บทที่ 11 11

“แต่ป้ารสบอกว่าหยาไม่ยอมกินยา ไม่เหมือนเรา กี่เม็ดๆ เราก็กินหมด เรากินยาง่ายนะจะบอกให้” เขตต์อวดอ้าง

“ไอ้หมูตอนขี้โม้” มาหยาว่าให้ ย่นจมูกใส่เพื่อน

“ถ้าตัวเองไม่หายเรากับรินจะไปเที่ยวสวนสนุกกับอาเขื่อนกันแค่สามคน” เขตต์ยกนิ้วขึ้น ทำเอามาหยาตาโต

“เราจะไปด้วย”

“งั้นก็ต้องกินข้าวแล้วก็กินยา จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน” เขื่อนพูดขึ้น

“ก็ได้ค่ะ” มาหยาอ้าปากรับข้าวต้มที่เขื่อนป้อนให้อย่างไม่อิดออดเพราะกลัวไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วก็เขื่อน

“ปกติเราไม่ให้อาหมอป้อนข้าวสาวที่ไหนหรอกนะ แต่สำหรับเธอ เราให้เป็นพิเศษ” เขตต์เห็นว่าเพื่อนป่วยเลยยินยอม คนขี้หวงก็ห่วงเพื่อน กลัวจะป่วยหนักไปกว่านี้แล้วอดไปเที่ยวด้วยกัน

ดารินคอยเช็ดปากและรินน้ำให้เพื่อนด้วยท่าทีกระตือรือร้น รติรสเห็นแล้วอดพูดกับสามีไม่ได้

“ยายรินดูรักลูกสาวเราจังเลยนะคะ นี่ถ้าเป็นพี่น้องกันคงดีไม่น้อย คุณภพเองก็เถอะ พอฝากฝังได้ก็ฝากไม่หยุด ไม่รู้จักถึงความเกรงใจกันบ้างเลย”

“เอาน่า ยายรินน่าสงสาร อย่าคิดมากน่าคุณ”

“รสไม่ได้คิดมากนะคะ ยินดีและเต็มใจดูแลดารินเหมือนลูกอีกคน แต่สงสารที่แกมีพ่อแบบคุณภพ เจ้าชู้ก็ที่หนึ่ง นี่ถ้าไม่มีเราจะทำยังไงคะ ทิ้งลูกเอาไว้ไม่ค่อยดูแล ให้แต่เงินทอง เด็กไม่ได้ต้องการแค่เงินหรอกนะคะ ความรักความอบอุ่นในครอบครัวสำคัญที่สุด” รติรสตำหนิบิดาของดารินเพราะนึกไม่ชอบใจมานานแล้ว

“ผมเข้าใจคุณนะ สงสารดารินเหมือนกัน”

“สงสารนี่แหละค่ะเลยไม่อยากทิ้งขว้างเห็นว่าอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน” ดารินมักจะเกรงใจ ยิ่งเธอกับสามีดีเท่าไหร่ก็ยิ่งเกรงใจ นั่นทำให้รติรสสงสาร ดารินเข้าไปอีก ดีที่มาเจอเธอกับสามีแล้วก็มีเพื่อนอย่างมาหยากับเขตต์ ถ้าไปเจอคนไม่ดี ดารินอาจจะโดนหลอกได้

มาหยากินข้าวต้มจนหมดชามในเวลาอันรวดเร็ว นั่งคุยกับเพื่อนรักทั้งสองและเขื่อนอีกครู่ใหญ่ก็เผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยา เขื่อนจึงพาดารินและเขตต์กลับบ้าน หลังจากนั้นอาการของมาหยาก็ดีวันดีคืนจากการดูแลของบิดามารดา รวมถึงเพื่อนรักทั้งสองที่หมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยๆ เอาของกินอร่อยๆ มาให้มาหยากินทุกวัน เขื่อนเองก็แวะเวียนมาตรวจดูอาการของเด็กน้อยทุกวันจนเธอกลับมาวิ่งเล่นได้ดังเดิม

เขื่อนพาเด็กๆ ไปเที่ยวสวนสนุกและไปเล่นน้ำที่สวนน้ำตามที่สัญญาเอาไว้ เสียงเด็กๆ หัวเราะคิกคักตีน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนานขณะที่ว่ายน้ำไปมาอยู่ในสวนน้ำ เด็กๆ สอดตัวเข้าไปในห่วงยางลูกเป็ดเล่นกันอย่างมีความสุข เขื่อนว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลความปลอดภัยให้เด็กๆ

“อาหมอขา... รับหยาด้วย” มาหยายกมือขึ้นข้างตัวเพื่อให้เขื่อนอุ้ม ตอนนี้เขื่อนต้องสลับกันพาเด็กๆ เล่นสไลด์เดอร์ แจ่มที่ตามมาด้วยคอยดูเด็กๆ อยู่อีกด้าน

เขื่อนกอดเด็กน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน มาหยากรีดร้องขณะที่ร่างสไลด์ลงไปตามร่องน้ำ ก่อนจะกระโจนลงไปในน้ำ เธอมีชูชีพและห่วงยางอันน้อยอีกหนึ่งอันรัดเอวเอาไว้ แต่มาหยา ดารินและเขตต์ว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เด็กเพราะเขื่อนสอนให้เด็กๆ ว่ายน้ำเป็นจะได้ไม่จมน้ำ

“อาเขื่อนผมอยากเล่นด้วย” เขตต์ยกแขนขึ้นอ้อนให้ผู้เป็นอาพาไปเล่นสไลด์เดอร์ด้วย ความสุขของเด็กๆ เกิดขึ้นในทุกๆ วัน สำหรับดารินแล้วการมีเพื่อนคือความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ ทำให้เธอไม่เคยรู้สึกเหงาเลย บิดาไม่ค่อยมีเวลาให้     แต่เธอมีบิดามารดาของมาหยาคอยเติมเต็มคำว่าครอบครัวให้ มีอาเขื่อนคอยถามไถ่เรื่องต่างๆ คอยให้คำปรึกษาไม่เคยปล่อยให้เธอต้องอยู่อย่างเดียวดาย

พอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม เขตต์ก็ย้ายไปอยู่กับปู่ย่าที่ภาคเหนือเพราะได้ข่าวว่าวารุณีย้ายไปเรียนที่โน่นด้วย เขาแอบชอบวารุณีมานาน พยายามทำทุกอย่างให้เธอหันมาสนใจแต่เธอก็ไม่เคยสนใจเขาเลย

“โชคดีนะเขตต์ ปิดเทอมอย่าลืมกลับมาเยี่ยมเรากับรินนะ” มาหยายืนส่งเขตต์ที่หน้าบ้าน เด็กหนุ่มวัยสิบห้ายิ้มกว้างให้เพื่อนรักทั้งสองก่อนจะโผเข้ากอดมาหยาและดาริน

“ยังไม่สัญญานะว่าจะลงมาปักษ์ใต้ได้ไหม แต่สัญญาว่าจะโทร. หาพวกเธอสองคนเสมอ” เขตต์ให้คำมั่นสัญญา หลังจากเขตต์เดินทางไปอยู่ภาคเหนือกับปู่ย่าก็ติดต่อมาหาเพื่อนรักทั้งสองอยู่ตลอด จนเรียนจบมัธยศึกษาปีที่หกและแจ้งข่าวดีว่าสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของสงขลา จะย้ายกลับมาอยู่บ้านเกิดกับเขื่อนที่นี่ สร้างความดีใจให้สองสาวเป็นอันมาก และสองสาวก็มีข่าวดีเช่นกัน เพราะสอบติดคณะพยาบาลศาสตร์ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขตต์

เขื่อนนั่งสนทนาอยู่กับเพื่อนบ้านทั้งสองด้วยรอยยิ้ม รติรสกับพงศ์อินทร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่บุตรสาวคนเดียวสอบติดคณะพยาบาลศาสตร์ ด้วยความที่รักบุตรสาวเป็นอันมาก จึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บุตรสาวสอบติดในคณะที่ตัวเองสนใจจะเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ

มาหยาเจริญวัยเป็นสาวน้อยวัยสิบแปดที่สวยหวานน่ารักและเรียนเก่ง เป็นที่รักของบิดามารดาและเพื่อนๆ จากเด็กน้อยจอมแสบไม่กลัวใครในวันนั้นกำลังจะเข้ารั้วมหาวิทยาลัยกลายเป็นนักศึกษาพยาบาลที่หนุ่มๆ แย่งกันขายขนมจีบไม่เว้นวาง

“นี่ก็ดีใจใหญ่ที่สอบพยาบาลได้ นัดกับหนูรินและเพื่อนๆ เอาไว้ว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันก่อนปิดเทอม” คุณรติรสพูดแล้วยิ้มไม่หุบ มองบุตรสาวที่สะพายเป้ลงมาจากบ้านแล้วหันมาคุยกับเพื่อนบ้านต่อ

“ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยต้องฝากเขื่อนด้วยนะจ๊ะ ถือว่าดูแลเหมือนลูกหลาน” ท่านฝากฝังเพราะเขื่อนเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยที่มาหยาเรียนอยู่ อีกอย่างอาจจะต้องให้เขื่อนช่วยติวหนังสือให้เหมือนสมัยก่อน

“ครับพี่” เขื่อนรับคำด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“คุณพ่อขา คุณแม่ขา หนูไปก่อนนะคะ” มาหยาเอ่ยบอกบิดามารดาเสียงใส

“แล้วเราไปยังไง ยายรินมาแล้วหรือ” รติรสเอ่ยถาม

“มาแล้วค่ะ โน่นไงค่ะ อาหมอหนูหยาลานะคะ” เธอยกมือไหว้เขื่อนด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เขื่อนเป็นคุณหมอวัยสามสิบเจ็ดปีที่หล่อเหลาสะอาดสะอ้าน แถมยังนิสัยดีอีกด้วย สาวๆ แย่งกันขายขนมจีบแต่เขื่อนก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน จนบางคนหาว่าเขาเป็นเกย์

มาหยายิ้มหวานให้อาหมอหนุ่มข้างบ้าน เธอหลงรักเขามานานแล้วถึงได้มุ่งมั่นที่จะสอบพยาบาลให้ได้เพราะอยากจะอยู่ใกล้ๆ เขา อยากเป็นพยาบาลที่ทำงานกับเขา เห็นหน้าเขาทุกวัน

“ครับ” เขื่อนรับคำเสียงนุ่ม มองเด็กสาวด้วยสายตาอ่อนโยน

“อย่าลืมที่สัญญากันเอาไว้นะคะ” มาหยาตั้งใจพูดกับเขื่อนโดยเฉพาะ

“สัญญาอะไรกันเอาไว้เหรอ” พงศ์อินทร์เอ่ยถามบุตรสาวคนเดียว

“สัญญากันเอาไว้ว่าถ้าหนูสอบติด อาหมอจะให้รางวัลน่ะค่ะ”

“เรานี่ก็กวนอาหมอ” รติรสว่าให้

“ไม่กวนหรอกครับ” จริงๆ สิ่งที่เขาสัญญากับเธอก็ไม่มีอะไรมากมาย เธออยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเขา แต่เพราะไม่อยากให้บิดามารดารู้ เธอเลยอ้างว่าจะไปกับดารินแทน อาจเพราะความไม่เหมาะสมเลยไม่กล้าบอกไปตรงๆ แม้เขาจะเอ็นดูเธอมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว จะไปไหนมาไหนก็ต้องระมัดระวังไม่เหมือนแต่ก่อน

ดังนั้นหลังจากมาหยาออกไปแล้ว เขาก็คงต้องกลับไปแพ็กกระเป๋าเดินทางและตามไปรับเธอที่หน้าปากซอย ด้วยว่านัดกันเอาไว้ที่นั่น

“เขื่อนก็ต้องไปทำธุระต่างจังหวัดใช่ไหมเห็นว่าจะไปอบรม ไปเถอะพี่ไม่กวนแล้ว แค่จะฝากฝังยายหนูตอนไปเรียนเท่านั้นเอง”

“ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” เขื่อนเอ่ยขอตัวกับพงศ์อินทร์และรติรส ทั้งสองพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนเดินไปส่งบุตรสาวขึ้นรถดารินหน้าบ้าน

“เดินทางดีๆ นะ แล้วไปกันกี่คนล่ะหนูริน” รติรสเอ่ยถามดาริน

“ไปกันหลายคนค่ะคุณแม่ รินมารับหยาก่อนเป็นคนแรก” ดารินโกหกคำโต แต่เพื่อช่วยเพื่อนให้สมหวัง หากพูดไปตรงๆ ว่ามาหยาอยากไปเที่ยวกับเขื่อนสองต่อสอง บิดามารดาของมาหยาต้องไม่ยอมแน่ๆ เพราะมันไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวจะไปไหนมาไหนด้วยกันแถมยังไม่ใช่อาหลานกันจริงๆ แม้เขื่อนจะมีหน้าที่การงานที่ดี รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ตามที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป