บทที่ 66 66

“ใครบอกกันล่ะ ปลายรุ้งน่ะเหมือนลิงทะโมน แต่เธอน่ะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เธอใจเย็น ไม่งั้นปลายรุ้งจะชอบอ้อนเธอเหรอ”

“อ้อนเหมือนเด็กนะเหรอคะ คิดว่าปัทเป็นแม่แทนพี่สาวล่ะรายนั้น” เธอยิ้มบางๆ เขมชาติยิ้มตาม เวลาเห็นคนในอ้อมแขนยิ้ม เขามักจะยิ้มตามอย่างลืมตัวเสมอ

“เค้าก็เหมาะกับนายนนท์ดีนะ ดื้อๆ แบบนั้นให้นายนนท์ปราบพยศเลย”

“คุณนนท์จะปวดหัวเอาน่ะสิไม่ว่า”  สีหน้าของปิ่นปัทมาอ่อนโยนทุกครั้งเมื่อเอ่ยถึงคนเป็นน้องสาว

“ไม่หรอก นายนนท์คงชอบ ปลายรุ้งเหมาะกับนานนท์มากนะ” สำหรับเขมชาติแล้ว เขาเห็นผู้หญิงรอบตัวเพื่อนรักก็พอจะรู้ว่าเป็นยังไง ทุกคนคิดแค่เรื่องเงิน ผลประโยชน์หรือไม่ก็เซ็กซ์ แต่สำหรับปลายรุ้ง เธอสดใสร่าเริง ตรงไปตรงมา และไม่ได้หวังเงินทองของชานนท์

ชานนท์เองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว การได้คู่ครองเป็นเด็กกว่าแต่สดใสร่าเริงและตรงไปตรงมา ทำให้ชีวิตดูมีสีสันและมีชีวิตชีวา แตกต่างจากเขา เขาชอบผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านแม่เรือน เรียบร้อยอ่อนโยน มองโลกในแง่ดีและทัศนคติตรงกัน คุยกันเข้าใจ ไม่ชอบผู้หญิงแบบปลายรุ้งที่เถียงตลอด เป็นตัวของตัวเองจนชวนให้ปวดหัว ปิ่นปัทมาคือผู้หญิงในอุดมคติ เธอใจเย็นเสมอ แต่ถึงกระนั้น เขาก็อาจจะยังไม่เห็นอารมณ์อื่นๆ ของเธอ

แม้จะใจเย็นแค่ไหน เขาก็เคยเห็นคนใจเย็นอารมณ์ขึ้นมาแล้ว เพราะตั้งแต่ปิ่นปัทมาท้อง บางครั้งอารมณ์ของเธอก็แปรปรวน ขี้งอน ขี้น้อยใจอยู่เหมือนกัน

“ง่วงหรือยังล่ะ”

“นิดหน่อยค่ะ”

“นิดหน่อยก็ต้องนอนได้แล้วล่ะ ฝืนไปเดี๋ยวไม่สบาย จะปวดหัวเอาได้”

“คุณเขมล่ะคะ ง่วงหรือยัง”

“จะชวนขึ้นเตียงเหรอ”

“แน้... ทำมาเป็นพูด”

“อะไรกัน ทำหน้าแบบนี้ หาว่าฉันไม่ทำการบ้านรึ”

“ไม่พูดด้วยแล้ว ยิ่งพูดยิ่งทะลึ่ง” เอากับเขาสิ อารมณ์แบบนี้ใช่ว่าใครจะเห็นง่ายๆ เธอเห็นอยู่คนเดียวเท่านั้นแหะ แล้วคำพูดประมาณนี้แหละ สีหน้าประมาณนี้เธอก็เห็นอยู่คนเดียว เห็นแล้วก็ฟินคนเดียว เพราะคนอื่นจะเห็นแค่หน้าขรึมๆ ของเขาเท่านั้น

“อุ้มขึ้นนอนไหม”

“ไม่เอาหรอกค่ะ ปัทตัวหนักจะตายไป ตัวก็กลมเหมือนแตงโม คุณเขมจะหนักเปล่าๆ”

“อุ้มไหวน่า ทั้งเมียทั้งลูก ฉันแข็งแรงจะตายไป ดูกล้ามสิ” เขาโชว์กล้ามและซิกแพ็ก

“รู้หรอกค่ะว่ากล้ามใหญ่ ซิกแพ็กแข็ง” เธอต่อยหน้าท้องของเขาเล่นๆ เพื่อหยอกล้อ

“อุ้มเมียทุกวันยังได้เลย”

“รู้ค่ะว่าอุ้มได้ แต่ปัทตัวหนักจริงๆ เดี๋ยวพลาดขึ้นมาเป็นอันตรายนะคะ”

“จะไม่ให้พลาด”

“ประคองขึ้นไปก็พอค่ะ” เธอบอกยิ้มๆ

“เปลี่ยนใจได้นะ” เขาทาบหน้าผากกับหน้าผากของเธอ มองสบตากันอย่างลึกซึ้ง

“ไม่เปลี่ยนใจค่ะ” เขมชาติประคองร่างอวบขึ้นบนห้องนอน เขาห่มผ้าให้ จุมพิตหน้าผากนูนเกลี้ยงอย่างแสนรัก

“เธอใกล้คลอดแล้วใช่ไหม” เขาถามอย่างตื่นเต้น ปิ่นปัทมายิ้มตอบกลับไป ก่อนพยักหน้า ใครจะคิดว่าผู้ชายที่ดูเย็นชา เหมือนไม่ค่อยใส่ใจอะไรใครอย่างเขมชาติ จะจดจำวันที่คุณหมอนัดตรวจท้องได้ทุกครั้ง จะจำรายการอาหารบำรุงและวิธีการดูแลตัวเองของเธอได้ทุกอย่าง เขาชวนเธอไปฝึกโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และถามเธอทุกครั้งว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง เจ็บปวดตรงไหนไหม ที่สำคัญยังชอบคุยกับลูกทุกวัน

เขมชาติลูบท้องนูนๆ ของภรรยาไปมา เขามีสีหน้าตื่นเต้นทุกครั้งที่ท้องเธอกระเพื่อม แต่เธอสินิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อโดนลูกเตะท้องเข้าให้

“ลูกคงอยากฟังนิทานน่ะ” เขาบอกอย่างตื่นเต้นกว่าเดิม แล้วการเล่านิทานของคุณพ่อมือใหม่ก็เกิดขึ้น เขมชาติมีหนังสือนิทานสำหรับเด็กเยอะมาก เขาเล่านิทานให้ลูกฟังเผื่อมายังเธอ และที่ทำให้เธอนอนหลับฝันดีก็คงเป็นเพลงสากล สำเนียงยังกับเจ้าของภาษาที่เขาชอบร้องให้ลูกฟัง เขาบอกเสมอว่าหัดให้ลูกฟังภาษาอังกฤษเอาไว้ตั้งแต่อยู่ในท้อง ลูกจะได้เก่ง คลอดออกมาพูดภาษาอังกฤษได้เลย เธอรู้ว่าเขาพูดเวอร์ แต่เหมือนลูกจะชอบให้เขาร้องเพลงกับเล่านิทานให้ฟังทุกคืน วันไหนไม่ได้ฟังมักเกเรกับเธออยู่เรื่อย

เขมชาติห่มผ้าให้คนที่หลับไปแล้ว เขานอนตะแคงใช้ข้อศอกยันกับพื้นเตียงเอาไว้ ก่อนจะลูบกลุ่มผมนุ่มสลวยของเธอเบาๆ อย่างแสนรัก

“ฝันดีนะ” สีหน้าของเขาอ่อนโยนขณะทอดสายตามองคนเป็นเมีย

“ฉันรักเธอนะ รอให้เธอคลอด ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย” ตั้งแต่อยู่กินกันมาจนเธอตั้งท้องและจะถึงกำหนดคลอดอยู่รอมร่อม ปิ่นปัทมาไม่เคยเรียกร้องสิทธิ์ ทะเบียนสมรส เงินทองข้าวของหรือแม้แต่งานแต่งงาน ยิ่งเธอไม่เรียกร้อง เขาก็ยิ่งอยากให้

“เธอกับลูกมีค่าที่สุดในชีวิตของฉันนะ” เขาจำได้ว่าเห็นเธอยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อมองน้องสาวในชุดแต่งงาน เธอไม่เคยมาเรียกร้องให้เขาจัดงานแต่งงานใหญ่ๆ ให้ ไม่เคยอยากได้อะไรจากเขาเลย

เขมชาติถามตัวเองว่า เขาล่ะ ให้อะไรเธอบ้าง ผู้หญิงที่อดทนและดูแลเขาด้วยดีเสมอมา ผู้หญิงที่มองเขาด้วยความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ ไร้สิ่งใดแอบแฝง เขาโอบกอดเธอไว้หลวมๆ ซุกหน้าที่ซอกคอของเธอ เป็นท่าประจำที่เขาชอบ ตอนเธอไม่ได้ตั้งครรภ์ เธอมักจะโอบกอดใบหน้าของเขาและดันให้เขาซุกที่อกอวบๆ มันอ่อนโยนเหมือนเธอเป็นแม่ของเขา มันอบอุ่นและเต็มไปด้วยความสุขใจ เขารู้ดีว่าการได้กอดซุกเธอแบบนั้นคือความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้ แม้ภายนอกห้องนอน เขาคือเจ้านาย คือผู้นำที่ต้องดูแลลูกน้องมากมาย คือคนที่ต้องตัดสินใจเด็ดขาด แต่เมื่ออยู่ภายในห้องกับผู้หญิงที่เขารัก เขากลับเหมือนเด็กชายตัวโตที่ขาดความอบอุ่น และต้องการอ้อมแขนของเธอเหลือเกิน

เธอเหมือนแสงสว่าง เธอคือความอ่อนโยนแสนหวานที่เข้าอกเข้าใจเขาในทุกที่ทุกเวลา เธอเหมือนหยาดฝนชโลมใจ และเขาทนไม่ได้ที่จะต้องเสียเธอไป

“เขมว่ายังไงล่ะเรื่องลูก พอปิ่นปัทมาคลอดแล้วจะให้เงินเธอไปสักก้อน หรือจะให้เธออยู่ดูแลลูกก่อน ถ้าให้อยู่ดูแลลูกก่อน อาจจะลำบากนะ เพราะสายสัมพันธ์ของคนเป็นแม่ลูก ถ้าจะตัดก็ต้องตัดซะก่อนตอนนี้”

“คุณป้ายังคิดถึงเงื่อนไขนี้อยู่อีกเหรอครับ” เขมชาติเอ่ยถามเสียงขรึม

“ป้าจะถามให้แน่ใจ ตอนแรกที่ป้าตกลงกับรัตนาก็คือจะให้ปิ่นปัทมา มาเป็นเมียชั่วคราวของเขม เพราะเขมต้องมีทายาทสืบสกุล ป้าเองก็แก่ขึ้นทุกวัน กิจการมากมาย ตายไปจะให้ใครดูแล เขมเองก็คงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับแม่ปัทใช่ไหม”

“ยังครับ” เขมชาติมีสีหน้าเคร่งเครียด

“วันนั้นที่คุยกับแม่ปัท เมื่อเกือบปีมาแล้ว ป้าก็รู้ทันทีว่าแม่ปัทไม่รู้เงื่อนไขนี้ คิดว่าโดนหลอกมาเป็นเมียเขมและคงต้องเป็นไปตลอด ป้าไม่ได้บอกเพราะคิดว่าถ้าบอกไปว่าพอมีลูกต้องไปจากเขม เธออาจจะไม่ยอมเป็นเมียเขมก็ได้”

“ผมก็ไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้ครับคุณป้า” เขมชาติบอกผู้เป็นป้า

“ถ้าเขมพร้อมก็บอกเค้าไป ลูกเอาไว้กับเรา ต้องทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับลูกอีก ไม่ใช่พอลูกโตไป แล้วจะมาเรียกร้องอะไรอีกมากมาย ป้าไม่อยากมีปัญหาตามมา” ปิ่นปัทมาที่ไม่ได้ตั้งใจมาแอบฟังถึงกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง เธอเผลอสะอื้นออกมาจนต้องเดินหนี ไม่อยากฟังว่าสองป้าหลานคุยอะไรกันต่อ ที่แท้ทุกคนก็หลอกเธอกันหมด ที่เขมชาติดีกับเธอเพราะเขาอยากได้ลูก เธอเข้าใจผิดไปเองว่าเขารักเธอ ที่เขาอ่อนโยนดูแลเธอดีก็เพื่อลูกทั้งนั้น เขาดูแลลูกต่างหากไม่ใช่ดูแลเธอ

คุณนวลแขก็เป็นคนที่มีหน้ามีตา มีคนนับหน้าถือตา จะมาคว้าเธอซึ่งเป็นแค่ลูกหนี้ ผู้หญิงจนๆ มาเป็นหลานสะใภ้ได้ยังไง

นั่นสินะ! ตลอดเวลาเขมชาติไม่เคยบอกรักเธอเลย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป