บทที่ 5 คนไหนเจ้าสาว
ถามว่าฉัตรนลินทร์สนใจมั้ย ไม่เลยเธอไม่ชายตามองคนทั้งคู่ด้วยซ้ำ
“ห้องเปลี่ยนชุดอยู่ทางนั้นค่ะ”
“ค่ะ” ฉัตรนลินทร์รับชุดแล้วเดินไปทางห้องที่พนักงานแนะนำ
“หลีกไปดิ” อยู่ ๆ หญิงสาวก็เดินมากระแทกไหล่ของฉัตรนลินทร์ แล้วเธอก็แย่งเข้าห้องนั้นไป ฉัตรนลินทร์ได้แต่ถอนหายไป เธอเลยเปลี่ยนไปเข้าอีกห้องหนึ่ง
เพียงไม่นานเกวลินก็ออกมาจากห้องแต่งตัว เธอหมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้าห้อง
“พี่ไตรพี่ว่าสวยมั้ยคะ...พี่ไตร” เกลเริ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางเหม่อลอยของศิวัฒน์ “พี่ไตร!”
“คะ...ครับ”
“สวยมั้ยคะ”
“สวยครับ” ขณะพูดสายตากลับมองไปยังคนที่เพิ่งเดินออกมา
“สวยมากเลยค่ะคุณฉัตร” พนักงานสาวรีบเดินไปหาฉัตรนลินทร์
“จะสวยแค่ไหนกัน พวกชอบแย่งสามีชาวบ้านเนี่ย” เธอพูดเหน็บแนมฉัตรนลินทร์ และพยายามเก็บซ่อนความอิจฉาไว้ภายในใจ เพราะชุดที่ฉัตรนลินทร์ใส่นั้นสวยมากจริง ๆ
ด้านพนักงานที่เห็นความผิดปกติตั้งแต่แรก พวกเธอเริ่มซุบซิบกันถึงลูกค้าทั้งสามคน
“คนไหนเจ้าสาวตัวจริงวะ”
“เออ นั่นสิกูก็งง”
“ฉันว่าคนนั้น” พนักงานคนหนึ่งทำปากจู๋ไปทางเกวลิน
“แล้วคนนั้นล่ะ” อีกคนทำหน้าสงสัย
“ตกลงคนไหนวะ” ทั้งหมดหันมาหน้ากัน
“พี่ฟาร่าคะ” พนักงานตัวอวบกวักมือฟาร่าคนที่จัดชุดให้ฉัตรนลินทร์เข้ามาหา
“มีอะไร แล้วจับกลุ่มทำอะไรกันเนี่ย ทำไมไม่ไปช่วยดูลูกค้า” เธอดุพนักงานรุ่นน้องกราย ๆ
“พวกเรามีเรื่องสงสัย”
“เรื่องอะไร”
“สรุปคนไหนเจ้าสาว” พนักงานตัวอวบถามออกไปตรง ๆ
“คุณฉัตร”
“อ้าวแล้วคนนั้นล่ะ” พนักงานอีกคนแอบชี้ไปทางเกวลิน
“นั่นแฟนคุณไตร”
“หา!!”
“พี่ช่วยขยายความหน่อย”
ทั้ง ๆ ที่ฟาร่าพูดชัดเจนแล้ว แต่พวกเธอถามซ้ำเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง มีเรื่องแบบนี้จริง ๆ เหรอ
“นั่นคือคนที่คุณศิเลือกให้ ส่วนคนนั้นคุณไตรเลือกเอง” ฟาร่าอธิบาย
“คนหนึ่งเป็นคนรักแต่ไม่ใช่เจ้าสาว ส่วนอีกคนได้เป็นเจ้าสาวแต่ไม่ใช่คนรัก”
“โอ้ย! ซับซ้อนจัง แล้วเค้าจะอยู่กันสามคนเหรอ”
“ไปอยากรู้เรื่องอะไรของเขา” ฟาร่าเอ่ยปราม
พูดจบฟาร่าก็ปลีกตัวออกมา เธอเดินกลับไปหาฉัตรนลินทร์ที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเสร็จ และนั่งยืนรออยู่หน้าห้องเปลี่ยนชุด
“คุณฉัตรคะ”
“นี่ค่ะ” ฉัตรนลินทร์ยื่นชุดคืนให้ฟาร่า
“ชุดพอดีตัวหรือเปล่า ต้องแก้ตรงไหนมั้ยคะ”
“พอดีค่ะ”
“โอเคเลยค่ะ เดี๋ยววันถ่ายพรีเวดดิ้งทางร้านได้จัดหาช่างแต่งหน้าให้เรียบร้อยแล้วนะคะ”
“ค่ะ” ฉัตรนลินทร์ยิ้มอ่อน ๆ ให้พนักงานสาว “ถ้าเสร็จแล้วฉัตรของตัวก่อนนะคะ พอดีมีธุระต่อค่ะ”
“อ๋อ ได้ค่ะ”
ฉัตรนลินทร์เดินไปหยิบกระเป๋าตรงโซฟาข้าง ๆ กับที่ศิวัฒน์นั่งอยู่ เขาเงยหน้ามองเธอ ยิ่งเห็นใบหน้านิ่ง ๆ ที่ดูเย่อหยิ่งนั้นเขาก็นึกอยากจะปราบพยศเธอเหลือเกิน
“วันถ่ายพรีเวดดิ้ง ฉันขอขับรถไปเองนะคะ”
“ไม่ได้!”
“ฉันขอคุณป้าแล้วค่ะ”
“หึ...อะไร ๆ ก็บอกแม่ฟ้องแม่ เธอระวังตัวไว้ให้ดี”
“ค่ะ” พูดจบฉัตรนลินทร์ก็หมุนตัวกลับแล้วก็ต้องเผชิญหน้ากับเกวลินพอดี แต่เธอเลือกที่จะเบี่ยงตัวหลบ คนแบบเกวลินเธอเจอครั้งแรกก็พอจะเดานิสัยของเธอได้ ฉัตรนลินทร์เลยไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
ถึงวันที่ทั้งคู่ต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะงานแต่งใกล้เข้ามาทุกทีงานทุกอย่างเลยดูเร่งรีบไปหมดจนฉัตรนลินทร์เองมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก เพราะเธอต้องขับรถไปกลับกรุงเทพกับบ้านเกิดสัปดห์ละหลาย ๆ รอบ ร่างกายเลยอ่อนเพลีย เช้านี้เธอเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
“ฉัตรไหวมั้ยลูก” ผู้เป็นแม่ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเขามาเห็นลูกสาวกำลังนอนซม
“ไหวค่ะแม่”
“เลื่อนไปก่อนดีมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ่ายให้มันเสร็จ ๆ ไป หนูจะได้กลับไปทำงานอีก”
“ให้พี่ขับรถไปส่งนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ วันหยุดทั้งทีให้พี่พักเถอะ หนูขับไหว”
ฉัตรนลินทร์เธอมีพี่ชายหนึ่งคน ทั้งคู่ห่างกันสามปี ซึ่งตอนนี้พี่ชายของเธอก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว แถมยังมีเจ้าตัวน้อยวัยสามขวบหนึ่งคน
ปี๊น!
เสียงแตรรถที่ดังอยู่หลายครั้งทำให้คนในบ้านแปลกใจว่าใครกันนะทำไมถึงไม่มีมารยาทแบบนี้ แต่กลับมีคนหนึ่งที่รู้ดีว่าคนที่ทำพฤติกรรมแย่ ๆ นี้เป็นใคร
“หนูออกไปดูเองค่ะ”
พูดจบฉัตรนลินทร์ก็ลุกแล้วเดินออกไป และก็ไม่ผิดหวังกับความคิดของตัวเอง เพราะเขาใช่คนที่เธอคิดจริง ๆ
“คุณมีธุระอะไรคะ”
“วันนี้มีถ่ายพรีเวดดิ้งเธอลืมไปแล้วหรือยังไง”
“ไม่ลืมค่ะ”
“เห็นเธอยังไม่แต่งตัว”
“ฉันไม่รีบนี่คะ”
“ไปอาบน้ำแต่งตัวฉันจะรอ” เขาพูดพลางดับเครื่องยนต์
“รอทำไมคะ”
“ก็รอไปพร้อมกันไง”
มาแนวนี้อีกแล้ว ฉัตรนลินทร์รู้สึกเสียวสันหลังยังไงไม่รู้ สองครั้งที่ถูกทิ้งไว้กลางทางบอกตรง ๆ เธอเข็ด
“ฉันบอกคุณแล้วไงว่าฉันจะขับรถไปเอง”
“บอกตอนไหน” เขาทำเป็นจำไม่ได้
“คุณอย่ามาทำไขสือ”
“ไหน ๆ ฉันก็มาแล้ว ไปเถอะ” เขาพูดแกมอ้อนวอนจนฉัตรนลินทร์เองก็แปลกใจ
“คุณไปก่อนเถอะ” เธอยังใจแข็ง “คุณจะทำอะไร”
“แขกมาไม่เห็นเชิญเข้าบ้าน เธอมันไม่ได้เรื่องเลย”
“เดี๋ยว ๆ คุณ คุณไม่ได้ยินที่ฉันบอกหรือไง”
ศิวิฒน์ไม่สนใจ เขาเดินผ่านฉัตรนลินทร์แล้วเข้าไปในบ้าน
“สวัสดีครับ”
