บทที่ 23 23

ท่านไม่ขี้บ่นเพราะไม่สนใจไยดีเธอเลย

“ถ้าหยาออกนอกลู่นอกทางเขื่อนก็ช่วยเตือนหลานด้วยนะ” เขื่อนรู้สึกเหงื่อตกเมื่อได้ยินประโยคนั้น มาหยาคงออกนอกลู่นอกทางกับเขานี่แหละ ถ้าพงศ์อินทร์รู้เข้า เขาคงศพไม่สวยแน่ๆ

“ครับพี่พงศ์” คุณหมอหนุ่มรับคำ

“แหมคุณพ่อ หนูเคยทำอะไรไม่ดีนอกลู่นอกทางเหรอคะ”

“ไม่เคยก็ไว้ใจไม่ได้ เราน่ะเป็นผู้หญิง ผิดพลาดอะไรนิดหน่อยก็เสียหายแล้ว ตั้งใจเรียนหนังสือให้จบก่อนค่อยกว่ากัน ฟงแฟนยังไม่ถึงเวลาก็ไม่ต้องมีหรอก ทำงานแล้วมีโอกาสเจอผู้ชายดีๆ อีกเยอะ”

“ตอนนั้นหนูคงขึ้นคานแล้วค่ะ” มาหยาพูดขำๆ

“อย่าเถียงคุณพ่อสิจ๊ะ พ่อเขาพูดถูก เราเลี้ยงตัวเองให้ได้ก่อนถึงค่อยมีแฟน ความรักในวัยเรียนคบกันขำๆ ยังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ พลาดท่าเสียทีไปจะมานั่งเสียใจทีหลัง” รติรสเอ่ยสอนบุตรสาวอีกคน

“แค่กๆๆ” เขื่อนถึงกับสำลัก หยิบทิชชูมาเช็ดปากแทบไม่ทัน เขายกน้ำขึ้นดื่มกลืนข้าวแทบไม่ลง

“ค่อยๆ กินสิเรา สำลักหน้าแดงไปหมดแล้ว” พงศ์อินทร์มองหน้าแขกอย่างห่วงใย

“ขอโทษครับ ผมรีบกินไปหน่อยน่ะครับ” เขื่อนแก้ตัวข้างๆ คูๆ ส่วนเขตต์นั้นเอาแต่มองหน้าดาริน กินข้าวไปมองหน้าไป ทำเอาดารินเริ่มขัดเขินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“เขื่อนว่าพี่พูดจริงไหม เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว ขืนชิงสุกก่อนห่ามเกิดท้องโย้ขึ้นมาผู้ชายไม่รับผิดชอบได้อับอายขายขี้หน้า เด็กสมัยนี้ไวไฟเสียเหลือเกิน”

“แค่กๆๆ” คนสำลักรอบนี้คือมาหยา เธอหยิบทิชชูมาเช็ดปาก ยกน้ำขึ้นดื่มแทบไม่ทัน ดารินคอยช่วยลูบหลังลูบไหล่ให้เพื่อนรัก ทั้งนึกขำทั้งนึกเอ็นดูเพื่อนอยู่ไม่น้อย

“คุณน่ะขี้บ่นไปได้ ดูสิสำลักกันไปใหญ่แล้ว เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า” รติรสว่าให้

“ถ้าวิชาไหนมาหยาเรียนไม่เข้าใจพี่คงต้องอาศัยไหว้วานเขื่อนแล้วละ เขื่อนเก่งคงสอนหลานได้”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมยินดีและเต็มใจ”

“ได้ยินแบบนี้ก็ค่อยเบาใจหน่อย เราก็อย่าดื้อมาก ถ้าอาเขื่อนเขาห้ามเขาเตือนอะไรก็ฟังเอาไว้ ผู้ชายมาจีบก็อย่าไปใจอ่อนให้จับมือถือแขน แตะเนื้อต้องตัว ถ้าเขารักเราจริงเขาต้องรอเราได้”

“ค่ะคุณพ่อ” มาหยารับคำบิดา เขื่อนนั่งเหงื่อตก เขายกทิชชูขึ้นซับเหงื่อไม่หยุดหย่อน อายุปูนนี้แล้ว ไม่กี่ปีจะสี่สิบ เขาจะเสียผู้เสียคนเพราะเด็กจริงๆ น่ะเหรอ

“ร้อนหรือเขื่อน นี่ก็ปรับลดแอร์แล้วนะ ดูเหงื่อสิออกเต็มเลย” พงศ์อินทร์เอ่ยถามอย่างสงสัย

“เมื่อกี้ผมเผลอตักพริกกินเข้าไปน่ะครับ เลยรู้สึกผิด เอ๊ย! รู้สึกเผ็ดนิดหน่อย” เขาตอบแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม ดารินมองหน้าเขื่อนกับมาหยาแล้วแอบขำ พอหันไปมองหน้าเขตต์ก็หน้าแดงเล็กน้อย เขตต์มองเธอไม่วาง และดูเหมือนเขาเองก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แค่ไม่พูดออกมาเท่านั้น

“เผลอกินพริกกับขิงเข้าไปน่ะสิ เมื่อกี้พี่ก็เห็น นึกว่าเราชอบกินขิงกับพริกสดๆ เสียอีก” พงศ์อินทร์หมายถึงปลากระพงผัดขิงที่ภรรยาใส่พริกขี้หนูสวนเผ็ดๆ เข้าไปด้วย เขาชอบรับประทานทั้งพริกทั้งขิง ภรรยาเลยใส่มาให้เยอะเป็นพิเศษ

“ครับพี่ อร่อยจนตักเพลินไปหน่อย โดนขิงเข้าไปด้วยเผ็ดยกกำลังสองเลยครับ” เขื่อนเองก็เพิ่งรู้ว่าเขาตักกับข้าวมากินแบบไม่ดูตาม้าตาเรือเลย เพราะใจมัวแต่พะวงกับคนที่ใช้ทั้งมือและขาลวนลามเขาอยู่ใกล้ๆ ไหนจะประโยคของพงศ์อินทร์ที่สุดแสนจะหวงลูกสาวอีก ทำเอาเขาถึงกับเหงื่อตก ตักอาหารด้วยมืออันสั่นเทา

“วันหลังมารับประทานอาหารด้วยกันอีกนะทั้งเขื่อนทั้งเขตต์นั่นแหละ กินข้าวด้วยกันหลายคนแบบนี้เจริญอาหารดี” พงศ์อินทร์พูดกับสองอาหลานเมื่อคุณหมอหนุ่มขอตัวกลับ

“ครับ ขอบคุณมากครับสำหรับอาหารที่แสนอร่อย ไว้วันหลังผมจะมาฝากท้องใหม่นะครับ” เขื่อนกล่าวขอบคุณเพื่อนบ้านที่แสนดีทั้งสอง

“เดี๋ยวหนูเดินไปส่งอาเขื่อนกับเขตต์ที่หน้าบ้านนะคะ”

“ไปเถอะๆ” พงศ์อินทร์โบกไม้โบกมือให้บุตรสาวเพราะสนิทคุ้นเคยกันดี และเขื่อนก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ทั้งสุภาพเรียบร้อย หน้าที่การงาน ฐานะการศึกษาและชาติตระกูลก็ดีไม่เคยมีอะไรด่างพร้อย นั่นทำให้พงศ์อินทร์นิยมชมชอบและให้ความสนิทสนมกับเพื่อนบ้านหนุ่มเป็นอย่างดี

“รินไม่ไปส่งเราบ้างเหรอ” เขตต์เอ่ยถามดาริน เธอหน้าแดงก่อนจะส่ายหน้าไปมา ทำเอาเขตต์รู้สึกเก้อ

“รินไปส่งเขตต์หน่อยสิ” แต่มาหยารีบกระแทกไหล่เพื่อนกระซิบกระซาบให้เดินไปส่งเขตต์ก่อน ไม่ใช่อะไรหรอก เธอจะได้อยู่สองต่อสองกับเขื่อนยังไงล่ะ ดารินจึงเดินไปพร้อมกับเขตต์ โดยเดินนำหน้าไปก่อนและมีเขื่อนและมาหยาเดินรั้งท้าย

“ฝันดีนะคะอาหมอ” เธอบอกเขาขณะเดินมาส่งที่หน้าบ้าน ในขณะที่เขตต์เดินเข้าบ้านไปก่อนแล้ว ดารินโบกไม้โบกมือลาแล้วเดินกลับบ้านไปก่อน ไม่อยากเป็น กอ. ขอ. คอ. เพื่อนสาวกับคุณอาหนุ่ม

“ครับ”

“อาหมอคะ คืนนี้ดาวสวยจังเลยค่ะ” เธอชี้นิ้วไปบนท้องฟ้า เขาจึงมองตามก่อนที่ปากนุ่มๆ ร้อนๆ จะประทับบนแก้มหนุ่มเร็วๆ

“ทำอะไรครับ เดี๋ยวอาก็โดนพ่อเรายิงหัวเอาหรอก” เขื่อนพูดหน้าตาตื่น ยกมือขึ้นลูบแก้มไปมา ใบหน้าร้อนเห่อแดงก่ำลามไปถึงใบหู แสงไฟหน้าบ้านส่องสว่างชัดเจน ทำให้มาหยาได้เห็นว่าอาหมอของเธอกำลังเขินที่โดนหอมแก้มแบบนี้

“คุณพ่อไม่เห็นหรอกค่ะ หยาดูแล้วว่าปลอดคน ตรงนี้มีต้นไม้บังอยู่ คืนนี้อย่าลืมฝันถึงหยานะคะ” เธอยิ้มหวานให้เขา คุณหมอหนุ่มยกมือขึ้นลูบท้ายทอยไปมา โดนเด็กอ่อยแล้วขาระทวยทุกทีสิน่า

“ครับ” คนตอบลูบแก้มตัวเองเบาๆ มาหยาโบกไม้โบกมือก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เขื่อนยกมือขึ้นจับแก้มแล้วเผลอยิ้ม

ให้ตายดิ้นสิ! โดนเด็กหอมแก้มแล้วฟินเป็นบ้าเลย

คุณหมอหนุ่มเดินตาลอยอมยิ้มเข้าบ้าน คืนนี้เขาคงนอนหลับฝันดีอีกคืน

“ฮั่นแน่! ผมเห็นนะครับว่าอาเขื่อนโดนยายหน้าซาลาเปาทำไม่ดีไม่ร้าย”

“เฮ้ย!” เขื่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ เขตต์ก็โผล่หน้ามาแหย่ในระยะเผาขน

“ตกใจอะไรกันครับ ผมรู้หรอกว่าอาเขื่อนกับยายหน้าซาลาเปาต้องอะไรๆ กันแน่ๆ”

“รู้ดี” เขื่อนว่าหลานชาย

“ผู้หญิงดีๆ สวยๆ เยอะแยะ อาหมอไม่น่าเสร็จยายหน้าซาลาเปาเลยนะครับนี่” เขตต์แกล้งว่า

“ไปอาบน้ำนอนได้แล้วไป” เขื่อนไล่หลานชาย

“ผมยังนึกไม่ออกเลยนะครับนี่ ว่าถ้าผมได้ยายหน้าซาลาเปามาเป็นอาสะใภ้จะเป็นยังไง สงสัยเวลาไม่พอใจคงไล่ต่อยผมแน่ๆ เลย ยายนี่โหดจะตาย”

“เราก็อย่าไปแหย่เขามากสิ”

“นี่พ่อแม่เขารู้ไหมครับ แต่ผมเดาว่าคงไม่รู้”

“เราก็อย่าทำให้อาเสียวไส้สิ เดี๋ยวโดนยิงไส้แตก” ประโยคของผู้เป็นอาทำให้เขตต์หัวเราะท้องแข็ง ก่อนจะรีบวิ่งหนีขึ้นห้องไปอาบน้ำเพราะว่าโดนสายตาดุๆ ส่งมาหา

ทางด้านมาหยานั้น เธอเดินกลับเข้าบ้านด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะนั่งคุยกับบิดามารดาอยู่อีกครู่ใหญ่แล้วจึงเอ่ยขอตัวขึ้นห้องนอน

“มาลองชุดว่ายน้ำกันดีกว่าริน สุดสัปดาห์นี้จะไปเที่ยวทะเลกันไง” มาหยาดึงเพื่อนเข้ามาในห้องนอน

“จะไปเที่ยวทะเลกับอาหมออีกแล้วเหรอ”

“ใช่ แต่รอบนี้อยากชวนรินไปด้วย เราซื้อชุดว่ายน้ำมาเผื่อด้วยนะ”

“ไม่เอาดีกว่าไม่อยากไปเป็นกอ. ขอ. คอ.”

“ไม่เป็น กอ. ขอ. คอ. หรอก หยาเห็นรินเหงาๆ ไม่อยากทิ้งรินเอาไว้คนเดียว”

“รินชินแล้วจ้ะ อยู่บ้านก็นอนอ่านหนังสือหรือนิยาย ไม่ก็อ่านการ์ตูนแก้เบื่อ รินไปด้วยหยาก็ไม่ได้จู๋จี๋กับอาหมอสิจ๊ะ”

“ไม่ไปจริงๆ เหรอ”

“อืม...” ดารินพยักหน้าให้เพื่อน ไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอ สมัยก่อนบิดาของมาหยาหวงมากกว่านี้อีกไม่ยอมให้ไปต่างจังหวัดแบบนี้หรอก นอกจากคุณครูมาขออนุญาตหรือไปกับครอบครัว แต่พอจบมัธยมปลายก็อนุญาตให้ไปเที่ยวได้บ้างเพราะคิดว่าโตแล้วและกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป