บทที่ 2 อยากไปให้พ้น

งานแต่งงานถูกยกเลิกกลางครัน เมื่อเจ้าสาวหายตัวไป ครอบครัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างก็ขอโทษแขกเหรื่อที่มาในงาน ศราวุธเองก็ตกใจไม่น้อย เมื่อรู้ว่าปานิศาหายตัวไป มีเพียงภีรณีเท่านั้นที่สะใจ เมื่อได้เห็นวิวาห์ล่ม

"ยังหาปลื้มไม่เจอเหรอ" ประภาภรณ์ยกมือทาบอก หลังจากให้คนช่วยกันออกตามหาจนทั่วโรงแรม แต่ไม่มีใครพบปานิศา ศราวุธกับภีรณีมองหน้ากัน ในขณะพ่อแม่ฝั่งเจ้าบ่าวเริ่มโวยวาย

"ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ คุณภพคุณเกด ยายปลื้มคงไม่ไปไหนหรอกค่ะ" ประภาภรณ์บอกกับพ่อแม่เจ้าบ่าว แต่ภายในใจร้อนรนเป็นห่วงลูกสาวที่สุด

"จะให้ผมใจเย็นได้ยังไง งานพังลงไม่เป็นท่า ผมกับครอบครัวจะเอาหน้าไปไว้ไหน ชื่อเสียงป่นปี้ก็คราวนี้" ไตรภพโวยวาย เพราะอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น นักข่าวพากับประโคมข่าวไปในทางลบ

"คือฉันคิดว่า ยายปลื้มคงมีเหตุผลนะคะ" ประภาภรณ์แก้ตัวแทนลูกสาว

"เหตุผลอะไรจะสำคัญไปกว่างานแต่ง ถ้าไม่แน่ใจก็ไม่ต้องแต่ง นี่อะไรหนีไปจากงาน ทิ้งให้คนข้างหลังต้องอับอาย" การะเกดเห็นดีเห็นงามไปกับสามี เพราะอยากได้สินสอดคืน

"ใจเย็น ๆ นะครับคุณลุงคุณป้า ปลื้มก็เสียหายเหมือนกัน ต้องมีอะไรบางอย่างถึงทำให้ปลื้มหายไป ผมกำลังให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทุกคนใจเย็นก่อนนะครับ" คำว่ากล้องวงจรปิดที่ได้ยินจากปฐวี ทำให้ศราวุธกับภีรณีมองหน้ากัน

"จริงด้วยค่ะ รอดูกล้องวงจรปิดก่อนนะคะ" ประภาภรณ์เห็นด้วยกับลูกชายคนโต ต้องมีเบาะแสของปานิศาอยู่ในกล้องวงจรปิด

"ผมขอตัวนะครับ" ศราวุธขอตัว ภาพในกล้องวงจรปิดคือหลักฐานสำคัญ ถ้ามีการตรวจสอบ ทุกคนจะต้องรู้ว่าเขากับภีรณีทำอะไรเอาไว้

"อย่าเพิ่งไปไหนเลยครับ รอดูกล้องพร้อม ๆ กันดีกว่า" ปฐวีห้ามเอาไว้ เขาคิดว่าสาเหตุที่น้องสาวหายตัวไป ศราวุธน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง นิสัยของว่าที่น้องเขยเป็นอย่างไร เขารู้ดี

"มือถือก็ไม่ได้เอาไป เงินก็ไม่มีติดตัว เราจะทำยังไงกันดี แม่เป็นห่วงน้อง" ประภาภรณ์หันมาถามลูกชาย

"ผมให้เพื่อนสนิทของยายปลื้มโทรหาเพื่อน ๆ สมัยเรียนด้วยกัน เผื่อมีใครรู้ว่าปลื้มหายไปไหน"

"แพมกับเพื่อน ๆ ก็อยู่ในงานนะคะ คงไม่มีใครรู้ว่าปลื้มไปไหนหรอกค่ะ" ภีรณีเสนอความคิดเห็น เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทของปานิศา

"อยู่ในงานแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดนี่ครับ" ปฐวีหันมาพูดกับภีรณี แล้วมองเลยไปยังศราวุธ ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเป็นอย่างไร เขารู้ดี มีเพียงปานิศาเท่านั้นที่ปิดหูปิดตาตัวเอง

"แพมเป็นห่วงปลื้มจังเลยค่ะ" ภีรณีเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวจะวกเข้าหาตัว ท่าทางที่แสดงออกว่าห่วงใยเพื่อน ตบตาปฐวีไม่ได้เลยสักนิด

บทสนทนาต้องจบลง เมื่อเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเข้ามาแจ้งว่า กล้องวงจรปิดพร้อมแล้ว ภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดทำให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวโกรธจัด ปานิศาหนีไปกับเตวิทย์ แถมเธอยังเป็นคนฉุดกระชากเตวิทย์ไปอีกด้วย กล้องวงจรปิดในโรงแรมเสียหลายจุด จึงทำให้ศราวุธกับภีรณีรอดตัว ภาพที่เห็นทำให้ภีรณีกำหมัด เป็นแบบนี้ได้ยังไง ทำไมคนที่พาปานิศาไปคือเตวิทย์

"เป็นแบบนี้แล้วทางคุณจะรับผิดชอบยังไงคะ เจ้าสาวหนีไปกับผู้ชาย ฉันรับไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่อยากแต่งก็น่าจะบอกกันดี ๆ นี่เล่นหนีไปกับชู้ ฉันไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายก็บุญแล้ว" ได้ทีการะเกดก็ใส่ฝั่งเจ้าสาวเป็นชุด คุณประภาภรณ์หน้าเสียเพราะภาพในกล้องวงจรปิดมันฟ้อง ผิดกับปฐวีที่ยืนกำหมัดแน่น เขารู้ว่าปานิศาต้องเห็นอะไรบางอย่างจึงหนีไป ถึงจะไม่มีหลักฐานมาแก้ตัวให้น้อง แต่ก็สบายใจเพราะคนที่พาปานิศาไปคือเตวิทย์ ปฐวีรู้ว่าเตวิทย์รู้สึกยังไงกับน้องสาวของเขา เคยเปิดโอกาสให้เตวิทย์กับปานิศาใกล้ชิดกัน แต่ปานิศาไม่เคยเปิดใจ หัวใจของเธอมีแค่ศราวุธคนเดียวเท่านั้น

"ปัด รู้เรื่องของน้องกับคุณเตหรือเปล่า" ประภาภรณ์ถาม เพราะคิดว่าปฐวีน่าจะรู้เรื่องนี้

"ปลื้มกับคุณเตเคยทำงานด้วยกันครับแม่"

"แบบนี้ไม่น่าจะใช่ผู้ร่วมงานธรรมดานะ" ไตรภพพูดขึ้น

"แล้วทางคุณจะเอายังไง" อานนท์ที่นั่งฟังมานานพูดขึ้น ไม่ชอบใจที่ฝั่งเจ้าบ่าวต่อว่าหลานสาวเสีย ๆ หาย ๆ ถึงปานิศาจะหนีไปกับเตวิทย์จริงก็เถอะ แต่เขาเชื่อว่าหลานต้องมีเหตุผล

"ไม่มีอะไรซับซ้อนนี่ครับ ทางเราขอสินสอดคืนทั้งหมด ดีนะที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ผมคงรับปานิศาเป็นสะใภ้ไม่ได้"

"พ่อครับ ผมว่า..." ศราวุธเอ่ยขึ้นเมื่อพ่อเริ่มโวยวาย ปานิศาร่ำรวยเป็นบ่อเงินบ่อทองของครอบครัว เขามีอะไรกับภีรณีเพราะภีรณียั่วยวนจนห้ามใจไม่ไหว และที่สำคัญภีรณีไม่เรียกร้องอะไร เธอย่อมเป็นเมียเก็บของเขา

"หยุดเลยนะตาวุธ พ่อทำถูกแล้ว แม่ก็รับไม่ได้เหมือนกัน ขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ นะคะ" พูดกับลูกชายแต่ท้ายประโยคประชดให้ฝ่ายเจ้าสาว

"ผมว่ารอให้ปลื้มกลับมา แล้วค่อยคุยเรื่องสินสอดดีกว่านะครับ ทางเราไม่ได้มีเจตนาจะโยกโย้ แต่สินสอดบางส่วนเป็นของเรา ถ้าจะเอาคืนตอนนี้ผมเกรงว่า" คำพูดที่เหลือของปฐวีค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อการะเกดขัดขึ้น

"ภาพในกล้องวงจรปิด น่าจะเป็นหลักฐานให้ทางเราฟ้องเรียกค่าเสียหายได้นะคะ เจ้าสาวหนีไปกับชู้ ศาลน่าจะมีคำตอบดี ๆ ให้เรา" จงใจเน้นคำว่าชู้ ให้ปฐวีและมารดาได้ยินชัด ๆ

"ช่างเถอะปัด คืนส่วนของเขาไปให้หมด แม่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ตกลงเอาตามนี้นะคะ ทางเราคืนสินสอดส่วนที่เป็นของคุณทั้งหมด เรื่องค่าใช่จ่ายในงาน ฉันจะรับผิดชอบเอง" ประภาภรณ์ตัดปัญหาเพราะยิ่งคุยก็ยิ่งมากเรื่อง ปฐวีทำท่าจะค้านเพราะรู้ว่าเงินที่ฝ่ายชายนำมาเป็นสินสอด คือเงินของน้อง ปานิศาไม่อยากให้

ศราวุธเสียหน้า จึงให้ยืมเงินและทองหมั้นบางส่วน

"เอาตามนี้ก็ได้ค่ะ ไม่ใช่ฉันไม่รักไม่เอ็นดูหนูปลื้มนะคะ แต่หนีไปกับผู้ชายแบบนี้ ฉันรับไม่ไหวจริง ๆ" พูดจบการะเกดก็ดึงแขนสามีออกไปจากห้อง ศราวุธกับภีรณีตามออกไปด้วย ทุกคนที่อยู่ในห้องถอนหายใจออกมา จะว่าโล่งอกก็น่าจะใช่ ที่ปานิศาไม่ต้องตกนรกทั้งเป็น ศราวุธกับภีรณีคืองูพิษ ที่ปานิศาเก็บไว้ข้างกาย

"ไม่ต้องห่วงนะครับแม่ ยายปลื้มจะปลอดภัย" บอกกับมารดาเพราะอยากให้ท่านคลายความกังวล

"อธิบายให้แม่ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ปัดติดต่อคุณเตได้ไหม แม่เป็นห่วงน้อง"

"แม่สบายใจเถอะครับ ปลื้มสบายใจก็กลับมาเอง"

"ถ้าปัดติดต่อคุณเตได้ ฝากบอกคุณเตด้วยนะ ว่าแม่ฝากน้องด้วย" ประภาภรณ์บอกกับลูกชาย เป็นแบบนี้ก็ดีคืนสินสอดไปจะได้จบสิ้นกันเสียที

...................................................................................

"งามหน้าจริง ๆ ดีนะที่ได้สินสอดมาด้วย" การะเกดเดินบ่นมาเรื่อยทาง แต่ก็ดีใจที่ได้เงินกลับมามากมาย

"เลิกบ่นเถอะคุณ ได้เงินแล้วก็จบกันไป" ไตรภพบอกกับภรรยา แม้จะเสียดายฐานะทางครอบครัวของว่าที่ลูกสะใภ้ แต่เงินที่ได้มาก็จำนวนไม่น้อย สามารถนำมาตั้งตัวได้เลย

"แพมขอตัวนะคะ" ภีรณีเอ่ยขอตัวเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ

"ไม่กลับด้วยกันเหรอ" ศราวุธถาม

"แพมนึกได้ว่ามีงานด่วน เจอกันคืนนี้นะคะ" พูดจบภีรณีก็เดินจากไป หัวใจของหญิงสาวร้อนระอุด้วยความอิจฉา เตวิทย์คือผู้ชายที่เธอหมายปอง ถึงแม้จะมีศราวุธแต่คนที่เธออยากใช้ชีวิตด้วยคือเตวิทย์ ที่เธอทนอยู่กับศราวุธเพราะอยากเอาชนะปานิศา เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปานิศาเสียใจ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป