บทที่ 2

หลังจากทานอาหารเช้าแบบสบาย ๆ รชาก็รีบเข้าไปที่บริษัท

ระหว่างทาง เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณนายปรารถนา

“รชา แม่พบป้าของลูกวันนี้ ป้าบอกว่าคุณปู่ของลูกป่วยหนัก ทำไมลูกไม่ไปเยี่ยมท่านที่บ้านพักคนชราหน่อยล่ะ ยังไงแม่ก็ไม่ใช่สมาชิกในบ้านสุรสันติอีกแล้ว มันไม่เหมาะที่แม่จะไป” คุณนายปรารถนารู้ว่าลูกสาวคนโตของเธอหัวรั้น เธอจึงพยายามพูดด้วยน้ำเสียงพูดคุย

"หนูไม่อยากไป" คุณปู่เป็นทหารที่เกษียณแล้วและได้รับเงินบำนาญที่สูงมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่พ่อจอมโลภและเมียน้อยของเขาเห็นเธอไปเยี่ยมคุณปู่ พวกเขาจะทุบตีและดุเธอ หาว่าเธอมาเอาเงินจากคุณปู่

“คุณปู่ของลูกดูแลลูกเป็นอย่างดีก่อนที่ท่านจะป่วย ที่สำคัญท่านอายุเกือบเก้าสิบปีแล้ว ท่านเหลือเวลาไม่มาก แค่ไปที่นั่นสักครั้งเถอะนะ” คุณนายปรารถนาพยายามเกลี้ยกล่อมเธออย่างหนัก

ก่อนที่คุณปู่จะล้มป่วย ท่านเลี้ยงดูสองคนพี่น้องเป็นอย่างดี รชาจึงต้องทำอย่างไม่เต็มใจนัก

“หนูจะไปตอนกลางคืนค่ะ” รชาพูดหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“แล้วจำไว้ด้วย ถ้าดันไปเจอพ่ออย่าพูดมากเชียวนะ” คุณนายปรารถนากำชับ

“ถ้าเขาไม่ยุ่งกับหนูก่อน หนูก็จะไม่ยุ่งกับเขาหรอกค่ะ” แล้วรชาก็วางสายไป

ย้อนกลับไปในตอนนั้น แม่ของเธอคุกเข่าลงกับพื้นและอ้อนวอนพ่อของเธอ ว่าตราบใดที่เขาไม่หย่าและมีบ้านให้เธอและลูกของเธอ เธอจะทำเป็นไม่เห็นความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงคนนั้น

ถึงจะอย่างนั้น พ่อจอมขี้งกของเธอก็ยังไม่พอใจ เขาไม่เพียงแต่หย่ากับแม่เธอเท่านั้น แต่ยังเอาเงินทั้งหมดไปอีกด้วย มีเพียงแม่และลูกสาวสองคนของเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาผ่านความยากลำบากมาอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา...

ทันทีที่รชานั่งบนเก้าอี้ อลิสา หรือลิสา เพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของเธอก็เข้ามาหาและมองดูรชา “นี่แกเพิ่งเลิกกับแฟนไม่ใช่เหรอ ทำไมแก้มแกเป็นสีชมพู”

"เมื่อคืนฉันจ่ายเงินสี่พันห้าซื้อผู้ชายเพื่อปลอบประโลมใจอันแตกสลายของฉัน" รชาพูดและหัวเราะเยาะตัวเอง

"แกไม่มีทางได้ของดีในราคาถูกหรอกยะ!" ลิสาห่อริมฝีปาก

ไม่ว่าพวกเธอจะพูดถึงอะไรกัน จิตใจของพวกเธอก็ยังไร้เดียงสานัก ดังนั้น ลิสาจึงคิดว่ารชากำลังพูดเล่นไร้สาระ

“อะไรก็ช่าง นี่คือข่าวด่วน บอสใหญ่ได้รับแต่งตั้งจากสำนักงานใหญ่ให้มาอยู่กับพวกเราบริลเลียนซ์ กรุ๊ป” จู่ๆ ลิสาก็พูดขึ้น

รชาส่ายหัวอย่างเฉยเมย “ฉันเป็นผู้ช่วยตัวเล็กๆ ใครจะมาเป็นบอสใหญ่ก็ไม่สำคัญหรอก”

“ฉันได้ยินมาว่าประธานคนใหม่เป็นหนุ่มไฟแรงจากสำนักงานใหญ่ พ่อเป็นข้าราชการระดับสูงในจังหวัด และแม่เป็นประธานของสำนักงานใหญ่ ทั้งยังหนุ่มและหล่อ และผู้หญิงทุกคนในบริลเลียนซ์ กรุ๊ปต่างก็เป็นอยากจะเห็นหน้าเขา!” ปากของลิสามีน้ำลายไหลออกมา

“ผู้ชายแบบนี้สูงเกินกว่าที่เราจะเอื้อมถึง” รชากลอกตามาที่เธอ

ขณะเดียวกันผู้จัดการเมธี ซึ่งเป็นหัวหน้าโดยตรงของรชาได้เข้ามาและพูดกับเธอด้วยท่าทีจริงจังว่า "ประธานคนใหม่เข้ามาแล้ว บุคลากรที่ตำแหน่งสูงกว่าระดับผู้ช่วยผู้จัดการทุกคนจะต้องไปประชุมที่ห้องประชุม "

รชาหยิบสมุดบันทึกและปากกาอย่างรวดเร็วแล้วเดินตามเมธี ชินพัฒน์ไป ลิสาขยิบตาให้เธอ รชารู้ว่าลิสาต้องการให้เธอถ่ายรูปบอสใหญ่ในระยะใกล้

มีคนนั่งอยู่ในห้องประชุมเยอะมาก และในฐานะผู้ช่วยตัวตัวน้อยๆ รชาทำได้แค่เบียดตัวเองที่มุมห้อง

ที่จริง เธอไม่ได้สนใจว่าบอสใหญ่จะหล่อแค่ไหน เธอกลับนึกถึงใบหน้าคมชัดที่เธอพบเมื่อเช้านี้ เมื่อคิดถึงใบหน้าที่ขบฟันแน่นของเขา รชาก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากและหัวเราะคิกคัก

เธอรู้สึกผิดไม่มากก็น้อยสำหรับคำพูดร้ายกาจของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ฉวยโอกาสจากเธอเช่นกัน แถมเขายังได้เงินไปอีก ผู้ชายคงฝันอยากจะให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับตัวเองทั้งนั้นแหละ

เมื่อเสียงปรบมือดังขึ้น รชาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาในห้องประชุมพร้อมกับฝูงชนจำนวนมาก

"ทุกคน โปรดต้อนรับ คุณภคิณ กรวณิชกุล ประธานคนใหม่ของบริลเลียนซ์ กรุ๊ป"

รชาจ้องไปที่ "ใบหน้าคมชัดนั้น" เป็นเวลานานพอควร เธอช็อคมากจนหุบปากไม่ลง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป