บทที่ 8 8
เหตุการณ์ผ้าหลุดต่อหน้าผู้ชายแปลกหน้าลอยผุดขึ้นมาในมโนนึกอีกครั้ง ทำเอาหญิงสาวต้องแก้มแดงลามไปถึงลำคอระหง ในขณะที่ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอเมื่อรู้ว่าเธอกำลัง'นึก'ถึงอะไร
“ตกลงว่าคุณจะไปเป็นเจ้าสาวให้ผมได้มั๊ยครับ” เขาถามออกมา พลางมองไปยังสวนดอกไม้ที่ออกดอกสะพรั่งหลายสีสัน
“ถ้าฉันยอม ฉันจะได้พบแม่ใช่มั๊ย” เธอย้อนถาม
“ผมไม่รับปากว่าคุณจะได้พบแม่หรือเปล่า แต่ผมสัญญาว่าจะช่วยคุณตามหาแม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” เขาหลุบเปลือกตาลงมองทรวงอกที่พุ่งดันเสื้อยืดออกมาของเธอพร้อมกับคิดอะไรไปเรื่อยจนแทบจะกู่ไม่กลับ
“หน้าตาของคุณตอนนี้มันหื่นเป็นบ้า” พีระดาว่าออกมาตรงๆจนชายหนุ่มแทบจะกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“อะไรนะ คุณว่าผมหื่นงั้นเหรอ” คิ้วเข้มถูกยกขึ้นสูง ดวงตาคมพราวระยับอย่างขบขัน
“ใช่ ลูกกะตาคุณมันฟ้อง” หญิงสาวว่าออกมาตรงๆ แล้วหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะพูดประโยคต่อไปออกมาว่า “เงินแค่แสนเดียวคงไม่พอสำหรับงานชิ้นนี้”
“เจอกันไม่นานก็ขอขึ้นค่าตัวเชียวนะ งกว่ะ” เขาบ่นอุบอิบพลางส่ายหน้าไปมา ตอนแรกที่เห็นหน้าแม่ค้าขนมครกคนนี้ เขาก็นึกว่าเธอจะดูซื่อๆไร้พิษสงและ..ไร้ปากเสียงซะอีก ที่ไหนได้... เค็มพอตัวเชียวล่ะ
“ฉันไม่ได้งกนะ” หญิงสาวเถียงขึ้นมาทันที
“ก็นี่แหละที่เขาเรียกว่างก”
“คุณนั่นแหละ เป็นถึงเศรษฐีแต่ขี้เหนียวเป็นบ้า”
“ว่าไงนะยัยขนมครก คุณนั่นแหละโคตรจะงก”
“ถ้าไม่พอใจก็ไปจ้างคนอื่นสิอีตาเศรษฐีขี้ตืด”
ทั้งสองฝ่ายประสานสายตากันอย่างไม่ลดละ ก่อนที่ชายหนุ่มจะลดสายตาลงมองที่อกอวบของเธออีกครั้ง .. เพียงเท่านี้อารมณ์ร้อนๆของเขาก็เย็นลงได้ในพริบตา เขาจึงเลื่อนสายตาขึ้นมาสบกับดวงตาลุกวาวของเธอใหม่แล้วถามออกมาเสียงนุ่มจนหญิงสาวเองยังนึกแปลกใจว่า
“คุณต้องการค่าจ้างเท่าไหร่?”
“ฉันต้องการ1ล้านบาทสำหรับ1ปีที่ฉันต้องไปเป็นเมียคุณ” เธอยื่นข้อเสนอขึ้นมาโดยไม่ต้องคิด ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้มีทีท่าเดือดร้อนอะไร เขาเพียงแค่กระตุกรอยยิ้มขึ้นมาพร้อมกับพยักหน้า
“ได้ 1แสนบาทสำหรับงานที่คุณต้องทำ ส่วนอีก9แสน ผมจะจ่ายให้เป็นค่าพรหมจารีย์ของคุณ” ประโยคนั้นของภีรวัทน์ทำเอาหน้านวลๆต้องแดงก่ำขึ้นมาอีกรอบ
“งั้นก็ตกลงตามนี้...ฉันจะเป็นเจ้าสาวให้คุณเอง!!”
“ดี งั้นก็ตกลงตามนี้... 1ปีกับลูกอีก1คน” เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจพร้อมกับก้มหน้าลงมาหมายจะก้มจูบแก้มนวลแต่หญิงสาวกลับผงะถอยห่างอย่างตกใจ
“แต่คุณต้องให้เวลาฉันบ้าง ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม” เธอก้มหน้านิ่งพลางพูดอุบอิบ ใบหน้านวลร้อนผ่าวราวกับจะจับไข้
“ผมมีเวลาจำกัดนะ แค่3เดือน คุณต้องท้อง” เขาเกาท้ายทอยแกรกๆอย่างขัดใจพร้อมหันหน้าไปทางอื่นแล้วลอบถอนหายใจลึกๆ
“แล้วฉันต้องไปอยู่บ้านคุณใช่ไหม” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องถาม
“ใช่”
“ฉันขออยู่ทำใจที่บ้านฉันก่อนได้หรือเปล่า บ้านหลังนี้พ่อเป็นคนสร้างให้ฉัน ฉันไม่อยากจากมันไปแบบปุบปับ” เธอต่อรองเสียงอ่อน รู้สึกแย่ไม่น้อยที่อยู่ๆก็ต้องมาทำงานแปลกๆแบบนี้ งานที่ไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย!
“คุณจะย้ายไปอยู่บ้านของผมเมื่อไหร่”
“อีก3วัน” หญิงสาวตอบในขณะที่เขาพยักหน้าหงึกหงัก แล้วทำเนียนพูดหน้าตายออกมาว่า
“งั้น3วันนี้ผมขออยู่บ้านคุณด้วย”
“อะไรนะ!!”
“จะตกใจทำไมเล่า ให้ตายเถอะ เสียงคุณนี่แหลมเป็นบ้า” เขาทำท่าตบหูตัวเองไปมาพร้อมกับเบ้ปาก
“มาอยู่บ้านฉัน คนอื่นเขาจะคิดยังไง”
“ก็เรื่องของคนอื่นสิ ยังไงคุณก็ต้องมาแต่งงานกับผมอยู่แล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า อย่าคิดมากเป็นยายแก่นักเลย”
“จะให้มาอยู่กันก่อนแต่งนี่นะ!” หญิงสาวยังคงทำหน้าเหมือนไม่เห็นด้วย ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่ยักไหล่ราวกับว่าเธอนี่ช่าง'เต่าล้านปี'เหลือเกิน
“คุณนี่หัวโบราณชะมัด”
“ใครจะไปทันสมัยเหมือนคุณกันล่ะ” พีระดาค้อนตาคว่ำ
“ผมเป็นเจ้านายของคุณนะ แล้วก็จะเป็นเจ้าบ่าวของคุณด้วย อย่ามาขัดคำสั่งผม”
พีระดาเม้มปากแน่น เหลือบตาขึ้นมองใบหน้ากวนๆของชายหนุ่มอย่างขัดใจ ก่อนจะพูดออกมาว่า
“คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ที่นี่ไม่สะดวกเหมือนบ้านคุณ”
“รู้ได้ไงว่าที่บ้านผมมันสบาย”
“คนรวยๆอย่างคุณต้องอยู่บ้านสบายๆอยู่แล้วล่ะ”
“ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ได้” เขาพูดพลางเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าคนอย่างเขาต้องอยู่ได้ทุกที่อย่างแน่นอน
“เหรอคะ” หญิงสาวยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ และเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรหนักๆมากดทับที่อกแบบนี้มันคืออะไร
“ครับ” เขายิ้มรับ ดวงตาคมสีน้ำตาลพราววิบวับขึ้นเมื่อก้มลงมองเรียวปากอิ่มของหญิงสาว
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว...ขอเขามัดจำเป็นจูบหน่อยคงไม่ผิดอะไรสินะ
ชายหนุ่มคิดพร้อมกับยกมือขึ้นเชยคางหญิงสาว ดวงตาคมสบกับดวงตากลมโตอย่างมีความหมาย
พีระดาอยากจะผลักเขาออกห่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร มือของเธอจึงไม่ยอมผลักเขาตามที่สมองสั่ง หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักเมื่อริมฝีปากสีชมพูอ่อนของเขาค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อะไรบางอย่างที่กระโดดมาเกาะที่รองเท้าหนังของเขาทำให้ชายหนุ่มต้องชะงักพร้อมกับก้มลงมองที่รองเท้า
“เฮ้ยยย!!” ภีรวัทน์ร้องลั่น อารมณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวหายวับในพริบตา เมื่อเปล่งเสียงออกมาด้วยความตกใจว่า “คางคกกระโดดเกาะรองเท้าผม!!”
ร่างสูงเพรียวในชุดลำลองแบบสบายๆก้าวเดินเข้ามาภายในบริเวณบ้านกว้างใหญ่ ดวงตาเรียวเหลียวมองไปรอบๆห้องโถงก่อนจะมาหยุดที่ร่างของสตรีสูงวัยที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่บนโซฟาตัวใหญ่
“อ้าว คุณแม่ พี่ภีมไม่อยู่บ้านเหรอครับ ไม่เห็นจะมีรถจอดที่โรงรถ” พิพัฒน์ถามผู้เป็นมารดาพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมารินใส่แก้วดื่ม
