้เซฟที่แน่นอนว่า เขาไม่มีรหัส แล้วคิดว่าของมีค่าคงอยู่ในนั้น “ถ้าไม่มีอะไรติดมือไป ซวยแน่กู”
คนบ่นกับตัวเองถอนหายใจพรืดยาว เดินไปยังห้องน้ำเพื่อทำความสะอาด ภมรชอบทำความสะอาดห้องอาบน้ำก่อน เขาเริ่มจากส่วนที่คิดว่าเหนื่อยที่สุด จากนั้นก็ย้ายมาทำความสะอาดชักโครก ตามด้วยอ่างจากุชชี่ที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้งาน แต่ก็ต้องทำให้มันสะอาดตามหน้าที่ อีกที่หนึ่งก่อนจะมาทำความสะอาดพื้นห้องคือ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า
ที่ตรงนั้นภมรเจอบางอย่าง มันคือสร้อยทองคำขาวที่มีแหวนเพชรวางอยู่ใกล้ ภมรยิ้มกว้างก่อนหยิบแหวนเพชรขึ้นมามอง
“ท่าทางจะได้เงินเยอะ” เขาไม่รู้มูลค่าแหวนเพชร แต่ระดับความรวยอย่างคาลิเอโป ราคาแหวนวงนี้ไม่ธรรมดาแน่ ภมรแล้วรีบสอดเก็บแหวนเพชรไว้ในกระเป๋ากางเกง โดยไม่สนใจสร้อยที่ขาด ก่อนลงมือทำงานต่อไปอย่างสบายใจ…สบายใจที่มีเงินใช้หนี้การพนัน แต่ไม่รู้ว่า หายนะกำลังมาเยือน
17.05 น.
ทันทีที่มาถึงห้องพักร่างสูงใหญ่ของคาลิเอโปเดินไปที่ห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนทันที เพื่อไปหยิบสิ่งหนึ่งที่เขาหวงแหนสุดชีวิต ในมือถือกล่องใส่สร้อยทองคำขาวเส้นใหม่เข้าไปในห้องน้ำด้วย วันนี้เขาตั้งใจจะเปลี่ยนสร้อยเส้นใหม่แทนเส้นเก่าที่ขาด แต่พอมองไปยังตำแหน่งที่วางแหวนเพชรไว้ มันกลับไม่มี มีเพียงสร้อยที่ขาดเท่านั้น เขาพยายามมองหาทั่วเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า แล้วก้มมองดูหาตามพื้น ทว่าก็ไม่เจอของที่หายไป
“สเตฟี่...สเตฟี่” คาลิเอโปร้องเรียกดังลั่น เจ้าของชื่อรีบวิ่งเข้ามาที่ต้นเสียงทันที เพราะน้ำเสียงแบบนี้มาดูท่าทางจะมีเรื่องใหญ่แน่นอน
“ครับเจ้านาย”
“แหวนฉันหาย นายช่วยฉันหาแหวนหน่อยสิ เผื่อมันจะกระเด็นอยู่ที่ไหนสักที่ในห้อง” คาลิเอโปสั่งเสียงเข้ม เขายังไม่ปักใจว่ามีคนขโมยมันไป โทษตัวเองก่อนเพราะอาจมึนๆ ทำแหวนตกไม่รู้ตัว แต่อีกใจก็เชื่อมั่นว่า ตนเองไม่ได้เมาขนาดทำพลาด
สเตฟี่ทำตามคำสั่งของเจ้านายทันที อะไรหายไม่ว่าแต่ถ้า แหวนเพชรวงนั้นหายบรรลัยแน่งานนี้ สเตฟี่กับคารอสช่วยกันหาแหวนทั่วทั้งห้องแทบว่าจะทุกตารางนิ้ว คาลิเอโปนั้นก็ไม่ได้นิ่งเฉย เขาก็ลงมือหาแหวนวงนั้นทั้งในห้องน้ำและห้องนอนหลายครั้ง แต่ยังไร้วี่แวว นั่นทำให้เจ้าของแหวนคิดว่า ต้องมีคนนำมันออกไปจากห้องนี้
